6 เม.ย. 2023 เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

OPEC+ ตัดการผลิตน้ำมัน จะส่งผลให้ราคาน้ำมันสูงไปแค่ไหน?

การประกาศตัดการผลิตน้ำมันโดยกลุ่มประเทศ OPEC+ ได้สร้างความประหลาดใจต่อตลาดไม่น้อย พร้อมยังกดดันให้ดัชนีราคาน้ำมันพุ่งขึ้นทันที ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจจะซ้ำเติมปัญหาเงินเฟ้อสูงให้ถูกคลี่คลายช้าลงไปอีก
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์กันว่า กลุ่ม OPEC+ น่าจะยังสงวนท่าที ไม่มีการปรับเปลี่ยนการผลิต
โดยอ้างอิงจากนักวิเคราะห์ทั้ง 14 สถาบันที่คาดการณ์ใน Bloomberg ทั้งหมดต่างคิดกันว่า กลุ่ม OPEC+ จะคงระดับการผลิตไว้เท่าเดิม
แต่เมื่อถึงเวลาการประชุมของกลุ่มมหาอำนาจทางน้ำมัน พวกเขากลับตัดสินใจเซอร์ไพร์สทุกคน ประกาศตั้งใจจะลดการผลิตน้ำมันลง 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน เริ่มในเดือนหน้า
นำมาโดยประเทศซาอุดิอาระเบียที่บอกว่า ตนเองคนเดียวจะลดการผลิตน้ำมันถึงวันละ 500,000 บาร์เรลต่อวัน
เมื่อตลาดไม่ได้เตรียมใจกันไว้ก่อนแบบนี้ ก็เลยทำให้ราคาน้ำมันเมื่อเปิดตลาดวันจันทร์พุ่งขึ้นทันที ทั้งดัชนี WTI และดัชนี Brent
ยกตัวอย่างในส่วนของดัชนี Brent ราคาปรับเพิ่มขึ้นทันทีราว 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (หรือคิดเป็นประมาณการเพิ่มขึ้น 6%) ขึ้นมาอยู่ระดับเกือบ 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลแล้ว
การปรับขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงทิศค่อนข้างเร็วทีเดียว เพราะย้อนกลับไปเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา (หรือราวสองสัปดาห์ก่อนเท่านั้น) ราคา Brent ยังปรับลงไปอยู่ที่ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ที่เป็นราคาที่ต่ำที่สุดตั้งเดือนธันวาคมปี 2021 อยู่เลย
ซึ่งราคาที่ต่ำลงตอนนั้นเกิดมาจากความกังวลใจต่อสภาวะเศรษฐกิจโลก ภายหลังจากเกิดวิกฤติภาคธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรป
แต่เมื่อสถานการณ์ภาคธนาคารเริ่มทรงตัวก็ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมา แต่นั่นก็ยังไม่พอสำหรับกลุ่ม OPEC+ จนเกิดการตัดการผลิตน้ำมันอย่างที่กล่าวไป
ทำให้ตอนนี้นักวิเคราะห์บางสถาบัน เช่น Goldman Scah ,UBS และ Rystad เริ่มออกมาพูดว่า เราอาจจะได้เห็นราคาน้ำมันราว 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลก็ได้ในปีนี้
แต่นักวิเคราะห์ส่วนที่เหลือก็ยังมองว่า การตัดการผลิตครั้งนี้เป็นความตั้งใจตั้งฐานราคาน้ำมันไม่ให้ต่ำกว่า 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเท่านั้น ไม่ได้กลับขึ้นไปทะลุระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้
โดยให้เหตุผลเพิ่มเติมแรกมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของหลายประเทศ และขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ จะกดดันให้อุปสงค์ต่อน้ำมันไม่สูงจนเกินไป
เหตุผลจากที่กลุ่มประเทศผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม OPEC+ (ที่ไม่ได้มาตกลงการตัดการผลิตด้วย) จะเร่งผลิตน้ำมันเพื่อประโยชน์จากราคาที่สูงขึ้น จนอุปทานน้ำมันกลับมาเท่าเดิม
และเหตุสุดท้ายมาจากทางกลุ่มประเทศ OPEC+ เอง ก็ต้องระมัดระวังว่า การที่น้ำมันราคาสูงเกินไปจะกลายเป็นดาบสองคม กลับมาสู่ประเทศของพวกเขาเอง ผ่านราคาสินค้านำเข้าที่พวกเขายังต้องกินต้องใช้
อีกหนึ่งความเห็นที่น่าสนใจ ที่อาจจะพอบอกใบ้สิ่งที่คิดอยู่ในใจของทางกลุ่มประเทศ OPEC+ มาจากคุณ Timipre Sylva อดีตรัฐมนตรีของประเทศไนจีเรียซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิก กล่าวไว้เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อนว่า
“กลุ่มประเทศ OPEC+ ต้องการราคาน้ำมันอยู่ประมาณ 90 ดอลลาร์สหรัฐ”
การกระทำที่เกิดขึ้นนี้อาจจะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน แต่มันก็สร้างความไม่พอใจให้กับอีกหลายคน โดยคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนก่อนเลย คือรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ คุณ Janet Yellen โดยเธอกล่าวว่า การกระทำของกลุ่ม OPEC+ “เป็นการกระทำที่ไม่สร้างสรรค์ (Unconstructive act)”
โดยความคิดที่อยู่ในใจของท่านคงจะเป็น แทนที่ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเริ่มจะส่งสัญญาณชะลอตัวลงมาบ้างแล้ว จะได้พิจารณาชะลอการขึ้นดอกเบี้ยได้บ้าง ดันต้องมากังวลใจกับราคาน้ำมันรอบใหม่เสียอีก
และก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งเชื้อไฟที่สุมเพลิงให้ความเริ่มไม่ลงรอยระหว่างสหรัฐฯ กับกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเหล่านี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นไปอีก
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References :
โฆษณา