Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Right SaRa by Bom+
•
ติดตาม
12 เม.ย. 2023 เวลา 03:10 • อาหาร
Aubergine Garden Restaurant
"Aubergine" อาหารฝรั่งเศสสไตล์ต้นฉบับ ในเรือนเก่าแบบโคโลเนียล ซ่อนในย่านศาลาแดง
Aubergine (ภาษาฝรั่งเศส อ่านว่า "โอเบอร์จีน") = Eggplant (ภาษาอังกฤษ) ถ้าแปลเป็นไทยก็คือ “มะเขือม่วง” นั่นเองครับ
■
[การรับรู้ทั่วไปเมื่อคนไทยนึกถึงร้านอาหารฝรั่งเศส:]
1) หรูหรา เลอค่า ประมาณเรียกได้ว่า very Fine-Dining ครับ คือประมาณว่าบรรยากาศร้านดูโอ่อ่า อลังการ ต้องแต่งตัวเป็นทางการมานั่งทาน บริการภายในร้านแบบเรียกได้ว่าลูกค้ามาทานคือพระเจ้า นั่งตัวเกร็งทำอะไรไม่ถูก
2) ราคาสูง เมื่อเทียบกับอาหารฝรั่งชาติอื่น บ่งบอกถึงรสนิยมคนมาทาน เน้นถึงความพรีเมียมมากๆ คุณภาพวัตถุดิบต้องดีมาก่อน
3) ไม่อิ่ม จานอาหารเน้นเรื่อง presentation สวยงามเป็นหลัก จัดอาหารมาในจานเป็นหย่อมๆ ราดตกแต่งด้วยซอส สีสันตัดกันสวยงาม รูปสวยชวนทาน แต่ไม่เน้นอิ่ม หรือเรียกว่าเสิร์ฟแบบ Petite เน้นให้แค่รู้รส ทานจิบคู่กับไวน์ไปเรื่อยๆ
1
ซึ่งร้านที่ผมรีวิวนี้ก็ไม่ผิดเพี้ยนกับคอนเซปท์หลักข้างบนของร้านอาหารฝรั่งเศสที่ผมเกริ่นขึ้นมาครับ
■
[ทำความรู้จักร้านนี้มากขึ้น:]
●
เป็นสุดยอดร้านอาหารฝรั่งเศสที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น Thailand’s Best Restaurant หลายปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2006 และการันตีโดย Miele Guide from Singapore ปี 2008-2011 เห็นได้จากเวลาเราเปิดประตูเดินเข้าร้าน มองฝั่งซ้ายมือเราจะเห็นป้ายรางวัลต่างๆมากมายที่ทางร้านได้รับ ทั้งแขวนกับตั้งโชว์ไว้ให้ลูกค้าเห็นครับ รู้สึกว่าเชฟของร้านนี้จะเคยไปประชันฝีมือในรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทยด้วยครับ
●
อาหารฝรั่งเศสร้านนี้จะเน้นเป็นสไตล์ดั้งเดิมแท้ๆเลย (ดูจากชื่อเมนูบางตัวที่เป็นภาษาฝรั่งเศส) รวมถึงแนวผสมผสานสมัยใหม่ก็มีครับ วัตถุดิบบางตัวก็นำเข้ามาจากฝรั่งเศสแท้ๆเลยอย่าง Escargot (เอสคาโก้ – หอยทากฝรั่งเศส)
●
มื้อกลางวันมีจัดเป็น lunch set 3-Course (Appetizer-Main-Dessert) ราคาน่าจะ 790 บาท แต่เราก็สามารถเลือกสั่งเมนูต่างหากก็ได้ ถ้าหากเมนูที่อยากทานไม่ได้รวมอยู่ในชุดที่สั่งครับ เมนูอาหารเด่นๆที่เป็น Signature ที่คนชอบสั่งกันก็จะมี หอยทากอบเนยกระเทียม, ฟัวกราส์เสิร์ฟพร้อมกับแอปเปิ้ลเขียวคาราเมล ผักร็อกเก็ต และราสเบอร์รี่, ซอสซุปลอบสเตอร์กับหอยเชลล์ย่างเนย, ไก่ตุ๋นไวน์
●
ปกติการมาทานอาหารฝรั่งเศส จะมีการเลือกสั่งไวน์เป็น glass หรือ bottle จากทางร้านมาจิบพร้อมอาหารครับ ทางร้านนี้มี House Wine ให้บริการ รวมถึง Sangria (ไวน์ผสมน้ำผลไม้เข้มข้น) แต่ถ้าเราจะถือไวน์มาดื่มในร้านเอง เค้าจะมี Corkage Charge หรือค่าเปิดขวด รู้สึกเค้าจะบอกว่า 500 บาทครับ
■
[ที่ตั้งร้าน:]
อยู่ในซอยศาลาแดง 1/1 สามารถเข้ามาได้ 2 ทาง คือจากปากซอยศาลาแดงฝั่งที่วิ่งเข้ามาจากถนนสีลมแถวๆสี่แยกศาลาแดง หรือจะวิ่งเข้ามาทางซอยศาลาแดง 1 ฝั่งพระราม 4 (ซอยข้างๆตึกอื้อจื่อเหลียง ตรงข้ามสวนลุม)
ปกติร้านนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาจะเป็นแบบโทรมาจองไว้ก่อนแล้ว ไม่ได้ Walk-in และเนื่องจากร้านนี้อยู่ในซอยหรือเรียกว่าตรอกเล็กๆ (รถแทบสวนทางกันไม่ได้) ดังนั้นส่วนใหญ่จึงขับรถมากันครับ ภายในบริเวณร้านมีที่จอดรถได้ประมาณ 6 คัน อารมณ์ประมาณแบบว่าร้านเป็นบ้านเก่าในสวนอยู่ในหลืบหนึ่งใจกลางย่านธุรกิจครับ
บรรยากาศร้านภายนอก
■
[บรรยากาศร้าน:]
เป็นการใช้เรือนเก่ามาเปิดเป็นร้านอาหารครับ หรือสไตล์โคโลเนียล (ดูจากรูปด้านล่าง) ตามประวัติคือบริเวณร้านนี้เคยเป็นบ้านพักของทูตรัสเซียและออสเตรเลียในไทยมาก่อนครับ
เป็นเรือนตกแต่งดูย้อนยุค บันไดไม้ อยู่ท่ามกลางสวนหย่อม บริเวณร้านมีการจัดโซนที่นั่งชัดเจนเหมาะสำหรับลูกค้าที่มาหลายๆประเภท อย่างมากลุ่มใหญ่คุยงาน หรือมากันเป็นคู่ต้องการความเป็นส่วนตัว (ชั้นบน)
บรรยากาศด้านในตัวร้าน
■
[เมนูอาหารที่สั่ง:]
ไปมื้อเย็น ก่อนที่จะเริ่มมื้ออาหารพนักงานจะนำตะกร้าใส่ขนมปังฝรั่งเศสมาให้เราที่โต๊ะพร้อมเนยจืดครับ ส่วนตัวผมยกนิ้วให้ Baguette ของร้านนี้ที่สุดครับ กรอบนอก นุ่มใน ไม่เหนียวหรือแข็งเวลาเคี้ยว และที่สำคัญก่อนมาเสิร์ฟเค้าจะอุ่นมาให้ร้อนพอประมาณ เวลาทาเนยจืดลงไปมันจะออกเหลวๆละลายนิดหน่อย ทาง่ายขึ้นครับ
Bread Basket
★
Starter:
■
Escargot [590 บาท] หรือหอยทากฝรั่งเศสนำเข้าอบเนยกระเทียมนั่นเองครับ เมนูปกติเค้าจะขายเป็นชุดที่ 6 ตัว จากในรูปคือแบ่งออกมา 3 ตัว
✓
ทำความเข้าใจก่อนครับชื่อเมนูคือ Escargot อ่านว่า “เอสคาโก้” ไม่ใช่ชื่อสายพันธุ์ของหอยตัวนี้นะครับ แต่เป็นชื่อกระบวนการในการนำหอยทากพันธุ์ที่เลี้ยงในฝรั่งเศสมาทำการปรุงซึ่งส่วนใหญ่เค้าจะเอามาอบเนยกระเทียมครับ จริงๆแล้วอาจจะใช้หอยที่มีลักษณะใกล้เคียงกันมาทำเมนูนี้ก็ได้ แต่ไม่นิยมและรสชาติสู้ใช้หอยทากฝรั่งเศสไม่ได้ครับ เมนูนี้เป็นที่นิยมหรือเรียกว่าเป็นเมนูท้องถิ่นของที่ฝรั่งเศสก็ว่าได้ครับ
วิธีการทำ: นึ่งหอยทากให้สุกพักไว้ นำกระเทียมกับพาสลีย์สับไปปั่นพอให้ละเอียดเข้ากัน ตักใส่ลงในตัวหอยที่อยู่ในเปลือกให้เต็ม จากนั้นนำไปอบกับเนยทั้งเปลือกอีกครั้งจนสุกหอม
Escargot
เวลาทานเค้าจะมีอุปกรณ์สำหรับทานหอยเมนูนี้โดยเฉพาะ เป็นที่หนีบตัวหอยทั้งเปลือกอันหนึ่ง กับส้อมด้ามเล็กๆเอาไว้ดึงเขี่ยหอยออกจากเปลือก เท่าที่ผมลองทานดูอารมณ์ก็ประมาณคล้ายๆหอยจุ๊บหรือหอยหวานบ้านเรานะครับ ตัวออกใหญ่กว่า
อุปกรณ์สำหรับทาน Escargot (ที่หนีบตรงกลาง)
วิธีการทาน ใช้ที่คีบหนีบขึ้นมา แล้วใช้ส้อมเขี่ยออกมา
ตัวหอยเองไม่ได้มีรสชาติอะไรพิเศษออกจืดหน่อยด้วยซ้ำแต่มีความกรุบๆเวลาเคี้ยว ที่ได้ความอร่อยจริงๆมันมาจากเนยกับเครื่องปรุงต่างๆที่นำมาปรุงและอบให้กลิ่นหอมมากๆเข้ากับตัวเนื้อหอย เป็นของเรียกน้ำย่อยที่ราคาสูงจริงๆครับ (หลักๆเพราะเป็นค่าฟาร์มเลี้ยงโดยเฉพาะ ไม่ใช่จับมาจากธรรมชาติเอามาปรุงเลย) ร้านนี้ขายอยู่ 590++ บาท สำหรับ 6 ตัว
ส่วนร้านดังที่เน้นขายเมนูนี้ใจกลางปารีสที่ชื่อ L'Escargot Montorgueil เค้าขายอยู่รู้สึกว่าประมาณ 10-12 Euro สำหรับ 6 ตัวหรือประมาณ 400-450 บาท ดังนั้นร้านนี้ที่ไทยจึงราคาสูงกว่าครับ ก็คงเป็นเพราะไม่ได้เป็นเมนูที่ทานปกติในบ้านเราเหมือนที่โน้น และต้องมีต้นทุนค่านำเข้าอีก จริงๆลูกค้าที่สั่งก็เพราะอยากลองทานหอยทากนี้ดูว่าจะเป็นยังไงนั่นแหละ หาทานยากในบ้านเรา
Escargot
■
Smoked Duck Salad [ประมาณ 500 บาท] หรืออกเป็ดรมควันด้วยไม้แอปเปิ้ลเสิร์ฟคู่กับสลัดและน้ำสลัดบัลซามิคสูตรเฉพาะของทางร้าน เนื้ออกเป็ดรมควันแล่มาชิ้นค่อนข้างหนากำลังดีครับ เนื้อออกสีชมพูอ่อนๆดูนุ่มน่าทาน ไม่ถึงกับสุกไปจนขาวและแข็ง เนื้อไม่ร่วนและแห้ง เวลาทานได้กลิ่นหอมจากการรมควันชัดเจนดี
ส่วนสลัดผักที่ใช้ดูสดฉ่ำและกรอบดีครับ ส่วนน้ำสลัด Balsamic ราดมาไม่เยอะมาก ผมว่ากำลังดีแล้ว ถ้าลองชิมเปล่าๆรสชาติจะออกหวานๆหน่อย ทานคู่กับผักสดและอกเป็ดรมควันที่มีรสชาติออกจืดๆหน่อยแต่มีความหอม ทำให้รสชาติจึงไม่ออกหวานจัดเกินไปครับ
Smoked Duck Salad
ส่วนตัวผมชอบ หอยเอสทาโก้อบเนยกระเทียม อร่อยกว่า แต่ถ้าพูดถึงความคุ้มค่าหรืออิ่มแน่นอนว่าสลัดอกเป็ดอมควันดีกว่าครับ
★
Main Course:
■
Sea Bass Berry Sauce ปลากะพงทอดด้านเดียวจนหนังกรอบทานคู่กับซอสไวน์ขาว หน้าตาจานนี้ตามชื่อคำแปลไทยของเมนูนี้เลยครับ
ตัวปลากะพงที่ทอดฝั่งหนึ่งหนังแห้งกรอบๆมากและไม่มันเลี่ยนเลย จะวางปิดอยู่บนผักโขมที่จัดตกแต่งเป็นหย่อมหนึ่งอีกทีครับ และมีเห็ดเป็นวัตถุดิบในจานนี้ด้วย ตัวซอสเบอร์รี่ที่มีไวน์ขาวผสมอยู่ เวลาทานก็ไม่ได้ฉุนเด่นมากอะไรและมีความหอมของเบอร์รี่หน่อยๆติดที่จมูกเวลาทาน รสชาติตัวซอสจานนี้ผมว่าถ้าทานเยอะๆจะออกเลี่ยนไปนิด เพราะมีความหวานหน่อยๆครับ
Sea Bass Berry Sauce
■
Coq au Vin [ประมาณ 800++] หรือ ไก่ตุ๋นไวน์แดงสูตรดั้งเดิมจากแคว้นเบอร์กันดี ฟังจากชื่อเมนูก็พอรู้ว่าเป็นเมนูท้องถิ่นของฝรั่งเศส
ใช้ไก่ส่วนสะโพกที่ติดทั้งกระดูกมาตุ๋นกับไวน์แดงจนนุ่มเปื่อยดี เนื้อร่อนออกมาเลยแทบไม่ต้องแคะครับ เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งบดละเอียดกับผักย่างสามอย่างมีหน่อไม้ฝรั่ง มะเขือเทศ พริกหวานเขียว
ส่วนน้ำราดบนตัวไก่ตุ๋นดีเลยมีความหอมของไวน์ แต่ไม่ฉุนครับ รสชาติไม่หวานหรือเค็มเด่นกลบตัวไก่ ทานมากๆไม่เลี่ยนเท่าไหร่ ตัวเนื้อไก่จะออกจืดๆไม่มีรสชาติน่าจะไม่ได้หมักอะไร ตุ๋นอย่างเดียว เข้าใจว่าให้ทานคู่กับไวน์แดงที่ตุ๋นมา ที่ผมชอบอีกอย่างหนึ่งของจานนี้คือพวกผักย่างครับ ย่างมาหอมมากๆครับโดยเฉพาะมะเขือเทศกับพริกหวาน ทำให้ทานคู่กับวัตถุดิบหลักแบบเสริมกันดี
Coq au Vin
★
Dessert
■
Homemade Profiterole โฮมเมดโพรฟิสติโลแป้งอบกรอบเสิร์ฟคู่กับไอศกรีมวานิลาและซอสช็อคโกแลต เป็นขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส แป้งคล้ายๆชูครีม แล้วสอดไส้ไอศกรีมวานิลลาราดซอสช็อคโกแลตโรยด้วยอัลมอนด์ฝาน ส่วนตัวเท่าที่ผมเคยทานเมนูขนมหวานนี้มาจากร้านอื่น
ผมว่าเคยทานที่อร่อยกว่าที่นี้ครับ รู้สึกว่าตัวแป้งที่นี่จะออก texture บางๆ เนื้อไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่
Homemade Profiterole
■
Chocolate Fondant [390++ บาท] ช็อกโกแลตฟองดองหรือช็อกโกแลตลาวา ที่นี่จะมีการทำ presentation ให้สวยงามสมกับที่เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสแบบ Fine Dining คือมีการราดซอสเบอร์รี่ที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน เป็นลวดลายบนจาน ที่จัดตกแต่งออกเป็นสัดส่วน ตัวช็อคโกแลตลาวา เนื้อแป้งข้างนอกอบมากรอบๆเลย ไม่แข็งแห้ง ตักแล้วไส้ไหลทะลักออกมาสวยงามครับ
Chocolate Fondant
ถ้าพูดถึงเรื่องการบริการ ร้านอาหารฝรั่งเศสยิ่งสไตล์ Fine Dining นั้นผมบอกเลยว่าลูกค้าแทบทำตัวไม่ถูกเลย ร้านนี้ก็เช่นเดียวกันครับ มีระเบียบแบบแผนมาก ตั้งแต่ต้อนรับ นำผ้าปูกันเปื้อนมาวางรองที่ตักเรา เก็บอุปกรณ์การทานที่ไม่ใช้แล้วออกจากโต๊ะทันที
แต่พนักงานเค้าก็ไม่ได้ยืนประจำข้างๆโต๊ะเราจนขาดความเป็นส่วนตัวไป เค้าจะยืนคอยสังเกตอยู่ห่างๆครับ ถือว่าเป็นร้าน Fine Dining ที่สอบผ่านเลยสำหรับผมครับ ทั้งรสชาติอาหาร และการบริการรวมๆ บรรยากาศเหมาะมานั่งทานทั้งเน้นในโอกาสพิเศษต่างๆ เน้นความเป็นส่วนตัวครับ จอดรถสะดวกในบริเวณร้านเลย
Bye Bye
Bye Bye
■
[เสริมความรู้เพิ่มเติม:]
Escargot เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยอย่างหรูของฝรั่งเศสที่ชาวต่างชาติหรือชาวไทยเราอาจมองว่าแปลกเล็กน้อย แต่ที่ฝรั่งเศสคนนิยมกันมาก (และมากที่สุดในโลก) ส่วนใหญ่หลังๆ เป็นแบบเลี้ยงในฟาร์มมากขึ้น เพราะตามธรรมชาติ (ในป่า) ขาดแคลน ซึ่งในฝรั่งเศสมีอยู่กว่า 200 ฟาร์ม แต่ก็ส่งผลิตภัณฑ์หอยทากออกสู่ท้องตลาดเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้นจากทั้งหมด หลังจากจับหอยทากตัวเป็นๆมาได้แล้ว (ส่วนใหญ่จะจับหลังฝนตก) ต้องปล่อยให้อดอาหาร 2 สัปดาห์ เพื่อให้หอยทากคายของที่กินเข้าไปออกมาจนหมดก่อน ถึงจะนำมาปรุงอาหารได้
บทความโดย Right SaRa
therealcheckin
ร้านอาหารเด็ดที่อยากให้โลกรู้
อาหาร
2 บันทึก
17
14
6
2
17
14
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย