31 มี.ค. 2023 เวลา 04:57 • ปรัชญา

"อย่าใจร้ายกับตัวเองนัก"

การที่เราตกอยู่ในสภาวะ หดหู่ ซึมเศร้า ดำดิ่ง เสียศูนย์เสียสมดุลในชีวิต ส่วนหนึ่งก็มาจากการปล่อยหรืออนุญาติให้คนหรือสภาพแวดล้อมบนโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย นำความสับสนเข้ามาฝังอยู่ในจิตใจของเรา
หากยิ่งปล่อยให้มันอยู่นานมากขึ้นเท่าไหร่ มันจะยิ่งหยั่งรากฝังลึกเข้าไปจนยากที่จะขุดค้นมันออกจากจิตใจของเราไปได้..."ยิ่งอยู่นาน ยิ่งกัดกร่อน"
มนุษย์ปุถุชนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆมันก็เป็นเช่นนั้นแล... มีสุขมีเศร้า เหงาๆเซื่องๆ คละเคล้ากันไป
แต่มันจะมีมนุษย์อีกประเภทนึง ที่ได้รับการอัปเกรดจิตใจของตนเองได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยหลักการง่ายๆที่ว่า "มึงก็แค่ไม่ยอมให้ปัจจัยภายนอกใดๆมากระทบและทำให้ศูนย์เสียความเป็นตัวมึง ก็เท่านั้น...
ผลที่ได้จากสิ่งที่ทำก็คือ คนประเภทนี้ล้วนเป็นคนที่เดินอยู่บนเส้นทางของความสำเร็จกันทั้งนั้น...
แล้วปุถุชนคนอย่างผม เมื่อรู้แบบนี้ ก็ต้องรีบเร่งสำรวจตัวเองก่อนเลยว่ามีอะไรบ้างที่่ชอบดอดมาทำให้เราอ่อนแอ และเกิดความต๊อแต๊กับชีวิต
ค่อยๆทยอยลิสต์ออกมาจนเต็มหน้ากระดาษ ลองกลับมาไล่อ่านอีกทีตกใจอุทานเบาๆใจในว่า "นี่กูรอดตายตั้งแต่ครึ่งหน้าแรกได้ก็ถือว่าบุญหัวแล้ว"
ผมค่อยๆเริ่มสร้างพลังบวกให้กับตัวเองโดยการหมั่นคิดบวกเสมอ เพื่อดึงดูดพลังบวกที่มีอยู่ในจักรวาลนฤมิตรให้เข้ามาสะสมในจิตใจ แทนที่ความรู้สึกในแง่ลบที่มันปะปนอยู่ในทุกอนูความคิด
"ในเมื่อลบล้างมันไม่ออก ก็เอาแทนที่แม่งซะเลย!"
ในขณะเดียวกันก็เริ่มฝึกฝนตัวเอง โดยแยกตัวเองเป็นสองส่วน ให้มันชื่อว่า ไอ้ตัวร่างกาย กับคุณจิตใจ เมื่อกายมันหนักนักก็ปล่อยมันไปก่อน ค่อยๆสั่งสอนจิตใจตัวเองว่าอย่าเพ้อกับอะไรๆให้มันมากนัก เดี๋ยวร่างจะพังรับไม่ไหว หนี้สินที่แบกมันมาไว้ตั้งแต่บรรพกาลมันยังอยู่กับเราได้ ก็ให้มันอยู่กับเราไปก่อนเผื่อเหงา ค่อยๆแก้มันไป "เมื่อใจมันนิ่ง หนี้สินมันก็ดูน้อยลงไปเอง"
ผมเริ่มกลับมาดูแลจิตใจตัวเองมากขึ้น เคารพและชื่นชมตัวเองบ่อยขึ้น โดยไม่ต้องรอคำหวานจากปากใคร...ทำมาได้เกิน 30 วันแล้วรู้สึกชอบตัวเองมากขึ้นนะ รู้สึกว่าร่างกายก็มีพลังงานมากขึ้นด้วย
ผมจะมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองเพื่อไปสู่ชีวิตที่ดีกว่าเดิม ...เบื่อแล้วกับวังวนคนหาเช้ากินค่ำ ลิมตาอ้าปากไม่ได้ซักที ใครยังเพิ่งเริ่มต้นก็มาเดินไปด้วยนะครับ มิตรภาพมันดีเสมอแหละ
โฆษณา