- กลายเป็นความหวัง -
สารภาพตามตรงเลยว่าแต่ก่อนผมตามด่า ตามสาป ตามแช่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด มาโดยตลอดเพราะมุมมองจากคนนอกรู้สึกว่าไอ้หนูนี่ไม่ได้มีสมาธิกับการกีฬาเลยแม้แต่น้อย
นับตั้งแต่ถูกปลุกปั้นขึ้นมาในยุคสมัยของ หลุยส์ ฟาน กัล มีการถกเถียงวิจารณ์กันมาตลอดว่าแท้จริงแล้ว แรชชี่ ควรจะเล่นตำแหน่งไหน ยังไง
บ้างก็ว่าหน้าเป้า บ้างก็ว่าถ่างออกริมเส้น หรือบางคนอาจจะคิดว่าลองจับเป็นตำแหน่งแบบ เวย์น รูนีย์ ดูสิอาจจะเวิร์ค
กลายเป็นว่าจับโน่น ลองนี่ ก็ยังหาอะไรที่เหมาะเจาะไม่ได้เลย
สถิติที่ออกมาของ แรชชี่ ถือว่าการยิงประตูต่ำมากๆในฐานะศูนย์หน้า ยิ่งเล่นยิ่งไม่ยิง ยิ่งเล่นยิ่งติดขัด
โดยเฉพาะช่วงเวลาสนุกสนานบันเทิงใจแต่แฟนบอลเป็นทุกข์กับสองสหาย เจสซี่ ลินการ์ด และ ปอล ป็อกบา นี่ยิ่งแล้วใหญ่
ผมไม่คาดคิดหรือคาดหวังอะไรแล้วว่าจะได้เห็น แรชชี่ กลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง ตอนมีข่าวกับสโมสรอื่นๆยังอยากให้ย้ายจบๆไปเลยด้วยซ้ำเพราะอาจจะเป็นผลดีกับตัวของหัวหอกทีมชาติอังกฤษรายนี้มากกว่า
ทว่า เอริค เทน ฮาก ก็เปรียบเสมือนมามอบชีวิตใหม่ให้กับ แรชฟอร์ด ได้สำเร็จ
ในตอนนี้ แรชชี่ คือคนที่ยิงประตูชัยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด 10 ลูกเข้าไปแล้วและมันก็เทียบเท่ากับที่ รูนีย์ เคยทำเอาไว้เมื่อฤดูกาล 2009-10
หากรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ แรชชี่ กระหน่ำซัลโวไปถึง 28 ประตูซึ่งเยอะที่สุดนับตั้งแต่หมดยุคสมัยของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
"มันเป็นอีกครั้งที่เขาอยู่ในฟอร์มระดับท็อป" เทน ฮาก กล่าวหลังแรชชี่ซัดประตูชัยให้ทีมเบียดเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด
"เขาอยู่ในช่วงเวลาที่ดี ผมหวังว่าเขาจะรักษาฟอร์มแบบนี้เอาไว้ไปจนจบฤดูกาลนี้ เขาจะต้องมีสมาธิและเก็บพลังในระดับนี้เอาไว้ หลังจากนั้นเขาก็จะยิงประตูเอง"
"เราสามารถพูดเรื่องฟอร์มของเราได้ตลอดนั่นล่ะ แต่ถ้าหากเขาหลุดหายไปอย่างเกมในวันอาทิตย์ (แพ้ นิวคาสเซิ่ล) มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเรา"
"เราจำเป็นต้องนำเขาเข้ามาสู่เกมซึ่งมันจะต้องเป็นสิ่งที่เขาและนักเตะคนอื่นๆร่วมกันรับผิดชอบ"
จากบทสัมภาษณ์ของ เทน ฮาก ผมเข้าใจสิ่งที่นายใหญ่ชาวดัตช์จะสื่อว่าตอนนี้ทัพ "ปีศาจแดง" พึ่งพาแรชฟอร์ดมากเกินไปหน่อย
เพราะถ้าหากวันไหนเขาเล่นไม่ได้เลยก็ไม่มีคนทดแทนในจุดนี้
ซึ่งพอไม่มีคนทดแทน ทีมฟอร์มไม่ดี เริ่มมีการวิเคราะห์จับประเด็นกันไปต่างๆนาๆอย่างล่าสุดก็ เวาท์ เว็ร์กต์ฮอร์ส ที่โดนนั่นไงครับ
แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนนี้ดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นนะหากเรามองย้อนกลับไปดูในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์
คือต่อให้ทีมฟอร์มแย่ก็กลับมาได้ในนัดต่อไป หรือยามที่ทีมมีความจำเป็นต้องการใครสักคนให้มาเป็นฮีโร่ก็บู้ม มีใครคนใดคนหนึ่งหลุดออกมา
มันคือการพยายามดิ้นเมื่อสถานการณ์คับขัน และพวกเขายังคงสามารถเดินหน้าไล่ล่าตำแหน่งท็อป 4 ไปได้เรื่อยๆก็ถือว่าน่าพอใจแล้วในฤดูกาลนี้
การเข้ามาในฤดูกาลแรกของ เทน ฮาก ไม่ได้ศูนย์เปล่า ไม่ได้กลวงโบ๋ และทีมกำลังค่อยๆเดินปรับจูนกันไปเป็นอย่างดี
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
