8 เม.ย. 2023 เวลา 15:38 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Hunger; Quick Review (No Spoiler)

ก่อนอื่นขอเกริ่นด้วยการนอกเรื่องสักพัก ผู้เขียนมีคนรู้จักและเคารพคนหนึ่งที่เป็นเชฟ พี่เขาเคยประจำอยู่ที่ร้านบริเวณหอศิลป์ หลายครั้งที่ผมอยากปลีกวิเวกจากงานก็มักจะไปที่ร้านนี้ เพราะถึงแม้ทำเลจะเดินทางสะดวก แต่ก็ไม่ใช่สถานที่ที่คนรุ่นราวเดียวกันจะยอมเดินเพียงเพื่อไปกินอาหาร ดังนั้นผมมักจะใช้ที่แห่งนี้ในการมีเวลาอยู่คนเดียว ที่จำเป็นต้องอธิบายก็เพราะว่าการวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีส่วนที่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวรวมอยู่ด้วย
เป็นภาพยนตร์ที่ใช้ความเป็นสูตรสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลายครั้งสามารถคาดเดาได้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นจาก anticipation ของตัวละครได้ ทุกอารมณ์และการตัดสินใจมีน้ำหนัก ไม่ต้องใช้ความคิดมากแต่ก็กดดันในแบบของตัวเอง
บางครั้งการกระทำแบบไม่รู้ที่มาของตัวละครถูกทำให้สมบูรณ์ด้วยการแสดงให้เห็นจากสถานการณ์ตรงหน้า มีการเดินทางด้านอารมณ์และด้านการดำเนินเรื่องที่จบในตัว อุปนิสัยของตัวละครเชื่อถือได้จากความเทาๆ ในการตัดสินใจตามสถานการณ์ ตัวละครเสริมไม่มีคนไหนที่รู้สึกว่าไม่จำเป็น ทุกคนมีบทบาทหน้าที่ที่คอยซัพพอร์ตตัวละครหลักอย่างยอดเยี่ยม
ในส่วนของ Dialogue นั้นถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ หลายครั้งมาถูกจังหวะ หลายครั้งก็ใช้เพื่อ introduction อย่างพร่ำเพื่อเกินไปและไม่มีความจำเป็น โดยเฉพาะเรื่องการอธิบายสถานการณ์ตรงหน้า เข้าใจว่าเป็นภาพยนตร์ที่ลงระบบ Streaming จึงต้องทำแบบนี้เพื่อให้สามารถฉายแบบ Worldwide ได้ ดังนั้นการอธิบายวัฒนธรรมด้วยคำพูดจะเข้าถึงได้ง่ายกว่า แต่ก็มีหลายฉากที่รู้สึกได้ว่าสามารถใช้การกระทำแทนคำพูดได้ โดยรวมแล้วมีความ Cringe ต่อการฟังประมาณหนึ่ง
ส่วนของการแสดงของนักแสดงหลัก มีเท่าไหร่ให้เต็มเท่านั้น โชว์ฝีมือได้เต็มที่เท่าที่บทจะอำนวย ภาพยนตร์จะมีการเล่าถึงแรงผลักดันที่เกิดจากประสบการณ์ในอดีต ปมในใจที่ต้องการจะก้าวข้ามและเอาชนะ การเสียสละเพื่อไปอยู่ในจุดที่สูงกว่า ถือว่าทำได้ตามมาตรฐานปัจจุบัน เนื่องจากตลอดกาลดำเนินเรื่องจำเป็นต้องแสดงอารมณ์ ความรู้สึก ความกดดันออกมาทุกครั้ง เมื่อเอามารวมกับการตัดต่อก็สามารถดึงดูดผู้ชมได้ดี
ตอนนี้จะมาพูดถึงข้อเสียกันบ้าง
ภาพยนตร์มีการเล่าเรื่องโดยเน้น Stereotype ได้แบบสิ้นเปลืองมากๆ โดยเฉพาะมุมมองของคนที่มีฐานะสูง และจะเป็นแบบนี้ตลอดทั้งเรื่อง หลายครั้งก็เล่ามาได้แบบเอียนและน่าอายมากๆ โดยเฉพาะมุมมองของคนที่เป็นไฮโซ นักธุรกิจ นักการเมือง เป็นภาพจำแบบที่คุ้นชินกัน สำหรับคนที่ยังไม่ได้ไปดูก็ขอให้ตระหนักถึงเรื่องนี้มากๆ เข้าใจว่าทำเพื่อให้เกิดความดราม่า แต่คุณใช้เป็นจุดขายในการเล่าเรื่องจริงๆเหรอ หรือทำเพียงเพื่อให้มันเข้าใจง่าย
มีบทพูดหลายส่วนที่ไม่จำเป็นต้องใส่มาก็ได้ในระดับที่มีไว้เพื่อให้คนแคปลงโพสต์เท่านั้น และมีปมที่จบแบบ play safe มากๆอย่างกับละครคุณธรรม เพียงเพื่อให้ไปถึงตอนจบได้ เป็นการรับชมที่สำหรับคนทั่วไปก็เหมือนยาบรรเทาอาการปวดไม่ต่างกับ The Glory เลย เสียดายมากเทียบกับภาพยนตร์ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีหลายความเห็นที่วิจารณ์ว่าแค่นี้ก็ดีแล้วสำหรับมาตรฐานภาพยนตร์ไทย ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ภาพยนตร์ไทยจำเป็นต้องยอมรับความผิดพลาดของตัวเองเพื่อให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ
Source: Netflix
#moviecouple
โฆษณา