4 เม.ย. 2023 เวลา 01:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

World Bank เตือน “ทศวรรษที่หายไปของเศรษฐกิจโลก”

Indermit Gill ผู้ซึ่งเป็น Chief Economist และ Senior Vice President for Development Economics จาก World Bank ออกมาเตือนว่า “เศรษฐกิจโลกอาจกำลังเจอกับทศวรรษที่หายไป” จากผลของสถานการณ์ในปัจจุบัน
ซึ่งอัตราการเติบโตระดับศักยภาพคาดว่าจะลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ทศวรรษตลอดช่วงที่เหลือของช่วงยุค 2020
โดยสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพียงปัญหาที่มาจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ยังเป็นผลมาจากปัจจัยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ในช่วงยุค 1990 ชะลอตัวลง
อัตราการเติบโตของการลงทุน และ ปัจจัยทางผลิตภาพ (Productivity) ต่างก็ลดลง ในขณะที่กำลังแรงงานนั้นกำลังขยายตัวในอัตราที่ช้าลง
การค้าระหว่างประเทศก็ขยายตัวในอัตราที่ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงต้นยุค 2000 และ การช้าลงในครั้งนี้อาจรุนแรงขึ้นเมื่อวิกฤติทางการเงินนั้นลุกลามไปประเทศอื่น ๆ
ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้มักจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการเติบโตในอนาคต
โควิด-19 และ สงครามรัสเซีย-ยูเครน เป็นปัจจัยสำคัญที่กดการเติบโตของเศรษฐกิจโดยในช่วงที่ผ่านมา และในตอนนี้ก็เป็นช่วงหมดวาระของนโยบายต่าง ๆ ออกมาช่วงเหลือภาคธุรกิจและภาคประชาชนในช่วงโควิดกำลังกลับตาลปัตรเข้าสู่การใช้นโยบายแบบเข้มงวด
1
อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วได้กดดันในธนาคารกลางต้องใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวดในขณะที่มาตรการช่วยเหลือจากนโยบายการคลังได้ลดลงจากปัญหางบประมาณของรัฐบาลที่ลดลงจากหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงเศรษฐกิจโลกถดถอยในปี 2020
ท่ามกลางสถานการณ์ที่สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และ การใช้นโยบายได้อย่างจำกัด เศรษฐกิจโลกเผชิญกับการชะลอตัวลงที่รุนแรงที่สุดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
World Bank ได้แนะนำ 3 วิธีการในการเพิ่มอัตราการเติบโตในระยะยาวไว้ดังนี้
💙 วิธีแรก คือ การลงทุน
ผลกระทบของโควิด-19 สงครามในยูเครน การใช้นโยบายได้อย่างจำกัด และสถานการณ์ทางการเงินที่ตึงตัวจะทำให้การชะลอตัวทางการลงทุนนั้นยาวนานขึ้นไปตลอดช่วงที่เหลือของทศวรรษ 2020
อัตราการเติบโตของการลงทุนใน Emerging Markets และ Developing Economies (EMDEs) คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5% ต่อปี ในช่วงระหว่างปี 2022-2024 ที่อัตรานี้เป็นอัตราประมาณครึ่งนึงของการเติบโตของการลงทุนในช่วงปี 2000-2021 เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตของการลงทุนที่ได้คาดการณ์ไว้ก็ยังไม่สูงพอที่จะกลับไปเทียบเท่ากับช่วงก่อนที่จะเกิดโควิด 19
อัตราการเติบโตของการลงทุนเฉลี่ยประจำปีของช่วงปี 2022-2030 คาดว่าจะน้อยกว่าช่วง 2011-2021 ประมาณ 0.3-1.8 percentage points ในทุก ๆ ภูมิภาค ยกเว้น ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน กับ เอเชียใต้
ในส่วนของการลงทุน FDI ที่ลดลงตลอดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้นคาดการณ์ต่อว่าจะยังคงชะลอตัวไปตลอดช่วงยุค 2020
ซึ่งทาง World Bank ก็มองว่า การลงทุนนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วงสร้างการเติบโตในระยะยาว ยกระดับคุณภาพชีวิต และ บรรลุเป้าหมายทางด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) และ ความตกลงปารีส (Paris Agreement's Climate Change Obligations)
💙 วิธีที่สอง ที่จะช่วยเรื่องการลงทุนในระยะยาว คือ การค้าระหว่างประเทศ
การค้าระหว่างประเทศเป็นปัจจัยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของกลุ่มประเทศทั้ง Emerging Market และ Developing Economies ตลอดช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา แต่ในตอนนี้การค้าระหว่างประเทศกำลังเกิดปัญหา
เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปี 2011-2021 การค้าระหว่างประเทศทั่วโลกในตอนนี้นั้นถูกคาดการณ์ว่าจะอ่อนแอลง 0.4 percentage points ต่อปีไปอีกตลอดจนถึง 2030 เนื่องจากการเติบโตของผลผลิตทั่วโลกที่ชะลอตัวลงและส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของปัจจัยเชิงโครงสร้างที่สนับสนุนการขยายตัวทางการค้าอย่างรวดเร็ว ในทศวรรษที่ผ่านมา
1
โดยจากข้อมูลในอดีตก็พบว่า การชะลอตัวของการค้านั้นมีความเกี่ยวข้องกับการเติบโตของการลงทุนที่อ่อนแออย่างต่อเนื่อง
💙 วิธีสุดท้าย คือ ภาคบริการ
จากข้อมูลของ World Bank พบว่า ภาคบริการจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตอันใหม่ แทนที่ปัจจัยเก่า ๆ อย่างภาคการค้าที่ชะลอตัวลง
อุตสาหกรรมภาคบริการมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ดีในอนาคตโดยเฉพาะจากการที่โควิด-19 ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงให้ภาคบริการหันเข้ามาสู่รูปแบบออนไลน์ให้สอดคล้องกับยุคสังคมดิจิทัลมากขึ้น
Figure 1: อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลงจากช่วงต้นยุค 2000s
ผู้เขียน : ณิศรา วาดี Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References: World Bank

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา