31 มี.ค. 2023 เวลา 12:30

เรียนรู้การปฏิเสธ เพราะเคล็ดลับการทำงานให้เสร็จเร็วที่สุดคือการ “ไม่ทำ”

เคยตอบ “ได้ค่ะ/ได้ครับ” ทั้งๆ ที่ในใจไม่ได้อยากทำงานนั้นไหม?
1
เชื่อว่าในช่วงที่ก้าวเข้าสู่โลกการทำงานปีแรกๆ หลายคนคงเคยเป็นคนที่ไม่รู้จักการปฏิเสธ และตอบตกลงทุกงานแม้ว่างานนั้นจะไม่ใช่หน้าที่ของเรา
ไม่ว่าเราจะตอบตกลงเพราะอยากแสดงความกระตือรือร้น หาโอกาสในการพัฒนาตัวเอง หรือเพราะเกรงใจหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานก็ตาม คำว่า “ทำได้” ย้อนกลับมาทำร้ายเราเสียเกือบทุกครั้ง
จากงานที่มีจำนวนหนึ่งอยู่แล้ว อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นงานงอกเต็มไปหมด จนเราต้องอดหลับอดนอนเพื่อทำทั้งงานเดิมและงานใหม่ที่รับมาให้เสร็จ และอย่าพูดถึงเรื่องคุณภาพงานเลย บางครั้งแค่ทำให้เสร็จตรงเวลาก็ยากพอแล้ว
สำหรับคนที่เผชิญสถานการณ์เช่นนี้อยู่ รู้ไหมว่ามี “เคล็ดลับ” ในการทำงานทั้งหมดนี้ให้เสร็จเร็วขึ้นกว่าเดิม?
1
เคล็บลับที่ว่า คือ “การปฏิเสธ” นั่นเอง
#เข้าใจคำว่า “ไม่” กันใหม่
เจมส์ เคลียร์ ผู้เขียนหนังสือชื่อดังเรื่อง Atomic Habits บอกว่า แม้ความหมายของคำว่า “Yes” กับ “No” เหมือนจะตรงตัวและตรงข้ามกันชัดเจน แต่จริงๆ แล้วคำว่า “Yes” (ตกลง) มีความหมายมากกว่าการรับงานตรงหน้า และคำว่า “No” (ไม่ตกลง) นั้นก็มีความหมายมากกว่าการปฏิเสธงานตรงหน้า
3
เมื่อเราตอบว่า “Yes” เท่ากับว่าเราตกลงรับผิดชอบงานนั้นๆ พร้อมกับงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกันที่อาจจะตามมา และยังเท่ากับว่าเราปฏิเสธ “เวลา” ในการทำงานอื่นๆ ไปด้วย!
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราตกลงเป็นสตาฟในงานอีเวนต์ของบริษัท เราอาจคิดว่าเราคงใช้เวลากับงานนี้เพียง 8 ชั่วโมงในวันงานจริงเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วเราลืมไปว่า เรายังต้องเสียชั่วโมงในการเข้าประชุมตั้งแต่การ Kick-Off โปรเจกต์ การประชุมหลายต่อหลายครั้ง ไปจนถึงการบรีฟครั้งสุดท้ายก่อนวันงานจริง
1
แถมชั่วโมงที่ใช้ไปเหล่านี้ยังเบียดเบียนเวลาทำงานหลักของเรา จนเรามีเวลาทำงานน้อยลงอีกด้วย ทิม ฮาร์ฟอร์ด นักเศรษฐศาสตร์และนักเขียน เคยกล่าวไว้ว่า “ทุกๆ ครั้งที่เราตอบตกลงคำขอ เรากำลังปฏิเสธสิ่งอื่นๆ ที่เราอาจทำให้เสร็จในช่วงเวลานั้น”
1
ในทางตรงกันข้าม การปฏิเสธไม่ใช่เพียงแค่การไม่รับงานตรงหน้า แต่ยังหมายความว่าเราได้รักษาเวลาอันล้ำค่าไว้สำหรับความรับผิดชอบอื่นๆ และโอกาสดีๆ อื่นๆ ด้วย
1
#ฝึกปฏิเสธเริ่มต้นอย่างไร
3
เปโดร โซเรนติโน นักลงทุน เคยกล่าวไว้ว่า “If you don’t guard your time, people will steal it from you.” (หากเราไม่ปกป้องเวลาของเรา คนอื่นจะมาขโมยจากเราไป)
1
จริงที่เวลานั้นมีค่าราวกับสกุลเงินในโลกการทำงาน แต่ก็ต้องยอมรับว่าการปฏิเสธนั้นเป็นเรื่องยากกว่าสำหรับพนักงานตัวเล็กๆ ที่พึ่งเริ่มทำงาน และง่ายกว่าสำหรับพนักงานที่มีอำนาจและตำแหน่งสูง อย่างไรก็ตาม การปฏิเสธเป็นทักษะที่พนักงานทุกคนควรฝึกไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
1
แต่จะเริ่มอย่างไร? ในบทความ The Ultimate Productitivity Hack is Saying No ของเจมส์ เคลียร์ ได้แนะนำวิธีการปฏิเสธฉบับ ทิม ฮาร์ฟอร์ด ซึ่งก็คือ เมื่อเราได้รับคำขอให้ทำงานบางอย่าง ให้ถามตัวเองว่า..
“ถ้าต้องทำสิ่งนั้นในวันนี้เลย ยังจะตกลงอยู่ไหม”
ถ้ายังรู้สึกกระตือรือร้นกับโอกาสนี้จนถึงขนาดอยากหยุดงานที่ทำอยู่มาเพื่อทำงานนี้ เท่ากับว่ามันอาจคุ้มค่าในการตอบตกลง แต่ถ้าไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น อาจต้องมาพิจารณากันอีกทีว่า เรามีเวลาพอในการทำงานนี้โดยไม่กระทบงานอื่นหรือเปล่า
1
นอกจากนั้นแล้ว บทความ 3 Ways to Say “No” to Your Boss จาก Harvard Business Review ยังได้แนะนำอีก 3 เคล็ดลับในการรู้จักการปฏิเสธ เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1) อย่าตอบตกลงทันที
เมื่อได้รับคำขอ เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องไม่ตกลงทันทีและใช้เวลาคิดอย่างน้อยหนึ่งวัน โดยให้ถามตัวเองว่า
[ ] โอกาสในการทำงานนี้จะให้อะไรเราบ้าง
[ ] จะช่วยพัฒนาทักษะที่เราต้องการไหม
[ ] เป็นโอกาสสำคัญให้เราเรียนรู้ในเรื่องที่ต้องการหรือเปล่า
[ ] เรามีเวลาพอในการทำงานนี้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่องานอื่นและสุขภาพของเราไหม
4
2) หากต้องปฏิเสธ ให้บอกเหตุผลด้วย
การพูดว่า “ไม่ได้/ไม่สะดวก” เฉยๆ อาจฟังดูมะนาวไม่มีน้ำไปสักหน่อย เราอาจต้องใส่เหตุผลเพิ่มด้วย เช่น มันอาจกระทบกับงานอื่นๆ ที่สำคัญสำหรับเรามากกว่า เป็นต้น
3) ต่อรองด้วยข้อมูล
หากเรารู้สึกว่าเหตุผลที่ให้ไปอาจไม่พอ ลองสมมุติว่าตัวเองรับงานนั้นมาทำและวางทามไลน์ดู ก่อนจะนำทามไลน์ไปเสนอให้หัวหน้าดูอย่างเห็นภาพว่า ความรับผิดชอบในตอนนี้ของเรามีอะไรบ้าง และการรับงานเพิ่มเข้ามานั้นจะส่งผลกระทบต่อทามไลน์อย่างไรบ้าง
2
หรือถ้าหากเรายังรู้สึกอยากทำอยู่บ้าง แต่แค่ไม่มีเวลาว่าง เราอาจให้หัวหน้าดูทามไลน์และลองถามดูว่า หากเราอยากตอบตกลงและทำงานนี้ให้ออกมาดีจริงๆ พอจะเลื่อนหรือขยับงานอื่นออกไปได้ไหม เพื่อที่เราจะได้ทำงานทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
1
จริงที่การตอบตกลงนั้นอาจช่วยให้คนอื่นมองว่าเราเป็นคนขยัน กระตือรือร้น หรือชอบเรียนรู้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลดีในการประเมินการทำงาน อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่า “การปฎิเสธ” ก็เป็นทักษะสำคัญที่จะพาเราประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ เพราะมันช่วยรักษาสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานของเรา
ซึ่งก็คือ “เวลาอันมีค่า” นั่นเอง
อ้างอิง
3 Ways to Say “No” to Your Boss http://bit.ly/3JAeEKn
The Ultimate Productitivity Hack is Saying No http://bit.ly/3mUfB8j
#worklife
#softskill
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
โฆษณา