15 เม.ย. 2023 เวลา 06:31 • หนังสือ

"สร้างคอนเน็กชั่นแกร่ง ด้วยจุดแข็งของ มนุษย์อินโทรเวิร์ต" โดย Mentalist Daigo

🌱หนังสือเล่มนี้แนะนำการสร้างสัมพันธภาพ กับผู้อื่นโดยมีผลวิจัยอ้างอิงประกอบความน่าเชื่อถือด้วยค่ะ คำแนะนำปรับใชัในชีวิตประจำวันได้ แนะนำการเลือกคบคน ดูคนที่จะเข้าไปสร้างสัมพันธ์ด้วยนะคะ รวมถึงคนแบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยงค่ะ
แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการหาแนวทางในการคบหาผู้คนนะคะ ต่อไปนี้ขอสรุปแค่บางบทที่เห็นว่าน่าสนใจ ในการนำมาพัฒนาตนเองค่ะ
👉Attention training แนวทางการรับมือความรู้สึกแง่ลบ
สาเหตุของคนที่มีพฤติกรรมเป็นมิตร กลับมีพฤติกรรมรุกรานคนอื่นมาจากความเครียด วิธีการหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองอยู่ในสภาวะเช่นนั้น ด้วยการ นอนให้เพียงพอ
หรือใช้ "Attention Training" ฝึกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น ถ้ามองเห็นอะไรแง่ลบให้หันไปสนใจอย่างอื่นแทน เช่น หาของสีน้ำเงิน 3 ชิ้นให้เจอ หรือถ้าเห็นคนอื่นก้าวร้าวให้คิดถึงข้อดีของเค้า 3 อย่าง ช่วยให้ไม่พูดจาแง่ลบถึงอีกฝ่าย หรือใช้วิธี ยืดเวลาออกไป เช่น จะปล่อยให้หดหู่ ตอน 3-4 ทุ่ม ความรู้สึกลบจะค่อยๆ บรรเทาเอง
❤️วิธีพัฒนาสเน่ห์ดึงดูด
1. Active Listening
+เป็นการฝึกฝนโดยตั้งใจฟังคำพูดของอีกฝ่าย แล้วเลือกคำศัพท์สำคัญจากบทสนทนานั้นมาพูดตอบกลับ ช่วยเสริมสร้างในส่วนของความเข้าอกเข้าใจ ทักษะรับฟังอย่างตั้งใจและการสบตา เช่น อีกฝ่ายทักทาย "อรุณสวัสดิ์" ปฏิกิริยาตอบกลับอย่าง "วันนี้ทักทายร่าเริงเชียว! มีเรื่องอะไรดีๆ หรือเปล่า"
+เวลาอีกฝ่ายพูดอะไร ให้ตอบสนองต่อ "ส่วนที่เป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก" แล้วขยี้กลับในส่วนนั้น
+ใส่ใจเรื่อง "เสียงพูด" กับ "ความเร็วในการตอบกลับ"
ตอบกลับเร็ว แต่พอเริ่มตอบให้ค่อยๆ พูดด้วยโทนเสียงต่ำ
2. Drama Training
ฝึกฝนด้วยการดูละครไร้เสียง ละครมีคุณภาพช่วยพัฒนาความสามารถในการอ่านใจคนได้ เมื่ออ่านความรู้สึกคนตรงหน้าและแสดงความเข้าอกเข้าใจได้ ท่าทางแข็งทื่อจะหายไป นอกจากละครแล้วฝึกฝนด้วยการ จินตนาการ ความเป็นมาของคู่สนทนา และสภาพปัจจุบันดู พาตัวเองไปลองยืนจุดเดียวกับเค้า
3. Story Share
ฝึกฝนโดยถ่ายทอดเรื่องที่อยากเล่าโดยเปลี่ยนให้เป็นเรื่องราวหรือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆ เน้นความน่าอัศจรรย์ใจ หรือหยิบยืมคำคมของคนที่ยิ่งใหญ่ในอดีตมาใช้ก็ได้ เช่น
ถ้าอยากส่งสารทำนอง ต่อให้ล้มเหลวก็อย่าสิ้นหวัง ทอมัส แอลวา เอดิสัน ยอดนักประดิษฐ์เคยพูดไว้ว่า
"ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ให้จดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งวันละ 18 ชั่วโมง"
"ผมไม่ได้ล้มเหลว แต่ค้นพบว่ามี 700 วิธีที่ใช้ไมได้ผลต่างหาก"
หรืออย่างแอนดรูว์ คาร์เนกี (Andrew Carnegie) เจ้าของ "บิดาเห่งเหล็กกล้า" ก็ถ่ายทอดว่า
"ถ้าอยากเกิดไอเดีย ต้องคิดต่อไปเรื่อยๆ"
"ไอเดียนั้นต้องค่อยๆ สร้าง ไม่เกิดขึ้นได้ในวันเดียว สิ่งที่จำเป็นต้องมีไม่ใช่ความสร้างสรรค์ แต่เป็นความไม่ย่อท้อต่างหาก"
4. Rhetorical Question หรือ 2 ทางเลือกต่างขั้ว
การใช้รูปประโยคคำถาม แต่ไม่ได้ต้องการให้อีกฝ่ายตอบ ถามเพื่อถ่ายทอดแรงบันดาลใจ สิ่งสำคัญคือให้อีกฝ่ายเป็นคนเลือก ไม่ใช่ชี้ชัดว่าทางไหน "ถูกต้อง" เช่นนี้แล้วความพิเศษของการได้เลือกเองจะทำให้คนเรารู้สึกว่า สิ่งที่เลือกมีคุณค่า "ฉันได้เลือกและตัดสินใจเอง"จะเชื่อมโยงให้เกิดความสุข
ทำให้คนอื่นรู้สึกว่า "เสียงหัวใจของฉัน คุณเป็นคนบอกให้ฉันฟัง"
"เขาเป็นคนผลักดันเราให้ตัดสินใจ"
เช่น สตีฟ จ็อบ ถาม จอห์น สคัลลีย์ ตอนดึงตัวจาก บริษัทเป๊ปซี่ว่า
"คุณอยากขายน้ำอัดลมต่อไป หรืออยากมาเปลี่ยนโลกกับผม"
ยกตัวอย่าง หัวหน้าคนนึง โยนคำถามใส่พนักงาน ทำนองว่า "นายอยากกลับออฟฟิศด้วยความรู้สึกเศร้า หรืออยากกลับด้วยความรู้สึกว่าทำได้สำเร็จกันล่ะ"
"เมื่อศัตรูอยู่ตรงหน้า อยากหนีหรือคว้าชัยชนะด้วยมือคู่นั้น" เป็นต้น
5. นำเสนออนาคตด้วยคำพูดแบบเห็นภาพ เป็นรูปธรรมชัดเจน
ถ้าอยากให้คนอื่นรู้สึกคาดหวัง ความเป็นไปได้ในอนาคตจึงสำคัญกว่า ผลงานในอดีต เช่น ไม่ใช่บอกว่า "ปีหน้าจะทำให้บริษัทเติบโตมากกว่าปีนี้" แต่ให้นำเสนอว่า "ปีหน้าจะเปิดสาขาให้ครบ 200 แห่ง" มาคอยเตือนตัวเองว่าเราจะพูดแบบมีตัวอย่างหรือข้อมูลชัดเจนและหมั่นฝึกฝนกัน
โฆษณา