14 เม.ย. 2023 เวลา 03:25 • ปรัชญา
เมื่อเรามาอยู่ใน ยุคทุนนิยม นิยม..เงินตรา มีผู้ที่ที่เค้าตั้งเงินตราให้เป็นที่นิยม นิยมใช้แรงกายและความคิด เพื่อเสาะแสวงหา ..สะสมมาเป็นทุน มันก็มีผู้ที่ยากแค้น ต้นทุนมีแค่แรงกาย ไปทำงานเยี่ยงทาส ทาสที่ไม่ต้องบังคับ ..ทาสที่ต้องใช้แรงกายให้ได้เงินตราเป็นรางวัล แรงกายที่แลกเปลี่ยนเงินตรา บ้างก็ขายตัวขายแรง ขายความคิด .ขายอะไร เพื่อเงินตรา มันซื้อขายได้แม้ใจคน เพื่อเอาไปแลกเปลี่ยนเป็นปัจจัย ที่กินที่นอน เอาไปซื้อใช้จ่ายในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ทำ หรือ ทำไม่ได้ ..ด้วยตัวเอง
1
. แล้วสิ่งแวดล้อมมันก็เปลี่ยนแปลงไปมาก มีการย้ายถิ่นการทำมาหากิน ก็ต้องไปหาที่อยู่ที่อาศัยใหม่ ต้องมีทุนไปเช่าบ้านเช่าที่อยู่ ไม่มีทุนก็กู้เงืนทอง มาลงทุน ต้องมีผู้ค้ำ ผู้รับรอง บางคนชีวิต..มันไม่มีทุน..แม้จะหาคนรับรองก็ยังยาก ขาดเงินตราก็มีคนออกทุนมีดอกงามๆ เบ่งบาน เกินจะชดใช้ ชีวิตมันยากลำบาก เพราะคนนิยมคนมีทุน ใครไม่มีทุนก็หงอยเหงา อ้างว้างเดียวดาย แม้ความรัก ..ก็ยังนิยมคนมีทุน มีรูปสวยรูปงามเป็นต้นทุน..ที่สวยน้อยหน่อย ก็ต้องไปหาทุน ไปเติมเสริมแต่ง ให้ดูมีทุนในรูปที่ตนอาศัย
เมื่อเค้านิยมหาทุน ..เราก็ต้องหาวิธี ลดต้นทุน ให้กายเราเอง ไม่ต้องเดือดร้อน .นั้นก็คือ เราก็ต้องรู้จักตัวเอง รู้จักว่า ตัวเองต้องการอะไร อะไรที่พอทำให้ชีวิตไม่เดือดร้อน ต้องไปหาทุนเกินความจำเป็น ใช้จ่ายกลายเป็นว่าสุรุ่ยสุร่าย ..มันก็ต้องเหน็ดเหนื่อยกายไปหามา หามาใช้จ่าย ในสิ่งที่เกินความจำเป็น
โฆษณา