อีกนานแค่ไหน 🌏 ☀️ 🌒🌓🌕🌑🪐
กับการตั้งอาณานิคมบนดาวเคราะห์ดวงอื่น ❓
Elon Musk CEO ของ SpaceX ต้องการเมืองที่มีประชากรหนึ่งล้านคนบนดาวอังคารภายในปี 2050 นั่นอาจฟังดูทะเยอทะยานทางดาราศาสตร์เมื่อพิจารณาว่ามนุษย์ไม่เคยเหยียบพื้นผิวดาวอังคาร แต่มันเป็นไปได้หรือ ▪️▪️
มนุษย์จะใช้เวลานานแค่ไหนในการตั้งอาณานิคมบนดาวเคราะห์ดวงอื่น และเป็นไปได้ไหมที่ผู้คนจะตั้งรกรากในโลกนอกระบบสุริยะ
🌏☀️ คำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ขึ้นอยู่กับดาวเคราะห์ดวงไหนที่กำลังพูดถึง
ดวงจันทร์เป็น "สนามหลัก" ของการสำรวจห้วงลึกในอวกาศ และการสร้างสถานีวิจัยดวงจันทร์เป็น ด่านหน้าด้านไกลของดวงจันทร์จะ นำเสนอโอกาสสำหรับดาราศาสตร์ อย่างน้อยที่สุดก็คือ กล้องวิทยุโทรทรรศน์บนดวงจันทร์จะปราศจากสิ่งรบกวนบนโลก เป็นฐานต่อระยะ เติมเสบียง เขื้อเพลิง
สำหรับจักรวาลอันไกลโพ้น
(วิธีสร้างฐานบนดวงจันทร์ 🔹)
นอกจากดวงจันทร์ ▪️▪️
ดาวอังคารมีความเป็นไปได้มากที่สุด แต่ขั้นตอนสำคัญประการแรกในการสร้างอาณานิคมบนดาวอังคาร จะประสบความสำเร็จคือน้ำ สกัดได้จากน้ำแข็งและ/หรือแร่ธาตุน้ำจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเกษตรและความสามารถในการปลูกอาหาร
ในขณะที่ไฮโดรเจนจากน้ำแข็ง และแร่ธาตุสามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับขับดันจรวด
มนุษยชาติมีแผน จะไปถึงดาวอังคารภายใน
ไม่กี่ทศวรรษ ▪️▪️
🇨🇳 จีนเตรียมส่งทีมมนุษย์ไปดาวอังคารในปี 2033
🇺🇸 NASA เล็งส่งนักบินอวกาศ ในช่วงปลายทศวรรษ 2030 หรือต้นปี 2040
ภารกิจเหล่านี้จะจบลงด้วยการสร้างที่อยู่อาศัยพื้นผิวดาวอังคารซึ่งจะช่วยให้สามารถปฏิบัติภารกิจและการวิจัยในอนาคตได้ โอกาสในการปล่อยยานสำหรับภารกิจเหล่านี้มีจำกัด เนื่องจากระยะทางระหว่างโลกและดาวอังคารแตกต่างกันมากในแต่ละช่วงเวลา ตั้งแต่ประมาณ 56 ล้าน กิโลเมตร ถึงมากกว่า 400 ล้าน กิโลเมตร
เวลาที่โลกและดาวอังคารอยู่ใกล้กันมากที่สุด
เรียกว่า ‼️Mars Opposition ‼️
จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบ 26 เดือน การใช้วิธีขับเคลื่อนแบบเดิม ภารกิจนี้ใช้เวลาหกถึงเก้าเดือนในการเดินทางระหว่างโลกและดาวอังคาร ผลที่ตามมาคือ ภารกิจไป-กลับดาวอังคารอาจใช้เวลาถึง 3 ปี ทำให้ลูกเรือได้รับรังสีเพิ่มขึ้นอย่างมากและใช้เวลาในสภาวะไร้น้ำหนักนานเกินไป จากการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้จากJet Propulsion Laboratory (JPL) ของ NASA พบว่า ปี 2033 จะเป็นโอกาสพิเศษในการส่งยานโคจรพร้อมลูกเรือไปยังดาวอังคารซึ่งกินเวลาไปกลับเพียง 1.6 ปี ▪️▪️
🌏☀️ การตั้งรกรากแสดงถึงการพึ่งพาตนเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์จากโลก เปรียบดาวอังคารกับเกาะห่างไกล ยังคงต้องนำเข้าสิ่งของเป็นครั้งคราว "อุปกรณ์และเครื่องมือส่วนใหญ่จะถูกส่งมาจากโลก
ดาวอังคารจะต้องผลิตบางอย่างสำหรับอาณานิคมระยะยาวเพื่อให้มีศักยภาพทางการเงิน การท่องเที่ยวในอวกาศเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่การสกัดแร่เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในการล่าอาณานิคม ตัวอย่างเช่นการขุดในอวกาศ บนดาวเคราะห์น้อยที่อยู่ใกล้เคียงสำหรับวัสดุที่มีค่า เช่น แพลทินัม สามารถสร้างเศรษฐกิจอวกาศใหม่ได้ จะช่วยผลักดันการลงทุนและการสำรวจเพิ่มเติม ▪️▪️
🌏☀️ แม้ว่าดาวอังคารจะเป็นตัวเลือกที่สมจริงที่สุดสำหรับอาณานิคมนอกโลก แต่เพื่อนบ้านสีแดงของเราไม่ใช่ดาวเคราะห์ที่เอื้ออำนวยต่อมนุษย์มากที่สุด บรรยากาศของดาวอังคารเป็นคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 95% หนาวมาก อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ
-60 องศาเซลเซียส ยานอวกาศจากโลกใช้เวลาเดินทางประมาณ 8.5 เดือน และถูกโจมตีด้วยรังสีที่
เป็นอันตราย
🌏☀️ แน่นอนว่ามีบ้านใหม่ที่น่าอยู่มากกว่านั้นบนดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่เรียกว่าดาวเคราะห์นอกระบบ ปัญหาเกี่ยวกับดาวเคราะห์นอกระบบคือพวกมันอยู่ไกลมาก มนุษย์ยังไม่เคยส่งยานอวกาศไปยังดาวเคราะห์นอกระบบด้วยซ้ำ และยานสำรวจเพียงลำเดียวที่ออกจากระบบสุริยะของเราคือยาน
โวเอเจอร์ 1 และ 2
🌏☀️ ดาวเคราะห์นอกระบบที่ใกล้ที่สุดจะใช้เวลาหลายหมื่นปีกว่าจะไปถึงด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันเวลาเดินทางเหล่านั้นอาจทำให้การตั้งอาณานิคมของดาวเคราะห์นอกระบบเป็นไปไม่ได้ มีการจำลองคอมพิวเตอร์สำหรับการเดินทางระหว่างดวงดาวเนื่องจากความอยากรู้อยากเห็นทางวิทยาศาสตร์คาดว่าระยะเวลาสั้นลงในอนาคตอันใกล้นี้ ต้องขอบคุณยานอวกาศที่เร็วกว่า
ในทางวิทยาศาสตร์ว่าทุก ๆ ร้อยปี ทุก ๆ ศตวรรษ ความเร็วของแรงขับจะเพิ่มขึ้น 10 เท่า เมื่อมนุษย์เรียนรู้วิธีเดินทางในอวกาศให้เร็วขึ้นและเร็วขึ้นในแต่ละศตวรรษที่ผ่านไป เวลาในการเดินทางไปยังดาวเคราะห์นอกระบบอาจลดลงจากหมื่นปีเป็นหลายพันปี และจากนั้นเป็นหลายร้อยปี ▪️▪️
🌏☀️ สถานการณ์สมมติในการเข้าถึงดาวเคราะห์นอกระบบที่อย่างน้อยต้องต้อนรับมนุษย์ภายใน
500 ปี การเดินทางที่ยาวนานหลายศตวรรษยังคงต้องใช้ยานอวกาศที่ขับโดยมนุษย์หลายชั่วอายุคน
ประชากรประมาณ 500 คนเป็นจำนวนเริ่มต้นที่เหมาะสมสำหรับ เรืออาณานิคมหลายชั่วอายุคน แต่มนุษย์จะรับมือกับการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่บนยานอวกาศได้อย่างไร และลูกหลานของพวกเขาจะรับมืออย่างไรเมื่อต้องเกิดมาสู่ชีวิตการเดินทางระหว่างดวงดาว ทำให้เกิดคำถามทางจริยธรรมและความไม่แน่นอน และด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและความท้าทายอื่นๆ บนพื้นโลกที่คุกคามการขับไล่มนุษย์ไปสู่การสูญพันธุ์ก่อนที่เราจะถูกทำลาย ก่อนการเดินทางระหว่างดวงดาว จึงไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเราจะตั้งอาณานิคมบนดาวเคราะห์นอกระบบได้ทันเวลา
Source ▪️▪️
🔴 เซอร์คาน ไซดัม รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยวิศวกรรมอวกาศแห่งออสเตรเลีย และศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ในซิดนีย์ https://research.unsw.edu.au/people/professor-serkan-saydam
🔴 Frédéric Marin นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์หลุมดำที่หอดูดาวแห่งสตราสบูร์ก มหาวิทยาลัยสตราสบูร์กในฝรั่งเศส
จุดจบของโลกวันโลกาวินาศ ยอดนิยม🔹)
92/2023
🔺▪️▪️ Related Content ▪️▪️🔺
(ด้วยอากาศของดาวอังคาร มลภาวะ และแสงแดด
น่าจะเป็นไปได้ที่จะสร้างเหล็กบนดาวอังคาร 🔹)
(มนุษย์ยังคงค้นหาสัญญาณของชีวิตมนุษย์ต่างดาวที่ชาญฉลาดบนดาวเคราะห์ดวงอื่น แต่เราจะตอบสนองอย่างไรหากค้นพบ 🔹)
(Nasa สำรวจใต้ทะเลเพื่อ 🔹)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
