7 เม.ย. 2023 เวลา 15:07 • การศึกษา
Bangkok

หากพรรคการเมือง มีนโยบายแจกของกันเรายังจะมีหวังกับเรื่องการพัฒนาการศึกษา?

“Education is very political” หากการศึกษา ตกอยู่ภายใต้อำนาจการเมือง เห็นทีว่า การพัฒนาการศึกษาในประเทศเรา คงเป็นเรื่องยาก เพราะ การเมืองของไทย เป็นเชิงพาณิชย์ เสียมากกว่า น่าขันนัก แต่ก็จริง และเจ็บปวด
ผู้นำกระทรวงที่มาจากนักการเมือง มักจะไม่ได้พิจารณาจาก ความสามารถ แต่เป็นระบบ แบ่งขนมกันทาน ใครต่อรองได้มาก ก็เป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์มาก จึงได้เห็นภาพ นโยบายการศึกษาแบบพายเรือในอ่าง วนไปมา แล้วก็วนมาแล้วก็ไป
ไม่มีแผนพัฒนาชัดเจน หรือ หากมี ประชาชนอย่างข้าพเจ้าก็ไม่ได้รับรู้ทางใดทางหนึ่งเลย ส่วนใหญ่นักการเมืองจะใช้การศึกษา เป็นเครื่องมือ เพื่อความประสงค์อย่างใด อย่างหนึ่ง ส่วนกลุ่มคน หรือ ส่วนบุคคล เช่น
การเขียนเอกสารประกอบการเรียน ที่มีเนื้อหาในทางให้เชื่อ หรือ ให้เข้าใจว่าอย่างใด อย่างหนึ่ง เช่น เรื่องภาวะผู้นำ เรื่องเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ หรือแม้แต่การปลูกฝัง คุณค่าบางประการที่กลุ่มคนเชื่อโดยเฉพาะ ค่านิยม หรือ เพื่อการดำรงอยู่ของสิ่งใด หรือใคร
นอกจากนี้แล้ว คุณค่าทางการศึกษา หรือ งบประมาณ ก็ถือว่า น้อย เพราะ เห็นว่า ไม่เร่งด่วน หรือ สำคัญ เช่น นักเรียนได้เงินค่าอาหารกลางวัน ตลอด 1 เทอม เกือบจะเท่ากันกับ อาหาร 1 มื้อของ สส ในสภา หรือ ค่าจ้างผู้สอน ในอัตรา ที่น้องจนยากที่จะดึง คนเก่ง ๆ เข้ามาอยู่ในระบบได้มากเพียงพอ กับความต้องการ
ณ เวลานี้ หากเราเดินทางไปที่ใด จะเห็นป้ายของผู้สมัคร สส และ พรรคการเมือง แข่งกัน แจกเงิน ไม่ต่างจากป้ายโฆษณางานแสดงสินค้า มีเงินให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่หลักร้อย หรือ หลักหมื่น
เพราะ นโยบายของการศึกษา อาจจะไม่มีผลต่อคะแนนเสียง เพราะ ผู้รับ หรือ เสียประโยชน์ คือ กลุ่มคน ที่ยังไม่มีสิทธิเลือกตั้ง เสียส่วนใหญ่ นักการเมืองเลยเห็นว่า นี่อาจจะไม่นำมาซึ่งคะแนนการเลือกตั้ง ให้ตนเองได้มีอำนาจ จึงไม่มีนโยบายเหล่านี้ ปิดอยู่ตามป้ายต่าง ๆ เหมือน แจกของและแจกเงิน
เรายังหวังได้อยู่ไหม
หลังเลือกตั้งการศึกษาของไทยจะเป็นอย่างไร
อะไรหรือใครจะช่วยให้ลูกหลานของเรา ได้เรียนรู้ ดีขึ้นไหม
ฉันหวังอะไรได้บ้าง
โฆษณา