Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ROSALIE POST
•
ติดตาม
2 เม.ย. 2023 เวลา 18:19 • ข่าว
Lena Chapin คดีคนหายปริศนาที่แทบไม่มีหลักฐานใดๆเหลืออยู่
เรื่องเริ่มต้นขึ้นใน ปี 1994 เดือนพฤศจิกายนเมื่อแซนดี้ ปีเตอร์เซ็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวฐานะค่อนข้างยากจน เธอได้ตกหลุมรักและแต่งงานกับอัลเบิร์ต แมคคัลโล ชายเจ้าของฟาร์มในเมืองเฟทวิลล์ รัฐอาร์เคนซอ ซึ่งเขาได้กลายเป็นสามีคนที่ 2 และ เขายังเป็นพ่อเลี้ยงใจดีของ แบรนดี้ ลีน่า และ โรบิ้น แชพิน ลูกๆของ แซนดี้
ในช่วงแรกที่แซนดี้ที่กำลังศึกษาต่อเป็นพยาบาลอยู่ อัลเบิร์ตได้ใช้เวลาอยู่กับลูกๆของแซนดี้โดยการพาพวกเธอไปฝึกยิมนาสติก ลูกๆของแซนดี้พวกเธอเข้ากับอัลเบิร์ตได้เป็นอย่างดี แต่ผ่านไปได้ไม่ถึง 2 ปี แซนดี้เธอก็ได้แอบมีความสัมพันธ์ลับๆกับพี่ชายของอัลเบิร์ต ที่ชื่อ แกรี่ แมคคัลโล ทำให้ในเดือนมีนาคม ปี 1996 อัลเบิร์ตและแซนดี้ทั้งคู่จึงได้ตัดสินใจหย่าร้างกัน
นอกจากที่แบรนดี้ ลีน่า โรบิ้น ลูกๆของแซนดี้ต้องทำใจที่ต้องตัดอัลเบิร์ตออกจากชีวิตของพวกเธอแล้ว พวกเธอยังต้องปรับตัวกับบ้านใหม่ของแกรี่ในแคสวิลล์ รัฐมิสซูรี่และกฎอันเข้มงวดของพ่อเลี้ยงคนใหม่แกรี่ที่แต่งงานกับแม่พวกเธอในปลายปี 1996 โดยแกรี่มักแบ่งงานในฟาร์มให้พวกเธอได้เรียนรู้หัดทำอยู่เสมอๆ
แกรี่มักจะสอนให้พวกเธอรู้จักที่จะพึ่งพาตนเอง โดยเมื่อเสร็จงานในฟาร์ม เขาจะพาพวกเธอไปกินไอศกรีมอยู่เสมอๆ เวลาได้ล่วงเลยไปจนปี 1999 ลูกๆของแซนดี้และตัวแซนดี้ทั้ง 6 คนเกือบจะได้มีแกรี่ สามีคนที่ 3 ของแซนดี้อยู่ในชีวิตของพวกเธอไปตลอดชีวิตของพวกเขาอยู่แล้ว จนกระทั่งแซนดี้ไปเจอหนุ่มคนใหม่ ครอบครัวของแซนดี้จึงต้องปรับตัวกันใหม่อีกครั้ง
หนุ่มคนใหม่นี้ ชื่อคริส เคลมป์ เขาและแซนดี้เริ่มแอบคบกันตั้งแต่แซนดี้ยังคบกับแกรี่อยู่ ทั้งคู่แอบนัดเจอกันในบ้านฟาร์มของแกรี่ มิหนำซ้ำแซนดี้ยังแอบสั่งจ่ายเช็คในชื่อแกรี่จนเงินในบัญชีของแกรี่หมดบัญชี ทำให้เช็คเด้งหลายๆรอบจนแกรี่โดนตำรวจจับ ซึ่งหลังจากที่แกรี่เริ่มรู้เรื่อง เขาจึงปรึกษาเพื่อนของเขาที่เป็นทนายความของเขาถึงเรื่องการหย่ากับแซนดี้
เมษายน ปี1999 จู่ๆแกรี่ก็ได้นำปืนไปฝากไว้ที่บ้านของเพื่อนสนิทของเขาและเล่าให้เพื่อนฟังว่า ระหว่างที่กำลังทะเลาะกับแซนดี้ จู่ๆเธอก็ขู่เขาโดยเอาปืนมาแกล้งทำเป็นยิงโดยเล็งที่ท้องของเขา แต่เมื่อเช็คปืนดูก็ต้องตกใจเพราะในนั้นมีกระสุนอยู่จริงๆและถ้ากระสุนนัดนั้นไม่ด้าน แกรี่อาจจะโดนยิงตายแล้ว
ไม่กี่วันถัดมา ญาติของแกรี่ได้โทรไปที่สถานีตำรวจเพราะไม่มีใครพบเห็นแกรี่มาเป็นเวลากว่า 2-3 วันแล้ว และขอให้ทางตำรวจไปเช็คของแกรี่ที่บ้าน แต่เมื่อตำรวจไปถึง ก็พบกับแซนดี้และลีน่าลูกคนรองที่ให้การกับตำรวจเชิงว่า แกรี่ได้ขับรถไปซื้อไก่ชนที่อีกเมืองนึง โดยพวกเขาก็เริ่มสงสัยเหมือนกันว่าทำไมแกรี่ถึงไปนานนัก
ตำรวจรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ 1 อาทิตย์ให้หลังขอหมายศาล จึงได้เข้าค้นบ้านของแกรี่ และพบว่าที่นั่นเหมือนไม่เคยมีร่องรอยแกรี่อาศัยอยู่เลย โดยของใช้ทั้งหมดรวมถึงเสื้อผ้าของแกรี่ หายไปหมดแล้ว อีกทั้งยังมีสมุดเช็คของคริส เคลมป์ แฟนใหม่ของแซนดี้อยู่ในบ้านฟาร์มแกรี่อีกด้วย
ตำรวจต้องการตัดรายชื่อผู้ต้องสงสัยให้เหลือน้อยมากที่สุด จึงขอให้แซนดี้เข้าสอบปากคำโดยใส่เครื่องจับเท็จ แต่ด้วยความโมโหที่ตำรวจเข้ามาบุกค้นบ้านโดยไม่บอกล่วงหน้า แซนดี้จึงตอบตำรวจด้วยใจความแสนแปลกเชิงว่า ให้เจอศพแกรี่ก่อนเถอะ เธอถึงจะยอมเข้าเครื่องจับเท็จ
ตำรวจถามคำถามลูกๆ ของแซนดี้ทั้ง 6 คนพร้อมกัน แต่ขณะที่สอบสวนนั้น มีแค่ลีน่า ลูกสาวคนรองตอบคำถามอยู่คนเดียว และบอกให้คนอื่นๆเงียบๆไป เธอดูจะปกป้องแม่เธอมากกว่าใครๆ ซึ่งก็ตรงกับนิสัยของเธอที่ใครต่อใครก็บอกตรงกันว่าลีน่าเป็นคนพูดตรงและสู้คน และทำตัวเหมือนเป็นแม่คนที่ 2 ของน้องๆ
ตำรวจพอเห็นอยู่ว่าท่าทีของลีน่านั้นแปลกมาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมจึงต้องปล่อยพวกเขาไป ไม่นานคริสและแซนดี้ก็พาลูกๆทั้ง 6 คนย้ายไปอยู่ที่เมืองเซนต์ลูอิส ทั้งคู่แต่งงานกันและอยู่ที่นั่นประมาณ 1 ปี แล้วก็ย้ายไปอยู่ที่เมืองสไลโกแทนในปี 2000
เวลาผ่านไป 3 ปี ลีน่าโตมาเป็นคนขยันทำงาน 2 จ้อบ แต่ก็กินเหล้า,เมายาและอารมณ์ร้ายมากขึ้น จนคนรอบตัวสังเกตได้ว่าเธอเปลี่ยนไปจากตอนเด็กๆ ดูเหมือนว่ามีอะไรคาใจเธออยู่ตลอดเวลา บางครั้งแบรนดี้พี่สาวคนโตก็เห็นลีน่านั่งร้องไห้อยู่คนเดียว แต่พอถามเหตุผล ลีน่าก็จะเปลี่ยนเรื่องตลอด
ไม่นานนักลีน่าก็มีแฟนและยอมเล่าความลับคาใจนี้ว่าเกิดอะไรกับแกรี่ให้แฟนเธอฟัง เขาจึงเกลี้ยกล่อมลีน่าว่าถ้าเธอกลัวตำรวจ อย่างน้อยก็ให้เธอไปเล่าให้อัลเบิร์ต น้องชายของแกรี่ฟังก็ยังดีและนั่นเองที่ทำให้ลีน่าขับรถกลับไปบ้านพ่อเลี้ยงใจดีอัลเบิร์ต และเล่าความลับที่เธอเก็บงำมาตลอดหลายปี
ลีน่าบอกกับอัลเบิร์ตว่า แซนดี้เป็นคนยิงแกรี่เสียชีวิตโดยเย็นวันนั้นเมื่อเด็ก ๆ กลับมาจากโรงเรียน แซนดี้ก็ให้ลูกๆไปหาลูกแมวในไร่แทนที่จะให้เข้าบ้านเลย แต่แบรนดี้ลูกคนโตเบื่อวิ่งเล่น เธอจึงไปเห็นแซนดี้ทำความสะอาดคราบอะไรสักอย่างที่พื้นซึ่งภายหลังมาคุยกับลีน่า ถึงรู้ว่ามันคือคราบเลือด
ในคืนนั้นแซนดี้ก็ห้ามลูกๆ ทุกคนออกจากห้องนอน แต่เพราะลีน่าต้องเฝ้าน้องๆเธอจึงมานอนด้านนอก เธอจึงได้เห็นคริสและแซนดี้ลากศพแกรี่ที่ห่อพลาสติกไว้และนำขึ้นรถไป โรบินลูกคนที่ 3 ก็จำได้ว่าคืนนั้นเธอเห็นผ่านหน้าต่างข้างเตียงเธอกล่าวว่าคริสและแซนดี้ลากหุ่นอะไรบางอย่างที่ใส่บู้ทเหมือนแกรี่ขึ้นรถไป
ลีน่าเล่าต่อว่าคริสและแซนดี้เห็นว่าเธอแอบดูผ่านประตูอยู่ จึงขู่ให้เธอไปช่วยกำจัดศพด้วยกันลีน่าเล่าว่าพวกเขาเผาศพแกรี่จนเป็นเถ้ากระดูก และโปรยมันไปตอนที่นั่งรถขับไปเรื่อยๆ จึงไม่มีทางที่ใครจะหาศพแกรี่เจอได้แน่นอน อัลเบิร์ตเชื่อว่าลีน่าเล่าเรื่องจริง เพราะเธอสั่นกลัวมาก
อัลเบิร์ตแอบอัดเสียงเรื่องเล่าของลีน่าไว้และนำไปให้ตำรวจ คดีนี้จึงกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งแต่เพราะว่าลีน่ายังเด็กและยังคงอยู่ภายใต้อาณัติของแซนดี้อยู่ ท้ายที่สุดแซนดี้จึงบังคับให้ลีน่าไปบอกกับตำรวจว่าเรื่องเล่าเป็นเพียงเรื่องโกหกและขอให้ถอนบันทึกทั้งหมดที่เกี่ยวกับเทปนี้ออกด้วย
1
ไม่นานนักลีน่าก็มีลูกชายชื่อ โคลเตอร์ เธอจึงพยายามเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น ทั้งทำงาน 2 จ๊อบ และวางแผนชีวิตครอบครัวและการเงิน ซึ่งนี่อาจทำให้แซนดี้รู้สึกระแวงอีกครั้ง เพราะถ้าลีน่ามีอิสระ ไม่ต้องพึ่งพารึอยู่กับเธอแล้ว ลีน่าจะสามารถพูดความจริงได้โดยไม่ต้องเป็นอันตรายอีกต่อไป
จนในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2006 ศาลได้เรียกตัวลีน่าตามนัดมาให้ความในศาลเกี่ยวกับคดีการหายตัวไปของแกรี่ แมคคัลโล แต่ลีน่าเธอกลับไม่มาตามนัด และเมื่อสอบถามกับแซนดี้ เธอก็บอกกับทุกคนว่าลีน่าทิ้งโคลเตอร์ ลูกชายคนเดียวขอบเธอและชีวิตทีนี่ไปอยู่กับแฟนอีกคนในฟลอริด้าแทน
ทางการไม่สามารถหาตัวลีน่าได้เลยและเมื่อแบรนดี้พี่สาวลีน่าไปที่อพาร์ทเมนต์ของเธอก็พบว่าของทุกอย่างยังอยู่ที่นั่นอยู่เลย ทั้งเสื้อผ้า รูปถ่าย หรือแม้แต่พาสปอร์ตก็ยังอยู่ในห้อง แบรนดี้สงสัยว่าลีน่าไม่ได้หนีไปเฉยๆ แต่น่าจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับเธอมากกว่า
แบรนดี้เล่าใน Unsolved Mysteries สารคดีใน Netflix ว่า ครั้งหนึ่งตอนยังเด็กเธอเคยขู่แซนดี้ว่าจะเปิดเผยเรื่องทั้งหมด แซนดี้และคริสจึงจับเธอขึ้นรถและขับไปที่ร้างแห่งนึง คริสลากแบรนดี้ลงจากรถและเอาปืนจ่อที่หัวของเธอและแม้ว่าเธอจะร้องหาแม่เท่าไหร่แซนดี้ที่อยู่บนรถก็ไม่เคยหันมามองเลย
ท้ายที่สุดแบรนดี้ก็วิ่งไปเปิดประตูรถและกอดแม่ของเธอร้องขอให้แซนดี้ปกป้องเธออย่าปล่อยให้คริสยิงเธอ แซนดี้จึงออกปากให้คริสหยุดแล้วทั้ง 3 ก็ขับรถกลับบ้านและแบรนดี้ก็ไม่พูดเรื่องการหายตัวไปของแกรี่อีกเลยไม่งั้นเธออาจจะต้องหายตัวไปอย่างลีน่าก็เป็นได้
ในปี 2014 แซนดี้หย่าร้างกับคริส เคลมป์ ไม่นานเธอก็แต่งงานใหม่กับโจ วิ้ง และอาศัยอยู่ที่รัฐมิสซูรี่ที่น่าแปลกใจที่สุดคือท้ายที่สุดโคลเตอร์ ลูกชายคนเดียวของลีน่าก็ต้องอยู่กับแซนดี้เพราะตอนที่ลีน่าหายตัวไปแซนดี้ฟ้องร้องว่าลีน่าทิ้งลูกและเธอขอรับเด็กคนนี้ไว้ดูแลเพียงผู้เดียว
จนถึงทุกวันนี้ ลีน่า แชพิน พยานปากเอกในคดีคนหาย แกรี่ แมคคัลโล ได้กลายเป็นบุคคลหายสาบสูญไปด้วย โดยคดีนี้ได้รับความสนใจอีกครั้งหลังจากที่ Unsolved Mysteries ออกฉายตอนที่ 6 ของ Volume1ใน Netflix โดยคนร้ายในคดีคนหายแกรี่และลีน่าที่อาจเป็นคนเดียวกันก็ยังลอยนวลอยู่จนถึงปัจจุบัน
ที่มาของแหล่งข่าว :
heavy.com/news/2020/07/l…
unsolvedmysteries.fandom.com/wiki/Lena_Chap…
menshealth.com/entertainment/…
ติดตามข่าวใหม่ได้ในช่องทางเพจของเรา
ROSALIE POST
ข่าวรอบโลก
ข่าว
หนัง
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย