รู้ความจริงก่อนถ้ากำลังคิดจะบ่นต่อว่าพระเจ้า
เพราะยังไม่รู้ความจริงชัดเจนหลายคนจึงบ่นต่อว่ากับพระเจ้าที่ทำให้โลกเป็นแบบนี้ ? แต่แรกเริ่มพระเจ้าไม่ได้ต้องการจะสร้างให้โลกเป็นแบบนี้ แต่เพราะสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า"มนุษย์" บรรพบุรุษสองคนแรก อาดัมกับเอวา ก่อเรื่องขึ้น โลกจึงเต็มด้วยสารพัดปัญหาที่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์แบบนี้ครับ(ปฐมกาล1-3)
ถ้าจะเปรียบเทียบให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นกับสิ่งที่อาดัมและเอวาทำกับโลกนี้ก็เหมือนพ่อแม่ที่เผลอทำไฟเผาไหม้ตึกซึ่งมีลูกเด็กเล็กๆ อาศัยอยู่เต็มไปหมด พระเจ้าเปรียบเหมือนเจ้าหน้าที่ก็ต้องรีบพาเด็กๆ ทุกคนออกมาให้ได้เร็วที่สุดก่อนที่ไฟจะลามมาถึง กับสิ่งที่พระเจ้ากำลังทำกับมนุษย์ก็เป็นเช่นนั้น คือช่วยให้มนุษย์ได้พบกับหนทางรอดก่อนโลกนี้จะถูกเผาเป็นจุลเมื่อถึงเวลากำหนดครับ
ตอนนี้กับวิถีทางของพระเจ้าที่กำลังช่วยเหลือมนุษย์ในโลกแห่งบาปนี้ก็คือการช่วยกู้จิตวิญญาณออกมานำกลับสู่สวรรค์ ส่วนร่างกายภายนอกก็ต้องทิ้งปล่อยให้เสื่อมสลายไปเหมือนกับทุกสรรพสิ่งของโลกเพราะถูกแช่งสาปไปแล้วตั้งแต่วันที่อาดัมกับเอวาได้ทำผิดครับ
มนุษย์ทุกคนตอนนี้เปรียบเหมือนคนที่ตายไปแล้วตั้งแต่วันที่อาดัมกับเอวาได้ทำผิดต่อพระเจ้า ตายในที่นี้หมายถึงไม่มีชีวิตคือไม่มีจิตวิญญาณของพระเจ้าอยู่ด้วยครับ พระเจ้าก็ได้ออกจากร่างมนุษย์ตั้งแต่วันที่อาดัมกับเอวาได้ทำผิดต่อพระเจ้า และวิญญาณชั่วของมารซาตานผู้ที่มาล่อลวงทั้งสองให้ทำผิดต่อพระเจ้าก็เข้ามาสิงสู่ควบคุมจิตใจมนุษย์แทนพระเจ้านับจากวันนั้นเป็นต้นมาครับ (1ยอห์น5:19)
นั่นคือเหตุผลทำไมเค้าความคิดของมนุษย์จึงมีแต่นำไปสู่ปัญหา ไม่ว่าจะตั้งใจดีแค่ไหนแต่จุดจบผลลัพธ์มีแต่เกลียดโกรธฆ่าทำลายมนุษย์ด้วยกัน เพราะผู้ที่คอยควบคุมบงการจิตใจให้ความคิดมนุษย์จริงๆ คือมารซาตานเขาต้องการเช่นนั้นครับ ฆ่าให้ตายและนำจิตวิญญาณไปอยู่กับเขาที่นรก ที่ๆพระเจ้าสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่สุดท้ายของพวกเขาครับ(วิวรณ์20:10)
แผนการช่วยมนุษย์ของพระเจ้าจึงเริ่มจากจ่ายค่าไถ่ความผิดที่อาดัมบรรพบุรุษมนุษย์ได้ก่อขึ้นให้กับมนุษย์ก่อน คือโดยให้พระเยซูมาตายเพื่อไถ่ความบาปผิดนั่นเพื่อให้มนุษย์ได้พ้นผิดได้เป็นผู้ชอบธรรม ได้กลับมาเป็นลูกของพระเจ้าอีกครั้ง แล้วให้พระเยซูได้ฟื้นกลับคืนมาประกาศชัยชนะเหนือมารซาตาน แล้วบอกให้สาวกประกาศความจริงนี้ให้กับคนทั้งโลก
กับผู้ที่เชื่อก็จะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นจิตวิญญาณใหม่เป็นชีวิตใหม่ที่พระเจ้าจะเสด็จกลับมารับกลับบ้านแท้ที่สวรรค์ในวาระสุดท้ายของโลก ส่วนบรรดามารซาตานกับสมุนและผู้ที่ไม่เชื่อก็จะไปอยู่ในนรกที่ๆ พระเจ้าจัดเตรียมไว้สำหรับพวกของเขาครับ
แล้วพระเยซูก็เสด็จกลับสู่สวรรค์และประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงมายังสาวกหรือผู้เชื่อทุกคน แล้วก็เริ่มต้นออกป่าวประกาศความจริงเหล่านี้ให้กับทุกคนมาจนถึงปัจจุบันนี้ครับ ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์นี้จะเป็นเหมือนตราประทับรับรองการเป็นคนของพระเจ้า ผู้ซึ่งได้รับความรอดแล้วและพระเยซูจะกลับมารับกลับคืนสู่สวรรค์ในวันสุดท้ายของโลกนี้ึครับ(ลูกา24:47-49)
หลังพระเยซูกลับสู่สวรรค์ พระเจ้าก็ดลใจให้สาวกได้เริ่มรวบรวมพระคัมภีร์เป็นรูปเล่มเรียกว่าพระคัมภีร์ไบเบิ้ล เขียนขึ้นจากสาวกประมาณสี่สิบคนที่พระเจ้าดลใจให้เขียนขึ้น66เล่ม ตั้งแต่ยุคสมัยของโมเสสมาจนถึงยอห์น เพื่อจะช่วยให้ผู้คนได้รู้อย่างชัดเจนกับแผนการของพระเจ้าที่กำลังทำอยู่ในโลกนับตั้งแต่แรกเริ่มมาจนถึงยุคปัจจุบันและบอกถึงเหตุการให้สังเกตเพื่อเตรียมรับมือกับวันอวสานของโลกนี้ด้วยครับ(2ทิโมธี3:15-17)
สำหรับผู้ที่ได้รู้กับความจริงนี้แล้ว กับการใช้ชีวิตในโลกจึงเปรียบเป็นเหมือนกับคนตาดีซึ่งมีแผนที่และไกดผู้ชำนาญคอยนำทางให้ด้วย ส่วนคนที่ยังไม่รู้ก็เปรียบเหมือนคนตาบอดเลยนะครับ
"พระวจนะของพระองค์เป็นตะเกียงแก่เท้าของข้าพระองค์ และเป็นความสว่างแก่ทางของข้าพระองค์"
สดุดี 119:105 THSV11
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
