5 เม.ย. 2023 เวลา 09:05

5 ตำนานเรื่องสุดหลอนจากต่าประเทศ

1. Qalupalik
กาลูปาลิก เป็นสิ่งมีชีวิตจากเทพปกรณัม ตำนาน ของชาวเอสกิโม ได้อธิบายเอาไว้ว่าเป็นวิญญาณแห่งน้ำหรือนางเงือกที่แปรเปลี่ยนไปในทางชั่วร้าย มันคือสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่อาศัยอยู่ใต้มหาสมุทรของอาร์กติกและเดินเตร่ไปตามชายหาดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ บนพื้นน้ำแข็งแตกซึ่งเป็นอันตราย มันมองหาเด็กๆ ที่เอาแต่ใจและหลงเข้ามาใกล้ชายฝั่งมากเกินไป พวกมันจะซุ่มอยู่ใกล้กับน้ำแข็งที่แตกเป็นหย่อมๆ หรือซ่อนอยู่ด้านล่างใต้นำ้แข็งที่บาง
ว่ากันว่าคลื่นไอน้ำที่พวยพุ่งขึ้นจากผืนน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่ามีสิ่งหนึ่งซ่อนอยู่ใต้ผิวน้ำ
ตามตำนาน กาลูปาลิก สวม amautik (รูปแบบของกระเป๋าสะพายที่พ่อแม่ชาว Inuit ใส่เพื่ออุ้มลูก) และจะใช้มันเพื่ออุ้มเด็กๆ ที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่และเข้าใกล้น้ำมากเกินไป แต่สิ่งที่พวกเขาจะทำกับเด็กเหล่านี้เมื่อจับได้ ไม่มีใครทราบทั้งหมด บางคนบอกว่าพวกมันกินเด็กที่จับได้ แต่ตำนานอื่นๆ อ้างว่าพวกเขาจะขโมยพวกเขาไปและดึงเอาพลังงานที่ไร้เดียงสาของเด็กน้อยเพื่อดำรงชีวิตที่ยืนยาวผิดธรรมชาติ
กล่าวกันว่า กาลูปาลิก ทำเสียงฮัมที่แปลกประหลาดและน่าขนลุก ดังนั้นเราจึงสามารถได้ยินก่อนที่มันจะปรากฏตัว เสียงฮัมเบาๆ ของมันเป็นกลวิธีที่ใช้ในการดึงเด็กที่อยากรู้อยากเห็นเข้ามาใกล้พอที่จะคว้าเด็กๆ ได้ อีกวิธีที่คล้ายคลึงกันที่พวกเขาชอบใช้คือการอยู่ใต้พื้นน้ำแข็งบางๆ เพื่อที่เมื่อเด็กเดินไปที่นั่น พวกมันจะได้สามารถใช้มือเจาะทะลุน้ำแข็งและลากลงไปใต้น้ำได้
2. Wendigo
เวนดิโก เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวและหิวโหย ในตำนาน Algonquian ของชนพื้นเมืองอเมริกันที่กินเนื้อมนุษย์เพื่อความอยู่รอด แม้ว่าพวกเขาจะกินมากแค่ไหน ความหิวก็ยังคงอยู่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากรูปร่างผอมแห้งของพวกมัน พวกมันถูกมองว่าเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่มุ่งร้ายและมีพลังทางวิญญาณอันยิ่งใหญ่ซึ่งมันจะอาศัยอยู่ในที่ที่มีฤดูหนาว เชื่อกันว่าพวกมันเดินเตร่อยู่ในป่าที่ครั้งหนึ่งชนพื้นเมือง Algonquians ได้อาศัยอยู่
พวกมันที่หายไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีข่าวลือว่าพวกมันถูกกินโดยสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ มีรายงานการพบเห็นเวนดิโกหลายครั้ง ไม่เพียงแต่โดยชนพื้นเมืองอเมริกันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ตั้งถิ่นฐานผิวขาวด้วย เวนดิโกนั้นเดินได้อย่างรวดเร็วมากและมีพละกำลังที่ผิดธรรมชาติ แม้ว่ามันจะดูอ่อนแอแค่ไหนก็ตาม แต่ยิ่งมันอายุมากก็ยิ่งมีพลังมากขึ้น เมื่อพวกมันแพร่กระจายไปทั่วป่า อิทธิพลของมันต่อธรรมชาติก็ยิ่งมากเช่นกัน บางตัวสามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตในป่าได้ และบางตัวก็ทรงพลังมากจนกล่าวกันว่าสามารถควบคุมสภาพอากาศได้
3. Penanggalan
สิ่งมีชีวิตที่เหมือนผีกระสือของทางบ้านเราที่ออกหากินเวลากลางคืน มันจะปรากฏตัวโดยที่มีเพียงแค่ศีรษะของผู้หญิงที่ไร้ร่างลอยได้ โดยมีอวัยวะภายในของมันยังคงติดตามอยู่ข้างใต้ ตลอดช่วงกลางวันหัวของเธอยังคงติดอยู่กับลำตัวของเธอ สิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดนี้ก็คือมนุษย์ที่มีชีวิต
แต่เมื่อตกกลางคืน เธอจะแช่อวัยวะของตนเองลงในน้ำส้มสายชูเพื่อทำให้อวัยวะเหล่านั้นหดตัว จะได้กลับเข้าสู่ร่างกายของตนเองได้โดยง่ายก่อนออกค้นหาเหยื่อ นางปีนังกาลันจึงมีกลิ่นของน้ำส้มสายชูติดตัวไปทุกที่ แม้จะอยู่ในร่างมนุษย์ เธอก็ยังมีกลิ่นที่รุนแรงนี้ ทำให้สามารถตรวจจับได้ แม้ว่าในตอนเช้าจะเป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
อาหารโปรดของมันคือเลือดของหญิงมีครรภ์และเด็กทารกที่เพิ่งเกิด มันจะยื่นลิ้นยาวเข้าไปในบ้านของเหยื่อ เพื่อกินเลือดที่หกระหว่างการคลอดบุตร มันจะไม่เพียงดื่มเลือดของเด็กเท่านั้น แต่มันจะกลืนกินเนื้อของเด็กเนื่องจากเด็กทารกเป็นอาหารโปรดของมัน บ่อยครั้งนางปีนังกาลันจะหางานเป็นพยาบาลผดุงครรภ์หรืออาชีพอื่นๆ ที่จะเข้าถึงหญิงมีครรภ์และเด็กได้ ดังนั้นตามประเพณีจึงกล่าวกันว่าการเลือกนางผดุงครรภ์ต้องระวังให้มาก และหากได้กลิ่นน้ำส้มสายชู เธอจะต้องถูกขับออกทันที
4. Tupilaq
ตูปิลัค เป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายหุ่นที่น่าสยดสยอง มันถูกสร้างขึ้นโดยหมอผี จากชิ้นส่วนของสัตว์และมนุษย์หลายชนิด ในบางกรณีอาจมีชิ้นส่วนที่นำมาจากศพเด็กด้วย (กระดูก, หนัง, ขน, เอ็น, ฯลฯ) มันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ล้างแค้นศัตรูหรือคู่ต่อสู้ และจะไม่หยุดจนกว่ามันจะบรรลุจุดประสงค์ที่ได้รับมา
สิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวนี้ได้รับชีวิตด้วยเวทมนตร์หรือพิธีกรรม จากนั้นจึงถูกส่งออกไปเพื่อติดตามและทำลายเป้าหมายที่กำหนด อย่างไรก็ตาม การสร้างสิ่งมีชีวิตดังกล่าวไม่ได้ปราศจากความเสี่ยงเลยสักนิด เนื่องจากหากเป้าหมายของมันคือผู้มีพลังอำนาจที่สูงกว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้มีพลังอำนาจที่สูงกว่าจะขับไล่การโจมตีของมันและส่งตูปิลัคกลับไปฆ่าผู้ให้กำเนิดแทน เพื่อที่จะได้ไม่ตายหมอผีจะต้องสารภาพต่อสาธารณะถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมเพื่อทำลายพลังของคาถา เหมือนกับการทำของใส่กันในบ้านเรา
5. Black Annis
แบล็คแอนนิส เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวจากนิทานพื้นบ้านของอังกฤษ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีเรื่องเล่าว่าพวกมันเคยเดินด้อมๆ มองๆ ในแถบชนบทของ Leicestershire พวกมันชื่นชอบเนื้อมนุษย์ (โดยเฉพาะเนื้อเด็ก) มีคนบอกว่ามันอาศัยอยู่ในถ้ำบน Dane Hills ชาวบ้านรู้จักกันในชื่อ Black Annis' Bower Close ที่ทางเข้ามีต้นโอ๊กใหญ่ต้นหนึ่ง มันจะปีนเข้าไปและซ่อนตัวเพื่อรอให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาทางนี้เพื่อจับกิน
ในตอนกลางคืนมันจะออกจากถ้ำเพื่อตามหาเด็กและลูกแกะเพื่อกิน หลังจากนั้นก็ถลกหนังหน้าออกด้วยการแขวนไว้บนต้นไม้ก่อนสวมไว้รอบเอว ตำนานเล่าว่ามันจะเอื้อมเข้าไปในหน้าต่างกระท่อมเล็กๆ ด้วยแขนที่ยาวเหมือนกระดูกและฉกจับทารก สิ่งนี้ทำให้พ่อแม่เตือนลูกๆ ของพวกเขาว่า Black Annis จะพาพวกเขาไปหากพวกเขาไม่ประพฤติตนในทางที่ดี
เสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองของแบล็คแอนนิสสามารถได้ยินได้ไกลถึง 5 ไมล์ ทำให้ชาวบ้านที่หวาดกลัวมีเวลาเตรียมตัวสำหรับการมาเยือนของมันด้วยการปิดประตูใส่กลอน ติดหนังที่หน้าต่าง และวางสมุนไพรป้องกันไว้ด้านบนเพื่อให้ตัวเองปลอดภัย ว่ากันว่าคุณจะได้ยินเสียงฟันอันแหลมคมของมันขบกันเมื่อมันอยู่ใกล้ๆ คุณถ้ำของมันเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก
หาคุณอ่านแล้วได้ความรู้หรือข้อคิดต่างๆจากเรื่องราวเหล่านี้
ถ้าไม่อยากพลาดเรื่องราวข่าวสารดีๆที่น่าสนใจของทางเพจ ก็ขอฝากทุกท่านติดตาม กดไลค์ กดแชร์เพจ Stories around The World.(เรื่องราวรอบโลก) กันด้วยนะคะ
อ่านเพิ่มเติม https://www.storiesaroundtheworld.net/
โฆษณา