11 เม.ย. 2023 เวลา 02:21 • คริปโทเคอร์เรนซี

หุ้น VS คริปโต

หุ้นดีกว่าคริปโตในหลายๆขุมแน่นอนว่าเราปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้วว่า หุ้นมีผลประกอบการ มีงบการเงินให้ดูได้ มีบริษ้ทตั้งอยู่จริงและกำกับโดยหน่วยงานที่เชื่อถือได้ สามารถไป Company Visit ได้อีก ได้ถ่ายรูป selfie กับผู้บริหาร สามารถเปรียบเทียบบริษัทข้ามอุตสาหกรรมได้อีกด้วย ใช้เกณฑ์ P/E วัดได้ แถมสามารถวัดได้ทั่วโลกอีก ซึ่งแน่นอนว่าหุ้นสหรัฐบางตัว P/E ก็ถูกกว่าหุ้นไทยอีก แค่คุณอยากศึกษาจริงๆจังๆคุณก็สามารถเล่นหุ้นได้แล้ว
ในขณะที่คริปโตไม่สามารถวัดอะไรได้เลย เอาแค่ Sectors ในโลกของคริปโตก็ยากที่จะเปรียบเทียบอะไรได้แล้ว Blockchain DeFi Metaverse NFT GameFi Layer 2 Payment Memes Privacy Oracle Cloud File Sharing Database PoW เอาแค่นี้ก็ต้องศึกษาในแต่ละ sectors อย่างละเอียด จะเอาไปเปรียบเทียบกับบริษัทในตลาดหุ้นเดิมก็ไม่ได้ ไป company visit ก็ไม่ได้ ถ้าจะไปต้องไปดูว่าเขาคุยอะไรกันใน discord กลุ่มเอา หรือแม้แต่เรื่องง่ายๆอย่าง rugpull ถ้าทำในตลาดหุ้นก็โดนฟรีซหรือติดคุกติดตารางไปแล้ว
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมเริ่มให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นคือเรื่องของ Tokens Supply ในตลาดหุ้นคุณไม่สามารถเพิ่มจำนวนหุ้นได้เอง คุณทำได้แค่แตกพาร์ นั่นหมายความว่า การที่คุณแตกพาร์ คนที่ถือหุ้นคุณอยู่ก่อนหน้านั้นก็ได้หุ้นเพิ่มขึ้นไปด้วย ไม่โดน diluted แต่อย่างใด แต่ในคริปโตถ้าเหรียญที่คุณถือมีการปล่อยเหรียญเพิ่ม คุณก็ไม่ได้เหรียญนั้น หนำซ้ำคุณยังโดน diluted มูลค่าเหรียญที่คุณถืออีก เหรียญราคาตก
กลับกันถ้าเป็นการเบิร์นเหรียญ ลดจำนวน Token Supply ลง ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่น้อยเหรียญที่จะทำอย่างนั้น ตอนนี้มีแค่ BNB เองที่ทำอยู่ แต่ทำได้เพราะตัวเองคุม Nodes เกือบทั้งหมด (สาวก ETH คงบอกผมเหมือนกันว่ามันเป็น Deflationary แล้ว คือจำนวนลดลง) ก็ดูได้จาก ultrasound.money แต่มันก็ไม่ได้ตั้งใจจะ burn เหมือน BNB ในขณะที่หุ้นถ้าบริษัท buy back stocks ก็เป็นการเบิร์นแล้ว ราคาก็ขึ้นเหมือนกันกับคริปโตเลย เหมือน AAPL, TSLA ในช่วงนึงก่อนเกิดโควิด
คำถามคือ? แล้วทำไมคนยังเทรดคริปโต?
เอาตามตรง ถ้าคุณให้เด็กอายุ 20 ที่อยากรวยจากการเล่นหุ้น เขาจะถามคุณคำถามแรกซื้อตัวไหนดี? มันเป็นคำถามคลาสสิคที่ตัวผมเองก็ถามพ่อผมเมื่อ 9 ปีที่แล้ว พ่อผมก็บอกให้ผมศึกษาเอาเอง ให้ไปดู 56-1 หรือไปงาน Opp Day ที่ตลาดหลักทรัพย์ ในเมื่อมันมีหุ้น 700 กว่าตัวในตลาดหุ้นไทย ถ้าใช้คำพูดของปรมาจารย์ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ก็คือซื้อหุ้นที่เราคุ้นหูคุ้นตาในตลาด จะมีอะไรบ้างอะ OR CPALL ADVANC CPN ถามว่าหุ้นเหล่านี้ perform ในตลาด 5 ปีที่ผ่านมา คำตอบ unfortunately, is not.
แล้วหุ้นที่ perform มีตัวไหนบ้างละ DELTA ผมรู้แต่ว่ามันแพง เอาตามตรงทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยมันทำอะไร รู้แต่ว่าหุ้นลูกที่ไทย market cap ใหญ่กว่าบริษัทแม่ที่ไต้หวันอีก 😂 และกำลังจะแตกพาร์ 10 เท่า เพราะราคาสูงเกินไป อีกอันคือ SISB เอาตามตรงยังไม่มีลูกเลย ประเทศไทยพูดมา 10 ปีเรื่อง Aging Society กับ Silver Age แล้ว ไหนบอกว่าส้งคมผู้สูงอายุแล้วทำไมหุ้นโรงเรียนนานาชาติเพอร์ฟอร์มละ เคยเชิญนักลงทุนท่านหนึ่งมาในรายการตอนจัดไลฟ์
ท่านนั้นพูดคำนึงผมจำได้แม่นเลยว่า "ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกของโลกที่แก่แต่จน" คำถามคือแล้วหุ้นเหล่านี้เพอร์ฟอร์มได้ไงอะ
ในขณะที่ถ้าเปลี่ยนโจทย์ใหม่เป็น เด็กอายุ 15 (เพราะไม่จำกัดอายุ) อยากรวยโดยการเล่นคริปโต ซื้อเหรียญตัวไหนดี? แน่นอนเลยทุกคนมาถึงตอบ บิทคอยน์ เพราะง่ายสุด มีทุก exchange ราคาผันผวนน้อยเมื่อเทียบกับตัวอื่น เพียงแค่คุณซื้อตัวนี้ตอนต้นปี กำไรตอนนี้ 76% มีเพียงแค่หุ้นสองตัวในตลาดบ้านเราที่ทำกำไรไตรมาสที่ผ่านมาเกิน 76% คือ SKY กับ SFP
กลับกันถ้าคุณซื้อบิทคอยน์เมื่อต้นปีที่แล้ว คุณก็จะยังขาดทุนอยู่ 30% ในวันนี้ ดังนั้นจังหวะและเวลาก็เป็นเรื่องที่สำคัญแต่เราก็คาดเดาไม่ได้อยู่ดี คุณอาจจะโชคดีจากการเล่นหุ้น หรืออาจจะโชคดีจากการเล่นครืปโต ความยากของคนบางคนคือความง่าย ความง่ายของบางคนคือความยาก ขอให้โชคดีกับการลงทุนครับ
#จริงๆอยากเขียนแค่เรื่องTokenSupply
#ไปๆมาๆยาวเฉย😅😂
#NotFinancialAdvice
โฆษณา