ที่มา: Guide to the Markets US 1Q 2023 โดย JPMorgan Asset Management ข้อมูล ณ 31 ธ.ค. 2565
ด้านคุณ Stewart Hogg ผู้บริหารจาก Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลักของกองทุน KFGG กล่าวว่า หุ้นเติบโตนั้นปกติจะมีความผันผวนที่สูงมากอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เขามองว่าความผันผวนที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงระยะสั้น และช่วงที่ตลาดปรับฐานจนทำให้หุ้นราคาปรับลดลงมามากๆ จะเป็นโอกาสดีที่กองทุนจะเข้าไปลงทุน กลยุทธ์การลงทุนของกองทุนนั้นคือการคัดเลือกหุ้นที่มีศักยภาพที่จะเติบโตได้สูง และจะลงทุนในระยะยาวไม่น้อยกว่า 5 ปีขึ้นไป
ช่วยกันคัดเลือกสินทรัพย์สำหรับลงทุน ปัจจุบันกองทุนมีการลงทุนในหุ้นที่เลือกเฟ้นมาแล้วประมาณ 80 บริษัทและมีการกระจายความเสี่ยงโดยลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม และจะเน้นการลงทุนในระยะยาว ที่ผ่านมา กองทุนสามารถทำผลตอบแทนได้เหนือกว่าตลาด MSCI AC Asia (ex Japan) ไม่น้อยกว่า 5% ได้อย่างต่อเนื่อง
•KFGG ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund, Class B USD Acc (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุน โดยกองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
•KFHASIA ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ Baillie Gifford Pacific Fund (Class B Acc) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80% ของ NAV โดยกองทุนหลักจะลงทุนทั้งโดยตรงและโดยอ้อมไม่ต่ำกว่า 90% ในหุ้นของบริษัทที่อยู่ในทวีปเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) และออสตราเลเซีย