2 เม.ย. 2023 เวลา 06:41 • หนังสือ

ANOTHER BOOK ขอนำเสนอ

จุดแห่งความสำเร็จ ที่แรงต้านเป็นศูนย์
The Sweet Spot
โดย Christine Carter
.......................................................
#What_I_Get
Sweet Spot หรือ จุดกลมกล่อม เป็นชื่อเรียกจุดบนหน้าไม้เทนนิส ซึ่งเป็นจุดที่ดีที่สุดในการตีลูกเทนนิส เมื่อเราตีโดนจุด Sweet Spot ลูกจะไปได้อย่างเร็วและแรงโดยไม่ต้องใช้แรงตีมากมายอะไร แต่ทว่าถ้าเราตีพลาดจากจุดนั้น ลูกจะไปได้ไม่แรงเท่า แล้วยังต้องใช้แรงตีมากกว่าอีกด้วย
เปรียบเสมือนได้ว่าจุด Sweet Spot นี้คือจุดที่เราสามารถออกแรงน้อยที่สุดโดยที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้เสมอ
หนังสือเล่มนี้จึงให้แนวคิดที่ว่า ชีวิตเราทุกคนก็มีจุด Sweet Spot ของตัวเองเช่นกัน จุดที่เรามีความสุข ได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ มีความหมาย และประสบความสำเร็จได้ โดยใช้แรงน้อยที่สุดและไม่ฝืนตัวเอง
โดยพื้นฐานจุด Sweet Spot นั้นจะตั้งอยู่บนความพอเพียงและความพอดีของแต่ละบุคคล ซึ่งความพอเพียงในที่นี้ไม่ใช่เรื่องปริมาณแต่เป็นคุณภาพของประสบการณ์ และการรับรู้ของเรา ว่านี่คือสิ่งที่เราเลือกแล้วและมีความพอดีกับชีวิตของเรา แค่นี้ก็พอแล้ว
หนังสือได้แนะนำสมการ การสร้างจุด Sweet Spot เพื่อเข้าถึงจุดแข็งของตัวเองและสร้างความสบายกายสบายใจ ดังต่อไปนี้
Sweet Spot = หยุดพัก
+ เปิดระบบอัตโนมัติ
+ ปลดพันธนาการตัวเอง
+ บ่มเพาะความสัมพันธ์
+ อดทนต่อความยากลำบาก
1.หยุดพัก
เคยเป็นไหมที่ งานเต็มมือ แต่ชีวิตว่างเปล่า ?
ทุกวันนี้ความเชื่อที่ว่า “สิ่งดี ๆ เกิดจากความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งและไม่เหน็ดเหนื่อยเท่านั้น” ได้เป็นบรรทัดฐานที่ทำให้เราไม่มีทางได้หยุดพักอย่างแท้จริง เพราะการมีเวลาว่างอาจหมายถึงการไม่พยายามมากพอ ถึงคุณจะหยุดพักคุณก็ยังรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา
เราทำงานมากขึ้นไปเรื่อย ๆ จนทำให้ชีวิตขาดความสนุกและวิตกกังวลมากขึ้น จากการวิจัยชีวิตที่ขาดเรื่องสนุกโดยสิ้นเชิงจะทำให้คุณภาพชีวิตคุณแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งหงุดหงิดง่าย เครียดง่าย รู้สึกไม่มีความหมาย และไม่มีชีวิตชีวา
การเรียนรู้ที่จะหยุดพักอย่างแท้จริง จึงเป็นเรื่องที่เราต้องหันมาใส่ใจมากขึ้น เพื่อช่วยให้ชีวิตได้ผ่อนคลายแบบไม่ต้องกังวลว่าต้องทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แค่ทำเรื่องที่อยากทำจริง ๆ ก็พอ
การหยุดพักช่วยให้เรามีอารมณ์เชิงบวกมากขึ้น มีความสุขมากกว่า ฟื้นตัวดีกว่า ยอมรับตัวเองมากกว่า และพัฒนาตัวเองได้ดีกว่า จากการวิจัยบอกว่า ชีวิตที่เบิกบานจะมีอัตราอารมณ์เชิงบวกต่ออัตราอารมณ์เชิงลบ อยู่ที่ 3:1 การเพิ่มอัตราอารมณ์เชิงบวกจึงช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นได้
การเปลี่ยนแปลงอัตราอารมณ์ของเรา
1.) สร้างอารมณ์เชิงบวก
- ฝึกสำนึกขอบคุณ
- หาแรงบันดาลใจ
- ทำสมาธิ
- เต้น หัวเราะ เล่าเรื่องตลก
- ทำสิ่งที่สนใจจริง ๆ
2.) ขยายอารมณ์เชิงบวก
- มองหาสิ่งดี ๆ อยู่เสมอ
- ดื่มด่ำกับประสบการณ์ดี ๆ
- ซึมซับความรู้สึกของประสบการณ์
2. เปิดระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ
การเปิดระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ คือ การสร้างนิสัยที่ดี ที่ช่วยให้เราคิดน้อยลงในการทำงานสิ่งต่าง ๆ ที่จะเป็น การทำเป็นนิสัยจะใช้จิตสำนึกทำงานแทน การต้องใช้พลังงานและความทุ่มเทตลอดเวลา ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้แนะนำพื้นฐานการสร้างนิสัยไว้ดังนี้
การสร้างนิสัยจิ๋ว
เราสามารถสร้างนิสัยเล็ก ๆ โดยการเลือกสิ่งที่ทำได้ง่ายมาก ๆ ที่ใช้เวลาทำต่ำกว่า 30 วินาที โดยใช้เพียงความพยายาม หรือเงินเพียงเล็กน้อย ให้คุณตัดสินใจและทำมันทุกวันโดยไม่มีข้อยกเว้น โดยควรเริ่มจากนิสัยที่ทำแล้วง่ายและมีความสุขที่สุด
คุณอาจทำให้ง่ายขึ้นโดยการตั้งเงื่อนไขแบบ หลังจากทำ A เสร็จ จะทำ B ทันที โดย A คือ กิจกรรมที่คุณทำทุกวันอยู่แล้ว เช่น กินข้าว อาบน้ำ เดินทาง และ B คือ นิสัยจิ๋วที่คุณอยากทำ
ยกตัวอย่างเช่น - หลังจาก กลับถึงบ้าน ฉันจะ กอดลูก ๆ
- หลังจาก กินข้าวเย็น ฉันจะ เก็บจานทันที
การสร้างนิสัยจะช่วยให้งานประจำวันของคุณดูเบาบางลง เพราะคุณทำมันโดยอัตโนมัติและไม่ต้องรู้สึกไม่ดีที่ต้องเสียเวลาทำมันในทุก ๆ วัน ถ้าคุณไม่ได้ทำมันเป็นนิสัย นอกจากนี้หนังสือยังได้ให้แนะนำ 21 เคล็ดลับ ที่ช่วยเปลี่ยนนิสัยภายใน 21 วันอีกด้วย
3. ปลดพันธนาการตัวเอง
บางทีคุณอาจรู้สึกว่ามีเรื่องให้ทำมากมายเหลือเกินจนไม่อาจรับมือไหว บทนี้จะค่อย ๆ ช่วยให้คุณปลดพันธนาการจากอาการรับมือไม่ไหว โดยการที่คุณที่ต้องเลือกสิ่งที่สำคัญต่อตัวตนของคุณจริง ๆ
เนื่องจากคุณมีเวลาจำกัด คุณไม่อาจที่จะสามารถทำได้ทุกอย่าง การเลือกที่ดีจึงเป็นทางออกสำหรับปัญหานี้ คุณต้องมองย้อนมาที่ตัวเองว่าสิ่งที่คุณให้คุณค่าและสำคัญกับคุณคืออะไร และสิ่งที่คุณต้องทำนั้นมันสอดคล้องกับคุณค่านั้นหรือไม่ ถ้ากิจกรรมใดที่ไม่สอดคล้องคุณก็ควรเลิกทำมัน
แต่ถ้าคุณยังรู้สึกว่าทุกอย่างยังคงสำคัญกับคุณ และไม่อาจตัดสิ่งไหนไปได้เลย คุณก็ควรต้องจัดลำดับความสำคัญของแต่ละอย่าง โดยเลือกทำสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าก่อน สิ่งที่มีความสำคัญน้อยกว่า
สิ่งที่ผมอยากเน้นอีกเรื่องหนึ่งก็ คือ สิ่งสำคัญของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางทีคุณอาจจะไขว้เขวเพราะเสียงรอบข้างให้ความสำคัญแตกต่างจากเรา ให้เราค่อย ๆ ทำความเข้าใจตัวเองว่าคุณค่าที่เรายึดถือแท้จริงแล้วคืออะไร ถ้ามันไม่ใช่ตัวเราจริง ๆ จงอย่ากลัวที่จะเปลี่ยนมัน จงสร้างชุดคุณค่าที่เหมาะสมกับคุณ เพื่อใช้ชีวิตในแบบของคุณ
4. บ่มเพาะความสัมพันธ์
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมพื้นฐานแล้วเราต้องมีความสัมพันธ์กับคนอื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การมีความสัมพันธ์กับคนรอบข้างที่ดี จะช่วยให้เรารู้สึกพึงพอใจในชีวิต มีความสุข และสุขภาพดีมากขึ้น
การจัดการความสัมพันธ์ที่ดีอาจทำได้ด้วยแนวทางง่าย ๆ 2 วิธีนี้
1.) การเสริมสร้างอารมณ์เชิงบวกให้คนรอบตัว
โดยมีเงื่อนไขพื้นฐาน คือ ต้องอยู่ในความรู้สึกที่ปลอดภัยกันที่สองฝ่าย และมีการเชื่อมโยงกันทางร่างกาย เช่น การสบตา น้ำเสียง การสัมผัส หรือท่าทาง โดยอาจเป็นการพูดคุยกันสั้น ๆ ในทุกวัน หรือ การยิ้มโบกมือทักทายกัน การให้ความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น ด้วยความถี่ที่เหมาะสม
2.) การหาวิธีรับมือเวลาคนอื่นทำตัวไม่ดี หรือทำร้ายจิตใจเรา
ทุกคนล้วนต้องเผชิญกับความรู้สึกไม่ดีจากการกระทำของคนอื่นไม่มากก็น้อย การที่เราคิดหาวิธีการรับมือล่วงหน้าจึงช่วยปกป้องจิตใจของเราได้บ้างไม่มากก็น้อย
ซึ่งการรับมือมีได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่การปรับมุมมองของเรา เช่น ฝึกการยอมรับผู้อื่น การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หรือ ฉลองกับความสำเร็จของผู้อื่น การให้อภัย และการฝึกขอโทษ
นอกจากนี้ยังมีการทำความเข้าใจความขัดแย้งแบบต่าง ๆ และการร่วมกันแก้ไขความขัดแย้ง ส่วนถ้าคุณรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม วิธีที่ดีที่สุดในการแก้แค้น คือ การมีชีวิตที่ดี
5.อดทนกับความรู้สึกอึดอัด
ยุคสมัยนี้เป็นยุคที่รวดเร็ว เมื่อเราทำสิ่งใดเราก็อยากให้ได้ผลลัพธ์เร็วที่สุดเท่าที่เราคาดหวัง แต่บางอย่างเราก็ไม่อาจเร่งผลลัพธ์ได้ตามใจเรา หนึ่งสิ่งที่เราต้องอดทนรอผลลัพธ์ของมันจากการใช้เวลาอย่างเหมาะสมก็ คือ การสร้างความเชี่ยวชาญ
ความเชี่ยวชาญที่เราต้องการมีมักเป็นสิ่งที่เราเลือกเองเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต แต่การสร้างความเชี่ยวชาญนั้นไม่สามารถได้มาอย่างรวดเร็ว เราต้องอดทนกับความรู้สึกอึดอัดที่เกิดจากความลำบากและความท้าทายขณะพัฒนาความเชี่ยวชาญ
โดยทั่วไปความเชี่ยวชาญเกิดจาก ความทรหด ในการฝึกฝนที่เรามีความบากบั่นและหลงไหลในการทำสิ่งนั้น ผสานกับการได้รับคำแนะนำจากที่ปรึกษาที่ดี และการพักผ่อนอย่างเหมาะสม ความอึดอัดจะมาจากการยอมรับข้อจำกัด เผชิญหน้ากับความเปราะบางของตัวเอง แล้วเรียนรู้พัฒนาขึ้นไป
สิ่งที่คุณต้องมีอีกอย่างก็คือ ความกล้าที่จะลงมือทำแม้มันจะไม่สมบูรณ์ ทุกคนอยากทำทุกอย่างให้สมบูรณ์ แต่แท้จริงแล้วโลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ การมีความกล้าที่จะลงมือจึงเป็นสิ่งจำเป็น แม้เราอาจจะอึดอัดและกลัวก็ตาม เมื่อเริ่มลงมือ ยอมรับขอผิดพลาด แก้ไข และพัฒนา เราจึงเติบโตขึ้น
สรุป
เมื่อคุณทบทวนและรับฟังตัวเอง ถึงคุณค่าและความเชื่อที่คุณยึดถือแล้ว คุณจะเริ่มยอมรับตัวเองและเข้าใจข้อจำกัดของตัวได้มากขึ้นในรูปแบบที่ไม่โทษตัวเองที่ทำได้ไม่ครบทุกอย่างอีกต่อไป คุณจะเลือกทำในสิ่ง
ที่คุณต้องการจริง ๆ ได้แบบไม่รู้สึกผิด และค่อย ๆ สร้างนิสัยที่สอดคล้องกับความเชื่อของคุณ ทำให้คุณใช้พลังงานน้อยลง พร้อมกับค่อย ๆ พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ โดยไม่ขาดพักผ่อนตามสมควร นอกจากนี้คุณยังมีเวลาในการสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเพื่อให้ชีวิตที่สดใสขึ้นอีกด้วย
#How_I_Feel
หนังสือเล่มนี้ได้ให้แนวคิดในด้านการสร้างชีวิตที่สมดุลขึ้น จากการหา Sweet Spot ของแต่ละคนด้วยตนเอง การมองกลับมาที่ตัวเองเพื่อมองคุณค่าที่เรายึดถือ และการเลือกเพื่อเดินตามทางของเราเอง ช่วยให้เรามีความหมายมากขึ้นจากสิ่งที่เราได้เลือกเองที่เต็มไปด้วยความหมายสำหรับเรา
#Who_Should_Read
- ผู้ที่ต้องการหาจุดกลมกล่อมในชีวิต
- ผู้ที่อยากมองชีวิตในภาพกว้างขึ้น
- ผู้ที่อยากจัดการชีวิตบนความพอดี
Review by Another Book
 
ถ้าชอบบทความ กดไลค์เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
 
..........
 
ช่องทางการติดตาม
Facebook Page : Another Book https://www.facebook.com/AnotherBookReview
โฆษณา