เรื่องเล่า…จากยาย
จำได้ว่าเมื่อตอนเป็นเด็ก เราอาศัยอยู่กับยาย วันไหนที่ยายอารมณ์ดี ยายก็จะมานั่งเล่าเรื่องอะไรต่อมิอะไรให้ฟังบ่อยๆ แต่มีเรื่องยาวอยู่เรื่องหนึ่ง ติดอยู่ในหัวและรอคอยการพิสูจน์ด้วยตัวเองอย่างตั้งอกตั้งใจ
เรื่องประมาณว่า มึงรู้ไหม(ยายเป็นคนสุโขทัย จึงเลือกใช้ภาษาพ่อขุนราม) มีคนเล่าให้ยายฟังว่า อนาคตข้างหน้า โลกนี้จะมีสิ่งเปลี่ยนแปลง เยอะแยะไปหมด เรานั่งฟังแบบสนใจ แต่ก็ได้แต่ถามยายกลับ อะไรล่ะยายที่จะเปลี่ยน ไหนยายลองบอกหน่อยสิ
- เรื่องแรก ยายเล่าว่า คอยดูซิ อีกหน่อย ทุกบ้าน จะมีแสงสว่าง วิ่งมาหาถึงบ้าน ไม่มีกลางวัน ไม่มีกลางคืน เด็กน้อย ที่นั่งทำการบ้านด้วยแสงตะเกียง แบบเราในยามนั้น รู้สึกตื่นเต้น แต่ก็ยังไม่เข้าใจ ว่าไอ้เจ้าแสงสว่างที่ว่า มันเป็นอย่างไร และแล้วหลังจากนั้นอีกไม่นาน แสงสว่างที่ว่า มันก็มาจริงๆ มันใช้ได้ทุกเวลา
คอนโทรลแค่ปลายนิ้ว ไม่มีกลางคืน ไม่มีกลางวัน ถ้าเทียบกับแสงตะเกียง มันสว่างกว่า แต่นั่น ทำให้พวกเราเริ่มมีค่าใช้จ่าย มากขึ้น มากกว่าเงินที่ซื้อน้ำมันก๊าด และไส้ตะเกียง
- เรื่องถัดมา ยายบอกว่า มึงเชื่อไหม อีกไม่นาน น้ำใช้อาบใช้กิน มันจะไหลมาหาเราถึงบ้าน มึงไม่ต้องไปตักน้ำมาใส่ตุ่ม แกว่งสารส้มอีกต่อไปแล้ว สายตาเรามีความหวัง และมีรอยยิ้มฝันเฟื่อง อยู่ที่มุมปาก
ดีซิ เหนื่อยจะตายกว่าจะตักน้ำเต็มตุ่ม และหลายๆตุ่มในบ้าน ต้องเต็มพร้อมใช้ ไม่งั้นโดนยายเอ็ด และอาจแถมด้วยก้านมะยม แล้วเวลาก็ผ่านไปพักใหญ่ เราก็มีน้ำประปา ไหลผ่านท่อเหล็ก มาถึงที่บ้านจริงๆ อย่างที่ยายเล่า ทำให้เราเชื่อเรื่องเล่าของยายมากขึ้น
- เรื่องถัดมา ยายเล่าว่า ในกาลข้างหน้า ผู้คนจะสวยสดงดงาม มีหน้าตาคล้ายคลึงกัน จนแยกไม่ออก ผู้คนจะผิดผัว ผิดเมียกัน จะฆ่าฟันกันตายมากขึ้น ตรงนี้ เรารอมานานแสนนาน จนยายเสียไปนานแล้ว เพิ่งมาเห็นเรื่องเล่าของยาย มันจริงอีกเรื่องแล้วในวันนี้
เพราะเพียงคุณมีเงินสัก 1 ล้าน และอยากมีใบหน้าใหม่ สวยเหมือน อั้ม พัชราภา ก็สามารถทำได้ เกิดมาไม่สวย ก็สวยใหม่ได้ ซึ่งคนทำศัลยกรรม ก็มักจะมีใบหน้า คล้ายๆกันจริง ทำให้เราถึงกะนึกถึงยาย แล้วก็พึมพำกับตัวเองว่า จริงอีกเรื่องแล้วยาย
- เรื่องถัดมา ยายบอกว่า อีกหน่อยผู้คน แทบจะไม่ต้องทำอะไรด้วยตัวเอง จะมีชีวิตเหมือนอยู่สรวงสวรรค์ งานการก็จะแทบไม่ต้องทำ แค่คิด มันก็จะง่ายไปหมด ถึงขั้น ยืนอยู่ที่นี่ แค่เพียงนึก จะไปที่นั่น ใช้เวลานิดนึงก็ถึงแล้ว ตอนนี้มันก็เข้าเค้าหลายเรื่องน๊ะ เช่นอยากกินข้าวก็กดปุ่มเอาทั้งปุ่มหม้อหุงข้าว และปุ่มจาก app ต่างๆ ที่เราอยากจะกิน
หรือหากอยากซักผ้าก็กดปุ่มเอา อยากอากาศเย็นก็กดปุ่มเอา อยากไปเชียงใหม่ขึ้นเครื่อง 1ชม ก็ถึง ยิ่งมาในช่วงเวลานี้ ก็เริ่มมีโปรแกรม จาก AI เริ่มเช้ามาช่วยสารพัดงาน ยังเหลือที่ยังทำไม่ได้คือการย้ายสสารให้มันวาบ ไปที่ไหนๆได้ทันทีรอนักวิทยาศาสตร์ค้นคิดการย้ายสะสารด้วยพลังควันตั้มสำเร็จก่อน คงจะเป็นอีกบทพิสูจน์เรื่องเล่าของยายที่จะเป็นจริงอีกเรื่อง
- แต่เรื่องท้ายสุด บทสรุปเรื่องเล่าของยายนี่สิ ฟังดูสยอง และไม่อยากมีชีวิตยืนยาวสำหรับพิสูจน์เรื่องนี้เลยจริงๆ ที่สำคัญในตอนนี้ ก็ดูเริ่มจะมีเค้าราง ใกล้จะเป็นจริงขึ้นทุกวันๆ ยายบอกว่า ต่อไปคนจะทำชั่ว จากการแก่งแย่งแข่งขันกัน ละโมบโลภมาก ทำลายทุกสิ่งที่โลกให้มา โลกจึงเอาคืน ทำให้มีโรคร้าย ระบาด ทำให้ผู้คนล้มตาย กองพะเนิน
ซึ่งอันนี้จริงแล้ว โควิคระบาดเมื่อ 2-3 ปีคนทั่วโลกก็ตายไปเยอะเหมือนกัน ยายยังบอกต่อว่า หลังจากนั้นไฟบรรลัยกัลป์จะเกิดขึ้นทุกแห่งหน มาเพื่อล้างบางคนชั่ว ตรงนี้ก็น่าจะใกล้จริงแล้วหล่ะ แต่ไม่แน่ใจว่า ไฟบรรลัยกัลป์ ของยาย มันจะมาจากแสงอาทิตย์ หรือมาจากนิวเคลียร์ ของปูตินอันนี้แหละที่ยังรอพิสูจน์อยู่ แต่รอแบบกลัวว่ามันจะเป็นจริงอีกครั้ง ของเรื่องเล่าจากยายเสียจริงๆ
แต่อย่างไรก็ตาม ยายทิ้งท้ายไว้ว่า หมั่นเพียรสะสมความดี ไม่เบียดเบียนใคร ถ้าพอจะมีความดี มากกว่าความชั่ว ก็จะแคล้วคลาด รอดปลอดภัย และจะเข้าสู่ยุคใหม่ ยุคพระศรีอารยะ ซึ่งโลกจะคัดเลือกไว้แต่คนดี มีศิลธรรม เพื่อเริ่มสร้างใหม่อีกครั้ง พอมาถึงตรงนี้ ใช่ว่าจะโล่งใจ เพราะไม่รู้ว่าสเปคของคนที่จะรอด มันต้องแค่ไหน ที่ร้ายกว่านั้น เป็นสว. เสียแล้ว จะสร้างเผ่าพันธุ์ใหม่ก็เห็นจะไม่สะดวก ยิ่งนึกแล้วยิ่งหมดหวัง
เอาเป็นว่า อาจจะไม่สามารถอยู่รอดถึง บทสุดท้ายที่ยายเล่าไว้ แต่ที่ใช่ คือตอนนี้ วันนี้ 42 องศาเซลเซียสนี่แหละ ที่จะทำให้วูบ เมื่อไหร่ก็ได้ หายใจลึกๆๆๆ เดินไปเปิดแอร์ ดื่มน้ำเยอะๆ รักษาเนื้อรักษาตัว เอาไว้ Heat อีกครั้งตอนบิลค่าไฟมาก่อนก็แล้วกัน ส่วนเรื่องที่ยังต้องพิสูจน์ ก็คงแล้วแต่โอกาส ที่จะยังรอดชีวิต จนสามารถพิสูจน์ได้ทันไหม รอไปวันต่อวันละกัน สู้ไปด้วยกัน มนุษยชาติ
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
