7 เม.ย. 2023 เวลา 01:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

11 ธุรกิจที่โดดเด่นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์

หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยได้ทยอยออกงบการเงินในปี 2565 มาเรียบร้อยแล้ว วันนี้ผู้เขียนได้สรุปข้อมูลสำคัญของหมวดธุรกิจมาให้อ่านในบทความนี้
💰 ภาพรวมปี 2565 กำไรสุทธิของบริษัทใน SET มีกำไรสุทธิเติบโตขึ้นทุกหมวดธุรกิจ
11 หมวดธุรกิจใน SET ยกเว้นหมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ มีกำไรสุทธิเป็นบวกในปี 2565 และมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ (%YoY) เป็นบวกทั้งหมด โดยมีช่วงการเติบโตค่อนข้างกว้างตั้งแต่ 1% - 128% ซึ่งการเติบโตนี้สอดคล้องกับทิศทาง GDP ในปี 2565 ที่ถูกประกาศโดยสภาพพัฒน์ว่าขยายตัวเล็กน้อยที่ 2.6%
💰 อาหารและเครื่องดื่มโตเด่น ขยายตัวถึง 128%
บริษัทในหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มีกำไรสุทธิในปี 2565 ที่ 66,374 ล้านบาท ขยายตัวที่ 128% สะท้อนถึงการบริโภคของประชาชนที่เพิ่มขึ้นเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยการเติบโตที่โดดเด่น 3 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท M โต 998.51% รองลงมาบริษัท TFG โต 740.66% และ BRR 493.32% ตามลำดับ
💰 การท่องเที่ยวและสันทนาการฟื้นตัวมากขึ้น แต่ยังไม่กลับมากำไร
บริษัทในหมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนอย่างมากแต่ยังขาดทุนอยู่ในปี 2565 อยู่ที่ -1,822 ล้านบาท คิดเป็นการขยายตัวที่ 81%YoY เนื่องจากนักท่องเที่ยวยังกลับเข้ามาไทยได้ไม่เต็มที่เท่ากับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิดที่เคยเข้ามาสูงถึง 40 ล้านรายต่อปี
อย่างไรก็ดี บริษัทที่พลิกทำกำไรขึ้นมาเป็นบวกจากปีก่อนหน้าแล้ว ได้แก่ CENTEL (123.0%) OTHL (114.2%) SHR (101.2%) VRANDA (101.0%) และ LRH (100.7%) แสดงให้เห็นว่า หากนักท่องเที่ยวทุกประเทศกลับเข้ามาเที่ยวตามปกติโดยเฉพาะช่วงเทศกาล อาจทำให้ทุกบริษัทในหมวดนี้มีกำไรเพิ่มมากยิ่งขึ้น
💰 ธนาคารยังครองแชมป์กลุ่มที่มีกำไรสุทธิสูงเป็นอับดันต้น ๆ ในตลาดหลักทรัพย์
บริษัทในหมวดธนาคาร เป็นหมวดที่มีกำไรสูงเป็นอันดับที่ 2 (จากทั้ง 11 หมวด) รองจากหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค จากทั้ง 11 หมวด โดยมีกำไรสุทธิในปี 2565 อยู่ที่ 205,763 ล้านบาท ขยายตัวที่ 9% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทในหมวดนี้ได้รับอานิสงส์มาจากการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สูงขึ้นโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
💰 เงินทุนและหลักทรัพย์กำไรเพิ่มขึ้น แต่โตน้อยสุดในทุกหมวด
บริษัทในหมวดบรรจุภัณฑ์ ยังคงเติบโตมีกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3/65 ที่ 3,659 ล้านบาท คิดเป็น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากต้นทุนที่สูงขึ้นจากวัตถุดิบและราคาพลังงานกดดันทำให้แม้รายได้เพิ่มขึ้น แต่กำไรโตได้อย่างจำกัด
นอกจากนี้ ผู้เขียนได้สรุปความแข็งแกร่งของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ตามหมวดธุรกิจ SET และ mai โดยการแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังรูปต่อไปนี้
ภาพ : สรุปความแข็งแกร่งของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ตามหมวดธุรกิจ SET และ mai
และรายละเอียดเพิ่มเติมของหมวดธุรกิจอื่น ๆ ในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการวิเคราะห์ด้านอื่นที่น่าสนใจ สามารถอ่านต่อได้ในบทความ “กำไรสุทธิของบจ.ในตลาดหลักทรัพย์ SET ปี 2565”
ผู้เขียน : ธนัชญา ปิยวรไพบูลย์ Economics Data Analytics, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
Source : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย : SETSMART วิเคราะห์โดย Bnomics Data Analytics
โฆษณา