5 เม.ย. 2023 เวลา 04:50 • ธุรกิจ

เจาะลึกระบบออโตเมชัน กับ ‘บริษัท เลิศวิลัยแอนด์ซัน’

โลกธุรกิจ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเข้าสู่ยุคดิจิทัล เทคโนโลยี มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ที่ช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์การทำงานให้ผู้ประกอบการ SME ยุคนี้
ซึ่งความจำเป็นของหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเรียนรู้และปรับใช้ เพื่อไม่ให้ธุรกิจถูกดิสรัปต์ รวมทั้งช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถแข่งขันได้ในยุคอุตสาหกรรม 4.0
Bangkok Bank SME ชวนไปทำความรู้จักกับ ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ หรือ Automation System Integrator (aSI) แถวหน้าของประเทศไทย กับ ดร.ประพิณ อภินรเศรษฐ์ กรรมการบริหาร บริษัทเลิศวิลัยแอนด์ซันส์ จำกัด บริษัทด้านเทคโนโลยี ที่ให้บริการออกแบบ พัฒนา บูรณาการ และติดตั้งหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมายาวนานกว่า 20 ปี
📌ย้อน Business Milestones ‘เลิศวิลัย’
บริษัทเลิศวิลัยแอนด์ซันส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจมากว่า 70 ปี สินค้าหลัก คือ ‘ลวดเชื่อมไฟฟ้า’ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ผลิตและ ผู้ขายรายใหญ่ในประเทศไทย รูปแบบธุรกิจ
คือการจัดจำหน่ายและบริการหลังการขายลวดเชื่อมไฟฟ้า Yawata และ Gemini เครื่องเชื่อมไฟฟ้า Yawata OTC และ Miller และสินค้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานเชื่อมโลหะ มีโรงงานผลิตลวดเชื่อมไฟฟ้า Yawata ร่วมทุนกับ บริษัท Nippon Steel Welding Products and Engineering ประเทศญี่ปุ่นยาวนานกว่า 50 ปี
โดยมี บริษัทเลิศวิลัยฯ เป็นหุ้นส่วนใหญ่และบริหารงาน และ โรงงานผลิตลวดเชื่อมไฟฟ้า Gemini และ Nakata เป็นของคนไทย 100% ด้วยการมีสินค้าคุณภาพ เป็นที่ยอมรับในตลาดและในกลุ่มอุตสาหกรรม ทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้น มีสินค้าที่ได้รับความนิยมจนติดอันดับระดับประเทศ
📌ต่อยอด - แตกไลน์ สู่บริษัทผู้ผลิต
หลังจากประกอบธุรกิจการจัดจำหน่าย บริษัท เลิศวิลัยฯ พัฒนาและต่อยอดสู่การเป็นผู้ผลิต โดยร่วมทุนกับบริษัท Nippon Steel Welding Products and Engineering (ปัจจุบันคือบริษัท Nippon Steel Welding & Engineering)
และได้ก่อตั้งโรงงานแห่งแรกคือ บริษัท ยาวาต้า (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นเมื่อปี 2516 และต่อมาในปี 2528 ได้ก่อตั้งบริษัท ลวดเชื่อมไฟฟ้าไทยฮันซ่า จำกัด ผู้ผลิตลวดเชื่อมไฟฟ้า Gemini และ Nakata ที่เป็นของคนไทย 100%
เมื่อธุรกิจเริ่มขยับขยายและเติบโตต่อเนื่อง จึงเริ่มแตกไลน์ไปทำธุรกิจหุ่นยนต์อุตสาหกรรม เพื่อรองรับงานเชื่อมโลหะแบบอัตโนมัติสำหรับ Spot MIG และ TIG Welding เนื่องจาก หุ่นยนต์อุตสาหกรรม เริ่มได้รับความนิยมนำมาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ของอุตสาหกรรมรถยนต์
ดร.ประพิณ กล่าวว่า “อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งนำตลาดโดยแบรนด์ชั้นนำอย่าง Isuzu, Toyota, และ Mazda เริ่มนำหุ่นยนต์และระบบออโตเมชั่นเข้ามาใช้ในประเทศไทย ประมาณปี 2541-2542 ในไลน์การประกอบรถยนต์
โดยติดตั้ง Spot Gun บน หุ่นยนต์อุตสาหกรรม เพื่อทำการ Spot Welding ตัวถังรถยนต์โดยอัตโนมัติ แทนที่การทำงานของคนโดยสิ้นเชิง ”
ซึ่งบริษัทเลิศวิลัยแอนด์ซันส์ จำกัด มองเห็นถึงโอกาสการเติบโต จึงเข้าไปในสู่ธุรกิจนี้ ด้วยการเป็นตัวแทนจำหน่ายหุ่นยนต์อุตสาหกรรมของ Nachi Fujikoshi, Japan และเริ่มขายหุ่นยนต์อุตสาหกรรมให้กับ บริษัทอีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โปรเจกต์แรกคือ Project 190 และตามมาอย่างต่อเนื่องอีกหลายโปรเจกต์
นอกจากนี้ ยังมี บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัทออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ฯลฯ ใช้หุ่นยนต์อุตสาหกรรม Nachi ที่ขายโดยบริษัทเลิศวิลัยฯ เช่นกัน
📌ก้าวสู่ธุรกิจ “ผู้ให้บริการระบบหุ่นยนต์ครบวงจร”
จากความรู้ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมายาวนานในธุรกิจเชื่อมโลหะ ต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมอีกหลากหลายประเภท ตลอดจนองค์ความรู้ที่ได้จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายหุ่นยนต์ Nachi มานานนับสิบปี ทำให้บริษัทเลิศวิลัยฯ ขยายงานสู่การเป็นผู้บูรณาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในปี 2558
ดร.ประพิณ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราเริ่มธุรกิจหุ่นยนต์โดยการเป็นตัวแทนขาย ติดตั้ง และ โปรแกรมหุ่นยนต์ในงาน Spot Welding สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ หลังจากนั้น เราได้ขยายไปในงาน Press Tending ซึ่งบริษัทนาชิฯ ได้พัฒนาหุ่นยนต์ขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับการเคลื่อนย้ายชิ้นงานขึ้นรูปโลหะตัวถังรถยนต์ (Press Tending) ตัวอย่างเช่น หนึ่งโรง Press จะใช้ Press Machine 5 ตัว จะใช้หุ่นยนต์ประมาณ 16 ตัว ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนการลงทุนหุ่นยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 40 ล้านบาท
และเราได้ทำการขาย Project ประเภทนี้ไปถึง 6 Projects จุดสำคัญก็คือ หุ่นยนต์อุตสาหกรรมเริ่มมีการใช้งานแพร่หลายขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย ดังนั้นหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเริ่มกลายเป็นสินค้าคอมมอดิตี้ สินค้าอะไรที่เป็นคอมมอดิตี้ หมายถึงการลดลงของกำไร จากเดิมเมื่อ 26 ปีที่ผ่านมา บริษัทเลิศวิลัยฯ ได้ทำการขายหุ่นยนต์อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ไปกว่า 2,000 ตัว จากยอดขายโครงการละประมาณ 50-100 ตัว จึงต้องเริ่มมาคิดแล้วว่าจะทำอย่างไรไม่ให้กำไรลดลง แต่ เพิ่มขึ้น?”
เรามาคิดว่า ธุรกิจคือ ขายหุ่นยนต์อุตสาหกรรม วางโปรแกรมหุ่นยนต์ ติดตั้งหุ่นยนต์ และบริการหลังการขาย ขั้นต่อไปก็คือการ เป็น Robot & Automation System Integrator หรือ ผู้บูรณาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ถ้าเปรียบกับการสร้างบ้าน เราคือผู้รับเหมาก่อสร้าง ทำทุกอย่างเพื่อให้สร้างบ้านเสร็จครบหมด และถ้าเราจะทำให้ครบวงจร เราคงต้องเป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์ด้วย จึงเป็นที่มาของเรื่อง นวัตกรรม (Innovation) ของ บริษัทเลิศวิลัยฯ คือ หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ FACoBOT AMR (Autonomous Mobile Robot)
📌ความเชี่ยวชาญผสานไอเดีย สูตร..สู่ความสำเร็จ
ความรู้และความเข้าใจในสิ่งที่ทำ คือความได้เปรียบที่ทำให้ธุรกิจแตกต่างจากคู่แข่ง หากคุณขายหุ่นยนต์ คุณต้องรู้จักวิธีใช้ ไม่ต่างจากสินค้าประเภทอื่น
ซึ่ง บริษัทเลิศวิลัยฯ ออกแบบโปรแกรมให้กับหุ่นยนต์อุตสาหกรรมได้ เพราะมีองค์ความรู้จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน และจากประสบการณ์ในอาชีพวิศวกรรมอุตสาหการ (Industrial Engineering)
โดย ดร.ประพิณ จบการศึกษา ปริญญาเอก วิศวกรรมอุตสาหการทางด้าน Operations Research focus ในส่วน Mathematical Modelling and Mathematical Programming จาก Northeastern University, Boston, Massachusetts, U.S.A. และการเป็นวิศวกรควบคุมประเภทสามัญอุตสาหการ ทำให้มีความเชี่ยวชาญในด้านการประยุกต์ใช้งานวิศวกร กับการบริหารทรัพยากรต่าง ๆ
ด้วยการวิเคราะห์และสังเคราะห์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้การต่อยอดธุรกิจ ประสบความสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญ และมีไอเดียในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ นอกจากปัจจัยเหล่านี้ ยังต้อง Duplicate ทำซ้ำ ๆ และ Never Give up คือ อย่ายอมแพ้ ลุยต่อ และสร้างทีม สิ่งสำคัญคือ ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง
ดร.ประพิณ อภินรเศรษฐ์ กรรมการบริหาร บริษัท เลิศวิลัย แอนด์ ซันส์ จำกัด
ดร.ประพิณ ให้แนวคิดว่า หากคุณทำเรื่องเทคโนโลยี สิ่งที่ต้องมีเป็นของตัวเองคือนวัตกรรม ก่อนโควิด 19 ตนเริ่มพัฒนา Autonomous Mobile Robots หรือ AMRs เป็นหุ่นยนต์เคลื่อนที่สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้เอง พัฒนาฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ทั้งหมดขึ้นเองโดยคนไทย
ซึ่งในช่วงโควิด 19 ได้เริ่มทำหุ่นยนต์ AMR นี้ออกมาเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อ Covid 19 โดยช่วยการเคลื่อนย้ายยาและอาหาร รวมถึงฆ่าเชื้อโรค แทนที่คนทำงาน เป็นหุ่นยนต์เคลื่อนที่ที่ใช้ในโรงพยาบาล
จึงเป็นที่มาของ นวัตกรรม FACoBOT หุ่นยนต์เคลื่อนที่ย้ายสินค้าอัตโนมัติใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม โดย บริษัทเลิศวิลัยฯ
 
หลังจากนั้น เราเริ่มขอ BOI (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) เมื่อได้รับการตอบรับ จึงเริ่มสร้างโรงงานแห่งใหม่ ในพื้นที่ 5 ไร่ คือศูนย์บูรณาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (Robot & Automation System Integration Center) ตอนนี้เราเป็น aSI เต็มตัว มีโรงงานสำหรับออกแบบ ประกอบ และ ทดสอบงานหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ อย่างครบวงจร
📌เปลี่ยนแปลงเพื่อหาโฟกัส ต้องพร้อม Transformations ตลอดเวลา
ดร.ประพิณ เผยว่า ในปัจจุบัน Industry 4.0 เริ่มเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมการผลิตเป็นอย่างมาก basic idea ก็คือ ในโรงงาน เรามี (ก) เครื่องจักรต่างๆ ระบบอัตโนมัติ Sensors หุ่นยนต์ ฯลฯ
ทั้งหมดนี้เราต้องใช้ Technology ที่เรียกว่า Operational Technology (OT) และ (ข) Back Office เราต้องใช้ Technology ที่เรียกว่า Information Technology (IT) ดังนั้นความสามารถในการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่าง OT และ IT ต่อเนื่องไปจนถึง Cloud (หรือการเชื่อมข้อมูลในแนวตั้ง) ก็คือ การทำ Industry 4.0 หรือ Everything Connected
ทั้งหมดนี้ก็นำไปสู่เรื่องของ Material Requirements Planning (MRP) ซึ่งเป็นระบบการวางแผนการผลิตและควบคุมวัสดุที่ใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการ Implement Industry 4.0
ซึ่งรวมอยู่ในระบบซอฟต์แวร์ในการทำธุรกิจ คือ ERP (Enterprise Resource Planning) ซึ่งถ้าไม่มีระบบซอฟต์แวร์ ERP คงจะเป็นการยากมากที่คุณจะ Implement Industry 4.0 ให้เป็นที่สำเร็จได้
บริษัท เลิศวิลัยฯ คือส่วนของ Operational Technology (OT) ที่เชื่อมโยงออโตเมชันแบบแนวนอน มีทั้งโอทีและโอทีเชื่อมต่อกัน เราออกแบบทุกอย่าง
จากนั้นจึงสั่งของเข้ามาเพื่อประกอบ ที่สำคัญ คือ ซอฟท์แวร์ เมื่อลูกค้ามีความต้องการเรื่องอะไร ต้องการหุ่นยนต์ยกของ เรามีการใส่ระบบที่เป็น Know How ของเราเอง เราผลิตทุกอย่างได้เพราะส่วนที่สำคัญคือซอฟท์แวร์ที่เรามีความเชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ การออกแบบเรื่องแมชชีนเลิร์นนิ่ง จะมี Open source operating system ซึ่งเรานำมาปรับ เมื่อปรับแล้ว จึงใช้ซอฟท์แวร์ที่เป็นของเราเอง คอยเก็บข้อมูลและทำให้เกิดการเรียนรู้อยู่เสมอ
ด้วยความรู้ที่เรียบจบมาเฉพาะด้าน ดร.ประพิณ จึงสะท้อนมุมมองว่า ไม่ใช่ทุกคนเห็นโปรแกรมต่าง ๆ แล้วจะเรียกว่าเอไอได้ ที่ถูกต้องคือ หากจะเรียกว่าระบบเอไอ เทคโนโลยีนั้น ต้องเป็นระบบที่มีความสามารถในการเรียนรู้
ถ้าเรียนรู้ และปรับตัวให้ดีขึ้นได้ จึงเรียกว่า ‘เอไอ’ อย่างที่ยุคนี้รู้จักกันดี เช่น ChatGPT อันนั้น คือเอไอ หรือ เทคโนโลยีประเภท Deep Lerning ที่มีการเรียนรู้และปรับตัวได้ตลอดเวลา
โดยสรุปคือ เมื่อมี Open source library เราจะนำมาปรับใช้ ซึ่งต้องอาศัยความรู้ด้านซอฟท์แวร์ควบคู่ไปด้วย โดยที่ไม่ต้องเอาของที่อื่นมา
แต่เราปรับใช้เป็นของเราเอง การ Optimize ได้เอง จะช่วยให้เราแก้ไขหรือพัฒนาเองได้ ฉะนั้น คุณต้องมี Know How และมีซอฟท์แวร์ มีแพลตฟอร์มที่จะทำและแก้ไขได้แบบง่าย ๆ ที่สำคัญคือ มี Library ต้อง Optimize ให้การใช้งานรวดเร็ว ไม่มีข้อผิดพลาด
📌SME จะเข้าถึงเรื่องระบบออโตเมชันอย่างไร?
ดร.ประพิณ กล่าวว่า หากผู้ประกอบการ SME ต้องการเลือกบริษัทที่ให้บริการเรื่องเทคโนโลยี ต้องรู้ว่าบริษัทนั้น มีความเชี่ยวชาญหรือไม่ มีผลงานอะไร ซอฟท์แวร์ที่ใช้ มีการใช้งานมานานแค่ไหน มีบัคหรือไม่
ซึ่งสำหรับ บริษัท เลิศวิลัย เราอยู่ในธุรกิจนี้กว่า 20 ปี มีแพลตฟอร์มมากมาย หากจะเลือกใช้ คุณต้องรู้ว่าบริษัทนั้นมี Performance เป็นอย่างไร มีทีมงานเป็นอย่างไร
“...สำหรับ SME ที่ต้องการ Transformation โดยเฉพาะตอนนี้มีปัญหาเรื่องค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ผมถามว่าถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ SME ที่เป็นโรงงานขนาดเล็ก ในแง่การผลิตสินค้าสำเร็จรูป ต้องใช้แรงงานในการยกและวางสินค้า
อย่างแรกคือ ใช้แรงงานคน ถ้าหากเปลี่ยนมาใช้หุ่นยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งหุ่นยนต์ ทดแทนแรงงานได้ 2 ราย คุณจะมีต้นทุนที่ประมาณ 400,000 บาท แต่การใช้คน 1 คน สมมุติค่าแรงอยู่ที่ 12,000 บาทต่อคน 1 ปี อยู่ที่ 420,000 บาท Pipe line ของสินค้าสำเร็จรูป คือต้องการยกสินค้า ก็ต้องเปลี่ยน
หรือถ้าเป็นระบบใหญ่ต้องการยกของที่ขนาด 20 กิโลกรัม จะมีต้นทุนประมาณ 15-16,000,000 ล้านบาท อาจจะลงทุนกับระบบออโตเมชัน ซึ่ง SME จะใช้วิธีขอ BOI แล้วเอากำไรเป็นส่วนลดก็ได้เช่นกัน...เป็นสิ่งที่ควรทำ...”
ดร.ประพิณ เผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ขณะนี้ หุ่นยนต์มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ข้อมูลระดับโลกจากปี 2021 พบว่าหุ่นยนต์ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 31% จากปี 2016 โดยจำนวนหุ่นยนต์ที่มีใช้ทั้งโลกขณะนี้ นับเฉพาะหุ่นยนต์อุตสาหกรรม คือ 13-14 ล้านตัว
สิ่งที่เป็นสถิติที่น่าสนใจ 3 อันดับ คือหุ่นยนต์ที่ใช้ในกลุ่ม Electronics – Electrical, รถยนต์ และอุตสาหกรรมเหล็ก ซึ่งใน 3 อันดับ ประเภทที่ถูกนำมาใช้สูงสุดคือ Handling การเชื่อม และการประกอบ ในปี 2021 ประเทศไทย อยู่ที่อันดับที่ 12 โดยมีหุ่นยนต์ 3,900 ตัว ประเทศเราถือเป็นระบบออโตเมทีฟฮับ เพราะเราเป็นศูนย์ แนวโน้มโตขึ้นเรื่อย ๆ
สำหรับผู้ประกอบการ SME ตอนนี้ บีโอไอ (BOI) มีมาตรการส่งเสริมการลงทุน ให้ผู้ประกอบการเพิ่มการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมให้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการองค์กรครอบคลุมทั้งการผลิตและการบริการ รวมถึงกรมสรรพากร
ก็มีโครงการที่ช่วย SME ในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมออกมามากมาย มีการร่วมมือกันจากหน่วยงานส่งเสริม SME เช่น สสว. (สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม) กระทรวงอุตสาหกรรม เพราะฉะนั้นแนวโน้มมาแน่นอน
📌เลิศวิลัยฯ บนอีคอมเมิร์ซ
ในยุคดิจิทัล ทุกธุรกิจต้อง Transformation นี่คือสิ่งที่ SME ต้องปรับเปลี่ยน มีการ Keep Change ต้องดูว่าอะไรที่ทำกำไรแล้วไปทางนั้น นอกจากออฟไลน์ เรายังขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น ลาซาด้า, efacobot.com ซึ่งเริ่มเข้าไปตั้งแต่ปี 2560 บนลาซาด้า เราจะใช้ระบบ API (Application Programming Interface) ที่วิ่งไปหาลูกค้า แล้วดึงข้อมูล (Data) ดูว่า วันนี้มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
แม้จะประสบความสำเร็จอย่างยาวนาน แต่ บริษัท เลิศวิลัยฯ ไม่เคยหยุดการพัฒนา และพร้อมจะขยาย ต่อยอดและแตกแขนงในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกัน โดยขณะนี้ ดร.ประพิณ มองว่าอุตสาหกรรมรถยนต์เริ่ม Down เราจะโฟกัสที่อุตสาหกรรมอื่นแทน เพราะในประเทศไทย มีอีกหลายกลุ่มที่ต้องใช้เรื่องเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการจัดการอีกมากมาย เพื่อก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ
รู้จัก บริษัท เลิศวิลัย แอนด์ ซันส์ จำกัด เพิ่มเติมได้ที่
โฆษณา