5 เม.ย. 2023 เวลา 08:37 • ปรัชญา
เรื่องเรียน จิตวิทยา ..เรียนไปเพื่อมุ่งหวังหาเงินหาทอง เพื่อที่จะหารายได้ มันดี..ได้เงินได้ทอง ..มันก็จมอยู่ตรงนั่นแหละ
จิตวิทยา ..รู้ไว้ที่จิตของคนยึดถือที่เอาแต่ได้ มีดีมีเสีย ..ไม่รู้จักคำว่ากรรม บุญกุศล บารมี แล้วจิตดวงนี้ได้อะไรเมื่อออกจากสังขารนี้ จะหอบเอาวิชาจิตวิทยาไปกับจิตได้หรือ ..ที่เขียนอย่างนี้ มิใช่จะหมิ่นวิชาการนี้ ..เมื่อจะเรียน ..เราก็ควรทำความเข้าใจตัวเอง เหตุผลของเราเอง ให้เรารู้จักว่า จิตเราต้องเดินทางออกจากสังขารนี้ พฤติกรรมกายวาจาใจ เป็นหลักฐานกรรม .ที่เรากระทำเองใช้เอง ..
ส่วนที่เค้าเรียน เรื่องกาย อารมณ์ ..จิต เรียนให้รู้จัก จิตที่เป็นตัวตนของตนเอง แก้ไขตนเอง ..คลี่คลายอารมณ์ของตนเอง พึ่งตนเอง มันก็เริ่มต้นเรียนกันคนละแบบ ..เรียนเพื่อลดความโลภโกรธหลง เรียนให้รู้จักกรรม การเรียนรู้เรื่องของจิต..นำไปใช้กันคนละแบบ ไม่ได้มุ่งเอาไปทำมาหากิน เอาไว้รู้จักจิตที่มาอาศัยกายชั่วขณะหนึ่ง .จึงมีความแตกต่างกัน มีเรื่องราวของจิต ..จิตที่เข้าไปถึงคำว่า ธาตุทั้งสี่ ดินฟ้าอากาศได้ ..ใครจะคิดอะไร ทำอะไร ท่านก็สามารถรู้ได้
เราเคยถามเรื่องนี้ ..ท่านบอกว่า ก็กายเรามีธาตทั้งสี่อยู่ .เมื่อเราทำจิตได้ ..มันก็ไม่มีอะไรปิดบังได้ .มีผู้ที่เรานับถือ ..ท่านบอกว่า ทั้งพระฆราวาสทั้งวัด ฉันก็รู้ว่าเป็นอย่างไรกัน..เรื่องลอดตอรี่ ..เลขรางวัลที่หนึ่ง ..เค้าก็ให้ดูทุกงวด เป็นเวลาห้าปี เหมือนถูกทดสอบจิตว่า..จะยึดอยากได้มั่ย..มันมีรายละเอียด ….
..วิธีการเรียนการปฏิบัติ..ไม่เหมือนกันเลยในคำว่าจิต..การที่เค้่าประพฤติปฏิบัติธรรมกันเพื่อแก้ไข นิสัยของตัวเอง นิสัยที่มียึดกายวาจาใจที่เราใช้ตามอารมณ์สนั้นว่าดี ขนาดไปติเตียนใคร โกรธใครก็เห็นว่าตัวเองดีแล้วอยู่นั่นแหละ ท่านจึงบอกว่าขนาดตัวเองยังไม่รู้จักนิสัยตัวเอง แก้ไขนิสัยตัวเอง ..แล้วใครจะแก้ไขนิสัยของเราได้ ไม่รู้จักพฤติกรรมกายวาจาใจที่เราใช้เอง
โฆษณา