เรื่องเล่าของหนูนิ ในวันสงกรานต์ 2
.
ขุมทองแมคเคนน่า (Mackenna's Gold 1969)
.
ภาพยนตร์เรื่องนี้ท่านผู้อ่านทุกท่านคงได้รับชมกันทั่วแล้ว แต่ข้าพเจ้าก็ยังต้องการเขียนถึง ส่วนหนึ่งก็เพราะความร้ายกาจของโคโลราโดที่ทั้งเจ้าเล่ห์ โหด ยียวน ไว้ใจไม่ได้ เรียกได้ว่า "ช่างร้ายเหลือ" แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อ "ถึงร้ายก็รักอ่ะ"
.
แมคเคนน่าเป็นภาพยนตร์คาวบอยที่ไม่ได้ยิงกันสนั่นลั่นจอจนหูดับตับไหม้เหมือนคาวบอยอื่นที่ดูซกมก แต่เป็นการชิงไหวชิงพริบ หักเหลี่ยมหักเชิง ยอกย้อนและเต็มไปด้วยเล่ห์ รวมทั้งเผยให้เห็นถึงกิเลสในใจของทุกคนแม้แต่นักเทศน์ก็หนีไม่พ้น ดังที่ท่านจะได้อ่าน
.
นานมาแล้วมีตำนานเก่าแก่ที่เล่าขานถึง ขุมทองต้องคำสาปของพวกอาปาเช่ที่ซ่อนอยู่ในเขต canon del oro ซึ่งแปลว่าหุบเขาทองคำ ในเวลาต่อมาได้เปลี่ยนเป็น The Lost Adams(อดัมผู้สาบสูญ) แต่แล้วในที่สุดก็รู้จักกันในนาม "ขุมทองแมคเคนน่า"
.
พวกอาปาเช่ได้พยายามปกป้องขุมทองไว้จากพวกคนขาวและคนโลภเพราะเชื่อว่า ตราบใดที่พวกเขายังปิดเป็นความลับได้ พวกเขาก็ยังคงแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่
.
หนังเปิดตัวด้วยภาพแร้งทะเลทรายอริโซนากำลังกางปีกเหิรร่อนอยู่กลางหาวเหนือแกรนด์แคนยอน ทำให้ได้เห็นความยิ่งใหญ่อลังการของดินแดนหินผาและหุบเหว ซึ่งมีหน้าผาสูงถึง1,600เมตรและหุบเหวยาวถึง450กิโลเมตร อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เพลงประกอบขับร้องโดยศิลปินตาบอด โฮเซ่ เฟลิเซียโน่
.
แค่เพียงฟังเพลงและได้เห็นวิวทิวทัศน์อันน่ามหัศจรรย์ของแกรนด์แคนยอนบวกกับทะเลทรายอันเวิ้งว้าง ก็นับว่าคุ้มกับค่าตั๋วหนังแล้ว เพลงไพเราะมาก และ เป็นเพลงอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลเพลงหนึ่งของโลกใบนี้
.
ขุมทองแมคเคนน่านำแสดงโดยเกรกอรี่ เป็ค(ข้าพเจ้าชอบเรียกเขาว่าแกงกะหรี่เป็ด)เป็นคนรูปหล่อ ยิงปืนแม่น และยังเป็นนักโปกเกอร์(คนไทยเรียกเผ)ตัวฉกาจ เขาสามารถจดจำไพ่ที่เล่นแต่ละสำรับได้ในเวลาอันสั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถจดจำแผนที่ขุมทรัพย์ได้ทันทีที่เห็นแม้เพียงแว่บเดียว
.
เนื่องจากสถานที่เหล่านั้นตอนที่เขายังไม่ได้เป็นนายอำเภอ เขาเคยตระเวณไปจนทั่วพื้นที่เหล่านั้นเป็นเวลาหลายปี แต่ก็ไม่ได้พบอะไรเลย ทำให้เขาไม่เชื่อเรื่องขุมทอง ที่แน่ๆก็คือผู้คนเชื่อกันว่า เขาสามารถที่จะจำภูเขาทุกลูกและหินทุกก้อนได้
.
จอมโจรเม็กซิกันวายร้ายผู้น่ารักของข้าพเจ้าคือ จอห์น โคโลราโด นำแสดงโดยโอมาร์ ชารีฟ เขาเปลี่ยนบทจากดร.ชิวาโกซึ่งเคยทำให้ผู้ชมน้ำตาซึมมาแล้ว มาเป็นผู้ร้ายชนิด 360 องศาเลยทีเดียว การแสดงแนบเนียนจนดูไปก็เกลียดไปและรักไปด้วย
.
วันหนึ่งขณะที่นายอำเภอแมคเคนน่ากำลังลาดตระเวณ เขาก็ถูกลอบยิงโดยอินเดียนแดงชราหัวหน้าเผ่าอาปาเช่ชื่อPrairie Dog หลังจากดวลปืนกันอินเดียนแดงชราได้รับบาดเจ็บและตาย
.
แมคเคนน่าได้เห็นแผนที่นั้นแวบเดียวก่อนที่จะโยนเข้ากองไฟ แต่ก็เพียงพอสำหรับเขาที่จะจดจำ ขณะที่นายอำเภอหนุ่มกำลังขุดหลุมเพื่อฝังศพอินเดียนชรา โคโลราโดก็มาพบเนื่องจากวายร้ายเม็กซิกันที่โดนทางการออกหมายจับผู้นี้ก็กำลังตามล่าตัวอินเดียนแดงเฒ่าเพื่อแผนที่นี้
.
เมื่อเขาได้พบซากแผนที่ถูกเผาไฟ เขาจึงบังคับให้แมคเคนน่านำทางไปสู่หุบเขาทองคำ เพราะแน่ใจว่าแผนที่อยู่ในสมองของคู่ปรับตลอดกาลเรียบร้อยแล้ว หนทางไปสู่ขุมทรัพย์นี้น่ากลัวและอันตรายมากกว่าที่ทุกคนจะคาดคิด
.
ก่อนที่โคโลราโดจะมาพบแมคเคนน่าเขาได้แวะไปที่ไร่ของผู้พิพากษาผู้แต่งตั้งให้แมคเคนน่าเป็นนายอำเภอ และออกหมายจับโคโลราโด เขาได้ฆ่าผู้พิพากษาและฉุดตัวอิงก้าลูกสาวมาด้วย การที่อิงก้ายังปลอดภัยจากการข่มขืนเพราะโคโลราโดเข้าใจว่าเธอเป็นภรรยาของผู้พิพากษา
.
แต่อินเดียนแดงลูกน้องชื่อริงกลับต้องการเธอ มีฉากที่ฮามากของข้าพเจ้านั่นคือโคโลราโดได้เสนอผู้หญิงในกลุ่มโจรให้แก่ริง แต่อย่าไปยุ่งกับอิงก้าเพราะเขาได้ยกเธอให้แมคเคนน่าแล้ว
.
โดยเริ่มจากยายหน้าบากเฮชกี้(คู่ขาเก่าของแมคเคนน่าเมื่อหลายปีก่อน)หรือยายอ้วนนี่ แล้วยังแถมยายแก่ให้อีก เล่นเอายายแก่หัวเราะอย่างชอบใจ โดยมีเสียงหัวเราะของข้าพเจ้าปนอยู่ด้วย
.
นอกจากนี้แล้วก็ยังมีชาวบ้านแห่กันมาร่วมแสวงโชคด้วย การที่ชาวบ้านรู้ข่าวนี้ ก็เพราะเจ้าลูกน้องคนหนึ่งของโคโลราโดเมาแล้วพูดแผนการทั้งหมด โคโลราโดจึงเก็บลูกน้องปากโป้งของเขาต่อหน้าทุกคน ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม(สำนวนจีนคือซ่อนดาบในรอยยิ้ม)
.
ชาวบ้านที่มานั้นมีตั้งแต่นักเทศน์ที่ต้องการนำทองไปสร้างโบสถ์ใหม่ เจ้าของร้านชำ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ผู้ที่เดินทางผ่าน2คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นหนุ่มน้อยมีผมสีทองสวยงามและประสบชะตากรรมเลวร้ายที่สุดคือการถูกถลกหนังศีรษะทั้งเป็น
.
ทั้งนี้เพราะเขาได้ทอดทิ้งพ่อบุญธรรมในยามมีภัย ด้วยการหนีเอาตัวรอดเพียงคนเดียว และคนสุดท้ายคืออดัม ชายตาบอดที่อ้างว่าได้ไปเห็นขุมทองมาแล้ว แต่ถูกพวกอินเดียนแดงทำลายดวงตา นอกจากนี้ก็ยังมีคนอื่นๆซึ่งเป็นวงพลอย(พลอยฟ้าพลอยฝนด้วยความอยากรวย) มาร่วมอีกมากทั้งที่บางคนยิงปืนก็ไม่เป็นขึ้นม้ายังไม่ถูก
.
แมคเคนน่าพยายามพูดให้คนเหล่านี้กลับไปเพราะเขารู้จักความเลวร้ายของโคโลราโดดี โอกาสที่ชาวบ้านจะรอดกลับมาได้มีเพียงไม่กี่คน(แต่เขาก็คาดผิดเพราะความจริงไม่มีใครรอดกลับมาได้เลย)
.
ดาวร้ายโคโลราโดจึงพูดใส่ความแมคเคนน่าว่าเป็นผู้ฆ่าอินเดียนแดงชราเพราะต้องการฮุบทองคนเดียว ส่วนผู้พิพากษาตายด้วยอุบัติเหตุเพราะเข้าใจเขาผิด เขาจำ
ต้องป้องกันตัวแต่ได้ทำพิธีสวดหน้าหลุมศพให้แล้ว ตอน
นี้แม้แต่อิงก้าก็ยังมาร่วมเป็นหุ้นส่วนด้วยกับเขา
.
เพราะความโลภชาวบ้านจึงตัดสินใจร่วมเป็นหุ้นส่วนกับโคโลราโดต่อ แต่แล้วลูกน้องอินเดียนแดงชื่อเฮสิต้าก็มาแจ้งข่าวว่ามีกองทหารมาปิดล้อม เนื่องจากหุบเขารังโจรของโคโลราโดเข้าออกได้เพียงทางเดียว
.
เพื่อจะฝ่าวงล้อมของทหารพวกเขาจึงมอมเหล้าหญิงอินเดียนแดงคนหนึ่งจนเมาพูดไม่รู้เรื่อง แล้วให้คนของโคโลราโด 2 คนพาเธอไปที่ค่ายทหารแล้วอินเดียนแดง
ลูกน้องอีกส่วนทำทีเป็นอาปาเช่ไล่ติดตาม ส่วนทางนี้ก็แยกย้ายกันก่อนแล้วค่อยหาทางมารวมกันใหม่
.
แล้วพวกเขาก็มารวมกันอีกครั้งทั้งคนดี คนชั่ว แมคเคนน่า และผู้หญิง เพื่อมุ่งไปยังไร่ของโมแรนที่ถูกพวกอาปาเช่เผาหลังจากนั้นไร่ก็ถูกทิ้งร้าง ไร่ของโมแรนเป็นแหล่งน้ำแห่งสุดท้ายที่ต้องเก็บตุนน้ำไว้ก่อนเข้าสู่ทะเลทราย แต่ก็โดนกองทหารซุ่มโจมตี
.
เพราะจ่าทิบจอมเจ้าเล่ห์ พอจะจับใจความของหญิงอินเดียนแดงที่เมาได้ และเนื่องจากเขาชำนาญเส้นทางแถบนี้จึงคาดเดาได้ว่าขบวนการล่าขุมทองจะต้องมาที่นี่
.
แม้ชาวบ้านจะพยายามชี้แจงว่าเขาเป็นใครกันบ้าง พวกทหารก็ไม่ฟังยังคงระดมยิงเพราะเข้าใจว่าเป็นกลุมโจร งานนี้จึงเหลือรอดมาแค่ 5 คนคือ แมคเคนน่า โคโลราโด อิงก้า เฮชกี้และอินเดียนแดงร่างยักษ์เฮสิต้า เพราะทั้ง5รีบควบม้าหนีมาก่อน ที่อิงก้ารอดมาได้เพราะความช่วยเหลือของแมคเคนน่า
.
ระหว่างทางหนีโคโลราโด้ต้องการเก็บอิงก้าที่เป็นตัวถ่วงเพราะอิงก้าขาดน้ำจนหมดสติ แต่แมคเคนน่าไม่ยอมและนำทางไปแหล่งน้ำจืดซึ่งเป็นโอเอซิสขนาดใหญ่กลางทะเลทราย
.
ฉากนี้เป็นฉากเปลือยไม่โป๊ของโคโลราโดและเป็นต้นแบบที่ดาราสาวๆของไทยนิยมมาจนทุกวันนี้ แมคเคนน่าได้ปกป้องอิงก้าจากการทำร้ายของเฮชกี้ขณะที่อิงก้าเล่นน้ำ
.
ทำให้เฮชกี้โกรธแค้นและใช้มีดเพื่อฆ่าอิงก้าในคืนนั้น แต่แมคเคนน่าซึ่งรู้จักอารมณ์ร้ายของเธอดีจึงได้ช่วยอิงก้าไว้ได้อีก
โคโลราโด้เก็บมีดของเฮชกี้ไว้ในอกเสื้อเขาและลงโทษเธอด้วยการถีบลงน้ำในกลางดึกคืนนั้นเอง
.
วันรุ่งขึ้นขณะที่เดินทางต่อทั้ง5คนอยู่บนเขาสูงจึงสามารถเห็นเหตุการณ์ที่ปรากฎอยู่เบื้องล่างได้อย่างชัดเจน นั่นคือภาพชาวบ้าน3คนที่มาร่วมวงด้วย และหนีรอดจากการระดมยิงของพวกทหาร กำลังถูกพวกอินเดียนแดงตามล่า
.
โคโลราโดได้ใช้ปืนยิงชาวบ้านเพื่อหันเหความสนใจของอินเดียนแดง เพื่อกลุ่มของตัวเองสามารถไปต่อโดยไม่มีอินเดียนแดงไล่ตามและให้เฮสิต้าส่งสัญญานว่าเป็นคนยิง
พวกอินเดียนแดงเห็นเป็นอาปาเช่ด้วยกันจึงไม่สนใจหันไปเล่นงานเหยื่อรายสุดท้ายคือหนุ่มผมทอง ซึ่งหากพ่อบุญธรรมยังอยู่ ด้วยประสบการณ์ของเขายังสามารถพาบุตรชายหาทางหนีได้หลังจากรอดจากกองทหาร
.
ส่วนจ่าทิบจอมเจ้าเล่ห์เขานำทหารมาด้วย8คนสะกดรอยตามคนทั้ง5 ทุกวันเขาจะส่งลูกน้องกลับไป2คนเพื่อส่งข่าวให้หน่วยเหนือ ตอนนี้เขามีลูกน้องเหลือ2คนรวมเขาด้วยเป็น3คน
.
แมคเคนน่าตัดสินใจให้อิงก้าไปหาจ่าทิบเพื่อให้เขาพาเธอกลับ แต่จ่าทิบกลับฆ่าลูกน้องทั้ง2 แล้วมาร่วมกลุ่มกับโคโลราโด โดยตอนนี้มีม้าชั้นดีสำหรับขนทองคำเพิ่มอีก2ตัว และเพื่อหลบหนีกองทหารม้าพวกเขาจึงใช้วิธีข้ามแม่น้ำเหลืองแล้วค่อยย้อนกลับมา
.
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือพวกอินเดียนแดงได้ยึดครองดินแดนแถบแม่น้ำหมดแล้ว รวมทั้งเผาเรือทิ้งแต่ไม่ได้เผาแพ คนทั้ง6จึงลงแพไป โดยมีพวกอินเดียนแดงไล่ล่าเป็นฉากตื่นเต้นและลุ้นกันพอดู
.
เมื่อขึ้นถึงฝั่งโคโลราโดก็ต้องหัวเสีย ที่เห็นม้าบรรทุกศพของอินเดียนแดงเฒ่าหัวหน้าเผ่าอาปาเช่ก็ตามมาด้วยเช่นกัน ในที่สุดแมคเคนน่าก็พาทุกคนไปถึงบริเวณที่สิ้นสุดของแผนที่ เป็นที่ที่เขาเรียกว่า ผาสะเทือน
.
บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยซอกหลืบของหินผา และตั้งตระหง่านอยู่นั้นคือแท่งหินขนาดใหญ่สูงเสียดฟ้า
แมคเคนน่าบอกให้ทุกคนรอถึงพรุ่งนี้ก็จะเห็นเอง แมคเคนน่ามีโอกาสรู้ถึงความต้องการทองคำเพื่อความร่ำรวยของโคโลราโด ที่ต้องการไปเป็นเศรษฐีเงินล้านในปารีส
.
ฉากนี้ก็ตลกแบบเจ็บๆคันๆ เพราะแมคเคนน่ามองไปที่โคโลราโดในชุดคาวบอยที่กำลังนอนเอกเขนกอยู่ แต่แมคเคนน่ากลับเห็นเป็นภาพโคโลราโดในชุดสูทแบบผู้ดีกำลังนอนอยู่แทน
.
ความจริงแมคเคนน่าไม่เคยเชื่อเรื่องทองแม้แต่น้อยแต่จำต้องลักไก่โกหกครั้งใหญ่เพื่อเอาชีวิตรอด
เขารู้จักโคโลราโดดีว่าไม่มีวันแบ่งทองให้ใครเด็ดขาด และเมื่อใดที่แมคเคนน่าหมดประโยชน์ก็ต้องถูกฆ่าทิ้ง เขาจึงทำเพื่อเอาชีวิตรอดสำหรับวันนี้และสั่งอิงก้าให้จับตาดูเขาให้ดีในวันพรุ่งนี้
.
วันรุ่งชึ้นเมื่อดวงอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นเหลี่ยมเขา แสงอาทิตย์เป็นประกายสว่างวูบวาบเนื่องจากการส่องกระทบแร่หินฟันม้าบริเวณเทือกเขา แล้วรวมแสงเมื่อส่องผ่านแท่งหินที่สูงเสียดฟ้า เงาของแท่งหินทอดยาวไปเรื่อยๆ
.
แมคเคนน่าจึงสั่งให้ทุกคนรีบตามไปโดยเร็ว เงาที่ทอดยาวนั้นไปหยุดอยู่ที่ซอกหลืบแห่งหนึ่งซึ่งไม่เป็นที่สะดุดตา เนื่องจากบริเวณแถบนั้นมีซอกหลืบแบบนี้มากมาย
.
ซอกหลืบที่ว่านี้ ม้าสามารถผ่านไปได้แค่ทีละตัวเท่านั้น ส่วนเงาที่ทอดยาวเพื่อชี้แหล่งขุมทรัพย์นั้นเพียงครู่เดียวก็หายไป นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้แมคเคนน่าเสียเวลาหลายปีตามหาทองในตำนานแต่ต้องคว้าน้ำเหลว
.
เส้นทางเดินม้าในซอกหลืบนั้นคดเคี้ยวไปมาและเป็นทางยาวมาก ด้านหนึ่งเป็นเขา อีกด้านหนึ่งเป็นหน้าผาชัน ระหว่างนั้นเฮชกี้พยายามฆ่าอิงก้า แต่เธอก็พลาดท่าตกหน้าผาไป
.
เมื่อเดินทางไปถึงจุดหนึ่งที่แสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์เป็นประกายสวยงามเหมือนความฝัน หุบเขาเล็กๆที่งดงาม ทองคำอยู่ที่นั่นเต็มไปหมด ตามฝาตามผนังและเขา เป็นแถบๆ 5หลาบ้าง 10หลาบ้าง พื้นถ้ำเหมือนปูด้วยทองคำ ผงทองอยู่ตามพุ่มไม้เต็มไปหมด
.
ทุกคนพากันดีใจในโชคมหาศาลที่อยู่ตรงหน้าและบริเวณโดยรอบ มีเพียงแมคเคนน่าเท่านั้นที่รู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น เขาจึงรีบไปเตือนอิงก้า ซึ่งเธอก็รับสารภาพว่าเธอก็อยากได้ทองเช่นกัน
.
ที่ผ่านมาครอบครัวเธอไม่ได้ร่ำรวยเธอต้องทำไร่เองเพราะไม่มีเงินจ้างคนงาน แต่ต่อไปนี้เธอจะนำเงินไปซื้อปศุสัตว์และไร่ แต่แมคเคนน่าก็บอกให้เธอเชื่อเขาก่อนที่จะไม่มีโอกาส ในที่สุดอิงก้าก็ยอมปีนขึ้นที่สูงไปกับเขาเพื่อหาทางหนี
.
จ่าทิบนำทองคำบริสุทธิ์ก้อนโตบรรจุใส่กระเป๋าที่อานม้าอย่างมีความสุขโดยลืมระวังภัยไปชั่วครู่ แต่ก็เกินพอสำหรับวายร้ายโคโลราโด้ที่สั่งให้เฮสิต้าอินเดียนแดงเผ่า
อาปาเช่ร่างยักษ์ขว้างขวานจัดการฆ่าจ่าทิบ
.
ระหว่างที่เฮสิต้าเดินไปหยิบขวาน โคโลราโดก็เล็งปีนไปที่เขาแล้วยิง แต่ปรากฎว่าไม่มีกระสุนเพราะเฮสิต้าได้ถอดกระสุนออกแล้วตามเสียงลึกลับที่สั่งในตอนกลางดึก และเขาก็จะเก็บโคโลราโดด้วยเพราะไม่ใช่อาปาเช่
.
แล้วเฮสิต้าก็หันหลังเพื่อหยิบขวานมาจัดการโคโลราโดต่อ แต่โคโลราโดจัดการกับเขาก่อนด้วยมีดสั้นของเฮชกี้ที่เขายึดไว้ในคืนที่เขาถีบเฮชกี้ลงน้ำ จากนั้นโคโลราโดจึงหันไปจัดการกับอีก2คนที่เหลือ แต่ก็พบว่าทั้ง2ปีนขึ้นที่สูงไปแล้ว
.
โคโลราโดจึงรีบตามทั้ง 2 ไปจนทัน แล้วเกิดการต่อสู้กัน ทั้ง2ฝ่ายต่างก็ไม่มีปีนจึงสู้กันด้วยหมัดและสิ่งใกล้ตัว แต่
ทันใดนั้นอาปาเช่ที่ดูแลขุมทรัพย์ก็โผล่มา เสียงผีเท้าม้าจำนวนมากที่สั่นสะเทือน ทำให้ผาสะเทือนของแมคเคนน่าถล่ม
.
เกิดการแยกของแผ่นดินอาปาเช่และแม้แต่ม้าต่างก็หนีเอาตัวรอดคนทั้งสามก็เช่นกัน เดชะบุญมีม้าเหลืออยู่3ตัวพอดี แน่นอนว่าโคโลราโดโดยสัญชาตญานต้องขึ้นม้าตัวเอง อิงก้าขึ้นม้าอีกตัว เหลือตัวสุดท้ายที่บังเอิญเป็นของจ่าทิบที่แมคเคนน่าขี่
.
ทุกคนพากันหนีอย่างไม่คิดชีวิตโดยมีแมคเคนน่าอยู่รั้งท้าย ในที่สุดขุมทองก็ถูกภูเขาพังถล่ม ไม่สามารถจะทำอะไรได้อีกมองเห็นเงาหน้าอินเดียนแดงชราอยู่เหนือทรากกองหิน
.
แมคเคนน่าได้เตือนให้คู่ปรับของเขาจงหนีให้ไกลจากการตามล่าของเขา แมคเคนน่าจะทราบหรือไม่ว่าม้าที่เขาขี่อยู่นั้นบรรจุทองคำบรืสุทธิ์จนเต็มกระเป๋าหนัง แต่เมื่ออิงก้านำผงทองในกระเป๋าเสื้อของเธอให้เขา เขากลับโปรยทิ้งอย่างไม่ใยดี ตอนจบผู้ที่ไม่มีความโลภเลยกลับเป็นผู้ทีได้ทอง
.
หนูนิ
.
หมายเหต! ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถรับชมได้ทางยูทูบ Bilibili พากษ์ไทยภาพคมชัด อย่าพลาด ค่ะ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
