ตื่นมาถ่ายดาวตอนตี4กว่าๆ อากาศค่อนข้างเย็น มาถ่ายดาวแต่ไม่มีขาตั้งกล้อง หน่านี้ แต่ๆ นั่นใช่ดาวตกรึป่าวครับ

ทริปนี้ต้องตื่น ตี4 เพื่อแข่งกับเวลาของรถเหลือง เพราะอ่านรีวิวมาเขาบอกรถหมดไม่เกินเที่ยง โดยมาขึ้นรถตู้ที่ขนส่งหมอชิต ตอนตี5 มาถึงกาญ ประมาน7-8โมง แล้วก็นั่งต่อ ไปยังทองผาภูมิ เรียกได้ว่า เหนื่อยตั้งแต่นั่งรถเลย โค้งเยอะมาก ถ้าเป็นคนที่เมารถ รับรอง อ้วกแตกแน่ๆ และแล้วก็ถึง "สังขละบุรี" ในตอน 11โมง !!! ใช่แล้วหล่ะ ผม "หลับ" ยังไงล่ะ 5555555 แต่สุดท้ายก็กลับมาทองผาภูมิทันเวลา

และแล้วก็ถึงทางขึ้นเขาไปยังอุทยาน โดยพี่ที่นั่งมาด้วยกันบอกว่าจะมีทั้งหมด 300 กว่าโค้ง!!! แน่นอนครับผมต้องบอกคนที่เมารถอีกเหมือนเคย อ้วกแตกแน่ และ วิว ก็ยังสวยตลอดทางเช่นเคย โดยจุดนี้เป็นจุดชมวิว ที่พี่คนขับรถเหลือง ได้จอดแวะให้พวกเราได้ถ่ายรูป

ถึงแล้วววววว ถึงปุปผมก็พุ่งไปยังจุดที่ทำการจ่ายเงิน จนพี่คนขับรถเหลืองต้องเรียก น้องๆ "ลืมจ่ายตัง" แฮ่ เขินเลยทีเดียว โดยจุดกางเต็นท์ห่างจากจุดทำการประมาณ 500 กว่าเมตร เกือบเดินขาลาก แต่ก็มีพี่รถเก๋งขับผ่านมาพอดี เลยเรียกให้ผมติดรถไปด้วย อ้าาาา ขอบคุณคร้าบบ โดยลานกางเต็นท์ จะมีอยู่2จุด ก็คือลานเนินกูดดอย และ เนินช้างเผือก ?? ละมั้

นี่เป็นบรรยากาศ ลานกางเต็นท์เนินกูดดอย แบบคร่าวๆ

โดยจุดที่ผมเลือก ปักหลักก็คือ ตรงจุดชมวิวเนินช้างเผือก

กางเต็นท์เสร็จสับ ผมก็ออกเดินสำรวจนิดหน่อย ที่นี่เขามีบ้านพักให้ด้วยนะเอ้อ มีบ้านทาซานที่ผมได้ถ่ายมาแต่ไม่ลงฮ่าๆ และ แบบในภาพเลย เรียกได้ว่าตื่นมาปุป เปิดประตูชมชมวิวกันเลยที่เดียว วิวสัน ฟินเวอร์ ถ้ามีโอกาส ก็อยากจะลองนอนดูสักครั้งละน้า

แสงแรกที่ส่องผ่านใบไม้เข้ามา วันที่2แล้วสิ่นะ

เช้าวันที่2 ที่แสนสดใส พี่ๆข้างเต็นท์ ใจดี๊ดี ชวนเรามาเที่ยว ปิล๊อกด้วย แหละ

โดยขากลับ ผมได้ขอให้พี่ๆช่วยแวะส่งที่ "น้ำตกจ๊อกกระดิ่น" สวยมากแหละแก แต่เราไม่มีขาตั้งกล้อง เลยไม่มีรูปสวยๆมาอวด 😭 ขากลับก็ได้โบกรถ นทท. คนอื่นกลับไปยังอุทยาน

และแล้ว ก็มาถึงวันที่ 4 วันที่ต้องลุยไปพิชิต เขาช้างเผือก

โดยระยะทางแรก ต้องเดินประมาน 1-2 กม. เพื่อไปยังจุดสตาท แค่ไปยังจุดสตาร์ท ก็ลิ้นห้อยแล้วพี่น้อง

พักกินน้ำเอาแรงเรียบร้อย พร้อมแล้วก็ลุย โดยระยะทางจากจุดสตาร์ทไปยังบนยอด มีระยะทางประมาณ 8กม.

เอาหล่ะ มาเริ่มดูเส้นทาง และ วิว ฉบับ ตากล้องมือใหม่

ในรูปแรกลองดูสิ่ เห็นหมู่บ้านอิต่องกันมั้ย

เก๊กสักหน่อย แดดลงหัวแต่บอกได้คำเดียว ลมแรงมากกกกกกก คลายร้อนได้ระดับนึงเลยแหละ

วางเป้ ยืดหลังแพล๊บ

ใกล้ถึงจุดกางเต็นท์แล้ว แต่ต้องหยุดพักสักหน่อยเพราะเนินลูกสุดท้ายเอาเรื่องเหมือนกัน

ก่อนลงไปตรงลาน ก็ขอถ่ายรูปอีกสักนิด

เกือบดีแล้ว แต่มาตายตรง ห้อยห่อขนมนี่แหละ 5555555

และนี่ก็คือ "จุดกางเต็นท์" มาช้าก็ อดมุมใต้ต้นไม้

ปักเต็นท์เสร็จ พักได้ไม่นานตดยังไม่หายเหม็น ก็ต้องลุยไปบนยอดต่อ

เนินลูกนี้ค่อนข้างอันตรายเลย แถมยัง ...... ไว้มีโอกาสไปเองลองถามเจ้าหน้าที่ก็จะรู้

ถึงแล้ว ข้าคือ ผู้พิชิต ยอดเขาช้างเผือก พี่ครับๆ เห็นใจคนโสดหน่อย 😭

ไม่ได้ติดโซเชียลนะ แต่ต้องใช้มือถือกดถ่ายโกโปร

พี่สาวข้างๆ : ถ่ายไรของเอ็งนักหนาพ่อหนุ่ม เผลอแป๊บเดียว ก็จะมืดแล้วรีบลงดีกว่า การขึ้นเขาครั้งนี้ไม่ได้ถ่ายดาว ถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น เพราะว่า นอนขดตัวในเต็นท์จ้าาาา คืนนั้นน่าจะ 14 องศา แถมลมก็แรงเอาเรื่องเลยหล่ะ วันต่อมาขากลับ ผมลองเดินอ้อมเนินลูกนึง ทางแคบน่ากลัวมาก ตามรูปเลย ริมผาสุดๆ จบไปแล้วนะครับ กับ ทริปเขาช้างเผือก ขอบพระคุณทุกคนที่เข้ามารับชมกันนะครับ

เกือบลืมลงรูปสันคมมีดไฮไลท์ของที่นี่ก็ว่าได้ ทางแคบหวาดเสียวโครตๆ