เมื่อกายนี้ จิตมาอาศัยกายนี้ เค้าเป็นกายมนุษย์เพียบพร้อมด้วย สติปัญญา ให้จิตนั้นมาอาศัย จิตที่เกิดมามีชีวิตในโลก มีกายเป็นกุ้งหอยปูปลาก็มี มีกายเป็นลิงเป็นช้างม้าวัวควายก็มี จิตไปอาศัยกายที่ไม่เพียบพร้อม ก็เอากายไปใช้ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่จิตไม่ได้ มีกายเป็นสัตว์ เจ็บป่วยก็รักษาดูแลตัวเองไม่ได้ เพื่อนร่วมฝูงก็ช่วยรักษาให้ไม่ได้ ..มีเสื้อผ้าชุดเดียวปะทะอากาศร้อนหนาวในโลกไปจนตาย..
เมื่อมีกายเป็นมนุษย์ ก็มีสติสัมปชัญญะ ใคร่ครวญเหตุผลได้ บังคับกายวาจาใจทำดีก็ได้ ไปทำไม่ดีก็ได้ ..ไม่มีใครเค้าบังคับให้ทำ นอกจากจิตดวงนั้น ..ทำขึ้นมาเอง จะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ทำดีชั่วอะไรก็ต้องถูกบันทึก สะสมเก็บไว้เป็นหลักฐาน.ไว้กับจิตที่มีธาตุทั้งสี่รองรับ เอาไว้จำแนกกรรมดีชั่ว ให้จิตนี้เดินทาง ..จิตของเราเป็นผู้กำหนดเอง เลือกทำเอง จะไปนรกหรือสวรรค์ ทำเองทั้งนั้น ไม่มีใครทำให้…เพราะตนเองเป็นผู้สร้างทางให้แก่จิตตัวเอง
เมื่อมีกายเป็นมนุษย์ จะทำดีทำชั่วอะไร เค้าก็ให้เสรีภาพเต็มที่ ..กายนี้เค้่าก็ให้สติปัญญามาด้วย จะใช้คัดกรอง ไปทิศทางใด ใช้กายวาจาใจ..ได้เต็มที่ ..เมื่อมีกายเป็นมนุษย์ ..รู้จักดีชั่วได้ ไม่เหมือนกายสัตว์..ที่เลือกไม่ได้เลย เพราะจิตไปอยู่ในสังขารที่ไม่รู้จักดีชั่วอะไรได้เลย
กายมนุษย์นี้มีพระคุณ เมื่อรู้จักใช้ให้เกิดเป็นคุณแก่จิตที่อาศัย ใช้ทำเรื่องราวดีๆด้วยกายวาจาใจดีเกิดขึ้น กายนี้ก็จะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นให้ร่มเย็นสุขสบาย ..เค้าบอกว่าทำอย่างไรล่ะ ในเมื่อกายนี้ที่มีกรรม เราก็ต้องหาวิธีทำกายนี้ให้เกิดเป็นกายของผู้ที่มีกายเป็นบุญ จะให้ดีก็ให้จิตมีธรรม มีคุณธรรม มีธรรมรักษาจิต..หักห้ามจิตให้รอดพ้นการกระทำเรื่องชั่วๆ ไปได้ก็ยังดี จิตจะได้พ้นห่วงอบาย….
ใช้กายไปทำดี ก็ได้ดี ใช้กายทำชั่ว ผลชั่วๆย่อมมาเบียดเบียนกายที่จิตตนอาศัย..
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
