ทำไมสิงห์ถึงตั้งแลมพาร์ดขัดตาทัพ ?
หลังจากเกรแฮม พอร์ตเตอร์ต้องก้าวเท้าออกจากรั้วเชลซี แฟนสิงห์บลูต่างยินดีและรอดูการเปลี่ยนแปลงจากโค้ชคนใหม่ ทำให้เกิดความคาดหวังว่าโค้ชคนใหม่ต้องเป็นระดับท็อปเท่านั้น เพื่อยกระดับการเล่นของทีมที่ย่ำแย่มาตลอดหลายเดือน โดยจมอยู่อันดับที่ 11 เล่นไป 29 นัดชนะได้แค่ 10 นัดและมีสถิติการยิงประตูอยู่ 29 ประตู ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับทีมอื่นในลีค
แน่นอนเมื่อทีมมีปัญหาในเรื่องเกมรุก โค้ชที่แฟนบอลต้องการก็ต้องมีสไตล์การคุมทีมที่เน้นเกมรุกเพื่อที่จะมายกระดับทีมในตอนนี้ โดยคนที่มีข่าวหนาหูมากที่สุดมีอยู่ 2 คน
คนแรกคือ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ กุนซือหนุ่มไฟแรงที่ว่างงานจากการโดนบาเยิร์น มิวนิกปลดมาสด ๆ ร้อน ๆ โดยสาเหตุที่เชลซีสนใจนาเกลส์มันน์ นอกจากสไตล์การเล่นที่มีเกมรุกที่สนุกแล้วคือตัวของนาเกลส์มันน์มีความสนิทสนมกับหนึ่งในบอร์ดบริหารของเชลซีอย่าง คริสโตเฟอร์ วีเวลล์ จากที่ทั้งคู่เคยร่วมงานกันที่อาร์เบ ไลป์ซิก จึงทำให้ชื่อของนาเกลส์มันน์โผล่ขึ้นมาชื่อแรก ๆ ในการเป็นเฮดโค้ชใหม่ของเชลซี
คนที่สองคือหลุยส์ เอ็นริเก้ ที่ว่างงานจากการคุมทีมชาติสเปนและกำลังหาความท้าทายในระดับสโมสร โดยหลุยส์ เอ็นริเก้ได้รับความสนใจจากเชลซีเพราะสไตล์การเล่นที่เน้นเกมรุก ครองบอลเหนี่ยวแน่นและผลงานที่เขาคุมบาร์ซ่าชุด MSN ได้แชมป์หลายรายการทั้งแชมป์ลีคและแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีค เอ็นริเก้ จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเชลซีในตอนนี้
จากแคนดิเดตทั้ง 2 แฟน ๆ ต่างรอคอยว่าบอร์ดจะเลือกใครเพราะทั้งสองต่างมีความสามารถที่จะเข้ามายกระดับทีมในตอนนี้ให้ดีขึ้นได้
แต่สุดท้ายคนที่ได้คุมเชลซีในนัดที่เหลือกลับเป็นแฟรงค์ แลมพาร์ด โดยแต่งตั้งเป็นกุนซือขัดตาทัพเป็นเวลา 2 เดือน เท่ากับว่าแลมพาร์ดจะได้คุมเชลซีอย่างน้อย 12 นัดหลังจากนี้
หลังจากการแต่งตั้งในครั้งนี้ ก่อให้เกิดกระแสวิจารณ์ออกเป็น 2 ด้าน ทั้งด้านที่สนับสนุนแลมพาร์ดและด้านที่รู้สึกไม่ชอบการตัดสินใจครั้งนี้เพราะต้องการโค้ชที่ยกระดับทีมได้ในทันที ซึ่งก็ไม่ผิดทั้งสองฝั่ง
แต่ทำไมบอร์ดถึงเลือกแลมพาร์ดเป็นโค้ชขัดตาทัพแทนที่จะแต่งตั้งโค้ชถาวรไปเลย ?
1 . เชลซีต้องการเวลาในการเลือกโค้ชที่ถูกใจที่สุด เพราะว่ามีบทเรียนจากความผิดพลาดในการแต่งตั้งเกรแฮม พอร์ตเตอร์แบบคิดน้อยเกินไป คิดว่าพอร์ตเตอร์คุมไบรท์ตันได้ดี ถ้ามาคุมเชลซีที่มีนักเตะที่ดีกว่าต้องทำได้ดีกว่าเดิมแน่นอน จึงให้สัญญาถึง 5 ปีและค่าเหนื่อย 12 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่แย่มาก ๆ กับการฝากอนาคตของสโมสรให้กับกุนซือที่ทำแต่ทีมเล็กถึง 5 ปี
และบทสรุปก็คือพอร์ตเตอร์สอบตกในการคุมทีมใหญ่ครั้งแรก เขาไม่กระตุ้นนักเตะและยังขาดแรงกระหายที่จะชนะ อีกทั้งการจัดตัวลงสนามก็ชวนปวดหัวสุด ๆ สุดท้ายบทสรุปของการคิดน้อยเกินไปก็คือผลงานที่ตกต่ำในปัจจุบันและเสียค่าปลดไปไม่น้อยเลย
ด้วยเหตุนี้ เชลซีจึงไม่อยากมาเสียค่าโง่เหมือนกรณีของเกรแฮม พอร์ตเตอร์อีกแล้ว จึงต้องการใช้เวลาในการสัมภาษณ์หาคนที่เหมาะสมที่สุดมารับงานนี้ จึงตั้งแลมพาร์ดขึ้นมาเพื่อทำงานในระหว่างหาโค้ชคนใหม่
2. บอร์ดของเชลซีอยากให้โค้ชคนใหม่เริ่มต้นจาก 0 แทนที่จะมารับเผือกร้อนในตอนนี้ เพราะถ้าเชลซีแต่งตั้งโค้ชถาวรในตอนนี้และให้มาคุมในตอนที่ทีมเหมือนโดนฝังดินไปแล้วด้วยผลงานที่ย่ำแย่ตลอดปี อีกทั้งยังมีความคาดหวังจากแฟนบอลที่ต้องการเห็นทีมดีขึ้นทันตา แต่ถ้ามองในความเป็นจริงแล้ว เชลซีในปีนี้จะดีขึ้นแบบทันตานั้นเป็นไปได้ยากเพราะเวลาในการทำทีมในฤดูกาลนี้เหลือน้อยมาก ๆ จึงยากที่จะทำให้ออกมาดีในระยะเวลาสั้น ๆ และเสี่ยงต่อการเสียภาพลักษณ์ของโค้ชถ้าผลงานมันออกมาไม่ดี
บอร์ดเชลซีจึงตั้งแลมพาร์ดขึ้นมาเพื่อคุมช่วงเวลาที่เหลือในฤดูกาลนี้ และให้โค้ชคนใหม่เริ่มต้นตั้งแต่ปรีซีซั่น ซึ่งเขาจะมีเวลาในการปรับจูนทีมให้เข้ากับแท็คติก ขายนักเตะที่ไม่ใช้และซื้อนักเตะที่ต้องการ ซึ่งจะส่งผลดีกว่าถ้ามาคุมทีมในช่วงที่อยากลำบากแบบนี้
3. แลมพาร์ดคุ้นเคยกับทีมชุดนี้หลายคน การที่แลมพาร์ดเคยคุมเชลซีมาแล้วจึงเหมาะที่สุดในการมารับงานนี้เพราะด้วยเวลาที่มีไม่มาก การได้โค้ชที่รู้จักนักเตะหลายคนจะช่วยลดเวลาในการปรับจูนนักเตะให้เข้ากับแท็คติกและรู้ว่านักเตะแต่ละคนมีศักยภาพในด้านไหนบ้าง จึงง่ายต่อการจัดทีมลงแข่ง อีกทั้งนักเตะที่ไม่ได้โอกาสในยุคของพอร์ตเตอร์ ก็อาจกลับมาฉายแสงอีกครั้ง เช่น เมสัน เมาท์ ฮาคิม ซีเยค และคริสเตียน พูลิซิส ที่เคยเล่นได้อย่างโดดเด่นในยุคของแลมพาร์ด
4.ใช้ความเป็นตำนานปลุกใจนักเตะและแฟนบอล ถ้าพูดถึงตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเชลซี ต้องมีชื่อของแฟรงค์ แลมพาร์ดอย่างแน่นอน การได้ตำนานกลับมาคุมทีมจะช่วยกระตุ้นให้นักเตะกลับมาหึกเหิมด้วยแรงกระหายที่อยากจะคว้าชัยชนะของแลมพาร์ดที่มีมาตั้งแต่ตอนเป็นนักเตะ เราจะได้เห็นแพสชั่นของเขาตอนยืนข้างสนามอย่างแน่นอน ซึ่งจะแตกต่างจากพอตเตอร์ที่ยืนเฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลย
ส่วนแฟนบอลก็จะเอาใจช่วยกันมากขึ้น หลังจากที่ด่าพอตเตอร์กันทุกสัปดาห์ และด้วยสัญญาขัดตาทัพจะทำให้แลมพาร์ดไม่ต้องเผชิญกับความคาดหวังและกดดันเหมือนกับตอนที่เขาเคยคุมเชลซีในภาคแรก การมาในครั้งนี้แฟน ๆ รู้ดีว่าเขามาช่วยในระยะสั้น ๆ ในตอนที่ทีมลำบาก เพราะฉะนั้นแฟนบอลส่วนใหญ่จะสนับสนุนเขาแน่นอน อีกทั้งยังลดแรงด่าที่มีมาถึงบอร์ดบริหารได้อีกด้วย
………………………………….
และนี้คือเหตุผลที่ว่า ทำไมเชลซีถึงตั้งแลมพาร์ดมาขัดตาทัพ ในมุมมองของทุกท่านเป็นอย่างไรครับสำหรับการแต่งตั้งในครั้งนี้
ถ้าถามในมุมของผม ก็คงตอบว่า ไม่เห็นด้วยทั้งหมด แต่ก็เข้าใจได้ถึงเหตุผลที่บอร์ดตัดสินใจแบบนี้ ตามเหตุผลที่ผมเขียนไปข้างบน สำหรับผม การได้แลมพาร์ดมาค่อนข้างมีความเสี่ยงเพราะเรายังไม่ตกรอบยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกและมันเป็นความหวังเดียวที่จะได้เข้ามาเล่นในรายการนี้อีกครั้งในฤดูกาลหน้า ผมคิดว่าถ้าแต่งตั้งโค้ชที่มีไอเดียสูง ๆ แท็คติกชั้นเลิศมาอาจจะพลิกได้แชมป์ก็ได้
แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันยากจริง ๆ เพราะถ้าผ่านมาดริดไปได้ก็ต้องไปเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้หรือไม่ก็บาเยิร์น มิวนิกอีก ซึ่งถือว่าหินมาก และการแต่งตั้งแลมพาร์ดก็เป็นการสื่อถึงแฟนบอลแล้วว่า
“ ไปลุ้น Top 4 ฤดูกาลหน้านะครับทุกคนนน ”
เพราะมันยากมากที่จะเห็นแลมพาร์ดทำได้เหมือนที่โรแบโต้ ดิมัตเตโอ้ทำได้ในปี 2012 เพราะฉะนั้นการแต่งตั้งแลมพาร์ดก็เหมือนบอร์ดบริหารได้ยอมแพ้ในฤดูกาลนี้ไปแล้ว แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังลุ้นได้ เชียร์เอาสนุก ไม่ต้องคาดหวังสูง ผมว่ามันก็น่าตื่นเต้นเหมือนกันว่าแต่ละนัดที่เหลือจะเป็นอย่างไร
มาตามดูกันครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
