31 มี.ค. 2023 เวลา 13:38 • ข่าว

ท้าทายอำนาจ ขู่ปล่อยข้อมูลส่วนบุคคล 55 ล้านชื่อ คาดแฮกเกอร์ไทย-ล่าแข่งกับเวลา

ถือเป็นการท้าทายอำนาจรัฐ สำหรับ กรณี ผู้ใช้งานบัญชี "9near" ได้โพสต์ขายข้อมูลที่อ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการ บนเว็บไซต์ Bleach Forums
1
โดยอ้างว่าได้มาจากหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในไทย (Somewhere in government) และโพสต์ ตัวอย่างไฟล์ ซึ่งมี ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ และเลขประจําตัวประชาชน
1
รวมทั้งมีการโพสต์ ลักษณะข่มขู่หน่วยงานและประชาชนในวงกว้าง โดยระบุว่า ถ้าไม่ติดต่อกลับ จะปล่อยข้อมูล ในวันที่ 5 เม.ย. 16.00 น.
เรื่องนี้ ถือว่าเรื่องใหญ่ และมีผู้เสียหายจำนวนมาก ทำให้ เจ้ากระทรวงอย่าง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าว
โดยสรุปใจความว่า ได้ติดต่อขอปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าวแล้วตั้งแต่วันพุธ ที่ 29 มี.ค. จะดำเนินการผู้เกี่ยวข้องในข้อหา ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ประสานกับค่ายมือถือให้ปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าว
และประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้ ดร.ปริญญา หอมเอนก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความแล้ว
1
ดร.ปริญญา กล่าวกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ว่า ตอนนี้ไม่อยากให้กล่าวโทษใคร หรือ หน่วยงานใดไปก่อนจะรู้ความจริง
เพราะ "ข้อมูลส่วนบุคคล" หลุดนั้น เกิดขึ้นทั่วโลก ขนาดเบอร์ ประธานาธิบดี หรือ นายกฯ บางประเทศ ที่ข้อมูลรักษาพยาบาลหลุดออกมา ซึ่งเมื่อเกิดขึ้น เขาก็แถลงข่าว และไล่ตามจับตัวคนผิด
อยากให้จินตนาการตามว่า ย้อนกลับไป 2-3 ปี เราได้ให้ข้อมูลบัตรประชาชนใคร ที่ไหนบ้าง ถามว่าเราได้ให้ข้อมูลกับบริษัทอื่นๆ เกิน 10 แห่งหรือไม่
เช่น ธนาคาร โรงแรม ร้านค้าออนไลน์ แอปฯ ซื้อขายออนไลน์ที่มีการยืนยันตัวตน บางแห่งนี่ข้อข้อมูลเยอะมาก ถึงขนาดต้องใส่เลขหลังบัตร
1
"ถามว่า มีใครรู้หรือไม่ ว่ารั่วมาจากจุดใด คำตอบคือ ไม่มีใครรู้ ฉะนั้น เมื่อถามว่า รั่วไปได้ยังไง...หลุดไปได้อย่างไร ซึ่งในความเป็นจริง คือ ข้อมูลเหล่านี้หลุดไปนานมากแล้ว"
1
เมื่อถามว่า มีกระแสว่ามาจาก "หมอพร้อม" ดร.ปริญญา ย้ำอีกครั้งว่า อย่าเพิ่งไป เบลมกัน อยากให้ใจเย็นๆ รอการพิสูจน์กันอีกครั้ง...
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ กล่าวว่า ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ทางการต้องแถลง เพราะเป็นผู้ดูแลควบคุมข้อมูล มีกฎหมาย PDPA
เขาคงไม่รอให้ "แฮกเกอร์" มาข่มขู่ภายใน 5 วัน และต้องจบภายใน 2 วัน ซึ่งเคสนี้ยอมรับว่าเป็น "ท้าทายอำนาจรัฐ" ที่ทางการต้องเร่งจัดการ ที่สำคัญคือ ประเทศเรามีกฎหมาย มีตำรวจ เราต้องให้เวลาเขาทำงานนิดหนึ่ง"
1
เคสนี้คือ กรณีศึกษาว่า "ข้อมูลส่วนบุคคล" ไม่ได้ปลอดภัย 100% ถ้ารั่ว ก็ต้องใช้กฎหมายจัดการ ไม่มีนายกรัฐมนตรี หรือ ผู้นำประเทศไหน กล้าการันตี ว่า ข้อมูลประชาชนจะไม่รั่ว ตอนนี้ความเสี่ยงไม่เป็นศูนย์
2
คนดังๆ หลายคนข้อมูลหลุดออกมา เมื่อถามว่า หลุดไปได้อย่างไร...ก็เพราะข้อมูลของเรา ไปอยู่ในหลายๆ ที่ บางแอปฯ แค่เข้าแอปฯ ก็พบเลขบัตรประจำตัวเราเลย
❖ วิธีการรับมือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์รู้ ชื่อ-นามสกุล เลข บัตรประชาชน
ดร.ปริญญา กล่าวว่า เวลานี้หากมีใครโทรมา แล้วบอกข้อมูลเราหมด และตรง ก็ไม่ต้องเชื่อ
1
"ห้ามเชื่อ แม้จะแนะนำตัวว่าเป็น ตำรวจ สรรพากร ดีเอสไอ อย่าเชื่อ สิ่งที่ต้องทำ คือ ให้บอกว่า เดี๋ยวเราจะโทรกลับ
4
พวกโจรเหล่านี้จะไม่มีเบอร์โทรกลับ เพราะเขาปลอมเบอร์โทรเข้ามา และเขาจะไม่มีเบอร์โทรกลับให้เรา เขาจะโทรหาเราอย่างเดียว"
1
อีกข้อที่แนะนำ เวลานี้ หากจะสมัครแล้วจำเป็นต้องยืนยันตัวตนด้วยวิธีการ ใช้เลขบัตรประชาชน ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล เท่านั้น
ถ้าบริษัทไหน ใช้วิธีการแค่นี้ ให้ยกเลิกการยืนยันตัวตน และเลิกใช้งานบริษัทนั้นๆ ไปเลย
2
ดร.ปริญญา ย้ำว่า สมัยนี้ การยืนยันตัวตน จำเป็นต้องมี OTP สแกนนิ้ว สแกนหน้า ต้องมีการผสมผสานกันหลายๆ อย่าง
1
เดี๋ยวนี้บริษัทบัตรเครดิตไม่ถามว่า คุณชื่ออะไร นามสกุลอะไร แต่เขาจะถามว่า คุณใช้บัครเครดิตครั้งสุดท้ายที่ไหน คุณชำระค่าบัตรเครดิตเอง หรือ หักผ่านบัญชี
1
เพราะถ้าไม่ใช่ คนๆ นั้น ไม่มีทางที่จะตอบเรื่องนี้ได้ บริษัทเหล่านี้มีการเปลี่ยนวิธีการพิสูจน์ตัวตนใหม่ ให้ไปตามยุค ตามสมัย และเวลานี้ บริษัทเกือบทุกแห่งทำกันหมดแล้ว
1
"เดี๋ยวนี้ข้อมูลหลุดกันง่าย แค่คุณไปเลือกตั้ง เลขบัตรประชาชน ชื่อนามสกุล คุณก็อยู่ที่ป้ายแล้ว แค่เข้าตึกคุณก็ต้องฝากบัตรแล้ว ถามว่า คุณจะควบคุมไม่ให้เขาถ่ายเลขบัตรคุณได้หรือไม่...ดังนั้น เดี๋ยวนี้เวลาเข้าตึก เขาได้บัตรคุณไปแล้ว เขาก็คืนบัตรคุณทันที ถ้าที่ไหน เอาบัตรคุณไปแล้ว และแช่ไว้ก็ขอให้หลีกเลี่ยง"
เมื่อถามว่า หลังจากนี้ จะมีมาตรการอะไรใหม่ๆ ในการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล หรือไม่ ดร.ปริญญา บอกสั้นๆ ว่า จะมีการออกมาเรื่อยๆ มีแน่นอน แต่จะค่อยๆ ออกมาทีละมาตรการ
2
“กฎหมายลูก ของ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA จะมีออกมาเรื่อยๆ และจะมีการอัปเดตตามยุคสมัย”
สำหรับคดีที่กำลังตามในเวลานี้ มีการตามสืบอยู่ ส่วนจะมีเป้าวัตถุประสงค์อะไร ก็คงต้องรอการจับกุมผู้เกี่ยวข้องให้ได้เสียก่อน
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เผยว่า เว็บไซต์ ดังกล่าว มีการจดทะเบียนในต่างประเทศ เบื้องต้น ไม่เกี่ยวกับ ดาร์กเว็บ แต่...คนที่จดทะเบียน เขาก็รักษาสิทธิ์ของลูกค้า ส่วนจะข้อความร่วมมือกับเขาได้หรือไม่ คงต้องใช้เวลา...แต่ข้อมูลต่างๆ ที่มันหลุด คือ มันไปหมดแล้ว
1
เราต้องเข้าใจว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ต้องเร่งทำอย่างเร่งด่วน หวังว่าภายใน 48-72 ชั่วโมง ต้องทำให้คลี่คลาย ซึ่งเบื้องต้น เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับคนไทย แต่ก็ยังไม่ชัดเจน เพราะทุกอย่างเป็นเพียงการคาดการณ์
“สิ่งที่อยากจะฝาก คือ อยากตื่นตระหนก และกลับไปดูเรื่องการยืนยันตัว ถ้าใช้ข้อมูลบนบัตรประชาชนอยู่ ก็ขอให้เปลี่ยนวิธี อะไรก็ได้ที่ไม่ได้อยู่บนบัตร ถ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมา ก็ขอโทรกลับ" ดร.ปริญญา ทิ้งท้าย
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
โฆษณา