5 เม.ย. 2023 เวลา 03:00 • ไลฟ์สไตล์
อ่างแก้ว มช

ให้สายน้ำเป็นผู้รับฟัง

📬บันทึกนี้เมื่อวันที่ 31/03/2566
วันแรกของทริปมาเชียงใหม่กับเพื่อนโดยไม่มีผู้ปกครอง
[เดิมมาค่ายกิจกรรมแต่ใจจริงคืออยากหาทางออกบ้านนี่แหละ]
หลังลงกรีนบัสก็แยกย้ายกันไปเช็คอินที่พัก สัก20กว่านาทีก็นัดแนะไปห้างแล้วก็โบกรถแดงนั่งกัน 6 คนไปยังสถานีมช. จุดแลนมาร์คที่ยอดฮิตถ่ายบัณฑิตจบในโซเชี่ยลก็ไม่เว้น “อ่างแก้ว”
เอาจริงแพลนไปเที่ยวอ่างแก้วดิฉันได้จัดไว้ว่าจะไปอีกวันนึงที่มีกิจกรรมในมช.พอดี แต่ทว่าเพื่อนเสนอว่าเย็นนี้จะไปกินข้าวที่กาดหน้ามอดีมั้ย และแวะไปเช็คอินที่อ่างแก้วด้วยเลย ดิฉันผุดนึกได้ว่ายังไม่ได้จัดวางแผนมื้อเย็นของวันนี้ จนนั่นแหละค่ะ เอาเป็นว่าตอบตกลงไปกัน ดิฉันและเพื่อนอีก 5 คนโบกรถแดงไปที่อ่างแก้ว พอได้ไปถึงทุกคนต่างดี๊ด๊าเมื่อเริ่มเห็นอ่างน้ำภายใต้บรรยากาศสีฝุ่นจาง
(ก็คือในวันที่ไปเชียงใหม่ก็คงยังมีฝุ่นอยู่แต่จะไม่มีปริมาณมากเท่าเชียงราย) 😷
พอลงลงรถปุ๊ปดิฉันให้เพื่อนอีก 4 คน ได้เดินนำหน้าไปก่อน มีเพียงดิฉันและเพื่อนอีกคนเดินตามหลัง เหตุผลก็เพราะอยากจะเสพบรรยากาศไปอย่างช้าๆ มองดูผู้คนที่มาถ่ายรูป นักศึกษาในมอที่หลังเลิกคลาสก็จะออกมาถ่ายรูปกัน บรรยากาศในรั้วมหาลัย เห็นเขาถ่ายรูปกันแล้วก็อดที่จะถ่ายรูปเอาไปลงสตอรี่ด้วยไม่ได้ เลยขอวานเพื่อนที่อยู่ด้วยกันถ่ายให้ หลังจากถ่ายไปได้หลายแชะ อากาศร้อนช่วงเย็นก็มาเยือน เลยไปหามุมหลบแดดนั่งอาศัยก่อน 🏃🏻
ในที่สุดฉันก็ได้มาพักจริงๆสักที
พร้อมยกมือบิดขี้เกียจไปด้วย
ดิฉันพูดผล่อยๆเบาๆบอกตัวเอง พร้อมจ้องมองน้ำที่ไหลผ่านเศษไม้ผุ มีฝูงปลาสีส้มแหวกว่ายใกล้ๆพื้นราบ นั่งฟังเสียงน้ำไหล เสียงนกร้อง เสียงผู้คน เสียงลมพัดมาอ่อนๆ เสียงใบ้ไม้แห้งตกกราดลงพื้น มันเป็นบรรยากาศที่สำหรับตัวดิฉันแล้วค่อนข้างไม่ได้มีโอกาศได้มาเปิดหูเปิดตาให้กลับตัวเองเลย นั่งจ้องเหม่อไปสักพักเพื่อนๆเขาก็พากันไปหาน้ำดื่ม ส่วนดิฉันก็ขอนั่งรับลมคนเดียวไป 🍃
พอลมเริ่มตีอ่อนๆมาอีกที ดิฉันก็เลยได้เปิดปากคุยออกมา
เอาจริงก็ไม่เคยคิดหรอกว่าจะได้มานั่งดูบรรยากาศอะไรแบบนี้กับตัวเองเลย เพราะพ่อแม่เองก็มีภาระของแต่ละคนที่ต้องรับมือ อันนี้ก็เข้าใจ จนคิดสะว่าเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำแค่ที่บ้านยังหาพื้นที่หลบหนีภัยใจก็ยังลำบาก เคยเจอแต่บรรยากาศหดหู่เดิมๆ สถานที่เดิมๆ หลอนเสียงเวลาพ่อโมโหตะคอก แต่วันนี้ฉันทำได้ ฉันได้มาพักแล้ว ฉันได้ให้รางวัลแก่ใจแล้ว เหมือนฉันได้วนลูบกลับมาเป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งแล้ว จากเดิมที่ต้องมีแต่เรื่องให้คิดให้เครียดเกินวัยก็ตาม
ดิฉันพูดออกมาอย่างที่ไม่เคยได้พูดแบบนี้กับตัวเองมาก่อน คิดไปคิดมาก็เหมือนได้พูดให้แม่น้ำฟังแหละ อุ่นใจที่อีกฝ่ายที่ฟังไม่ได้ตอบโต้หรือขัดเรา และให้โอกาสเราได้พูดความในใจออกมา โดยที่เหมือนมีคนตั้งใจฟังเราพูดอยู่เงียบๆจนกว่าเราจะสบายใจขึ้น
เอาละ! ดิฉันปล่อยความคิดทุกอย่าง ทำสมองให้โล่งทำตัวให้อยู่ในท่าที่สบายสุด นี่สินะ…
บรรยากาศของคำว่าอิสระที่แท้จริง
..🥀..
ปล.อาหารหน้ามออร่อยมากๆๆ
โฆษณา