นิวซีแลนด์ ประเทศที่มีพลังงานสะอาด แต่ทำไมคนไม่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า?
..
ถ้าเอ่ยถึงประเทศนิวซีแลนด์ เราจะนึกถึงอะไร ?
แน่นอน เราต้องนึกถึงประเทศที่มีภูมิประเทศสวยงาม น่าท่องเที่ยว อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำติดอันดับโลก
และที่เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่ง ที่จะไม่นึกถึงไม่ได้เลยก็คือ....การเป็นประเทศที่มีจำนวนแกะมากกว่าคน
ในค่าสถิติที่น่าทึ่ง นอกจากการเป็นประเทศที่มีจำนวนแกะมากกว่าคนแล้ว
อีกสิ่งหนึ่งที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้กันก็คือ นิวซีแลนด์ยังเป็นประเทศที่มีจำนวนการครอบครองรถยนต์สูงมาก
ตามบันทึกสถิติ ในจำนวนชาวนิวซีแลนด์ 10 คน มีการอัตราการครอบครองรถยนต์สูงถึง 9 คัน
ซึ่งเมื่อไปดูค่าสถิติต่อไปอีกว่า
ในจำนวนชาวนิวซีแลนด์ 5 คน จะมีประชากรที่เป็นเด็ก 1 คน นั่นยิ่งทำให้ตัวเลขการครอบครองรถยนต์ของที่นี่ ดูน่าทึ่งเข้าไปอีก
นิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่มีอัตราการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดสูงในระดับโลก
ไฟฟ้าส่วนใหญ่ของที่นี่ได้มาจากเขื่อนพลังน้ำ ไฟฟ้าที่นี่จึงถือเป็นพลังงานสะอาด
แต่ที่ดูย้อนแย้งก็คือ ในขณะที่พลังงานไฟฟ้าที่นี่เป็นพลังงานสะอาด แต่นิวซีแลนด์กลับเป็นประเทศที่มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจำนวนน้อยมาก
หนำซ้ำ รถยนต์ส่วนใหญ่ในนิวซีแลนด์ก็ไม่ใช่รถยนต์ใหม่ แต่เป็นรถยนต์มือสองจากญี่ปุ่น ซึ่งคนที่นี่เรียกมันว่า "รถใหม่นิวซีแลนด์"
ค่าเฉลี่ยของอายุรถบนถนนในนิวซีแลนด์คือ 14 ปี ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับในอังกฤษที่ประมาณ 9 ปี
และนี่เองคือปัญหามลพิษที่รัฐบาลนิวซีแลนด์แก้ไม่ตก
การผลักดันให้ประเทศปลอดมลพิษ ดูจะติดอยู่ตรงระบบการเดินทางและขนส่งในประเทศ
ที่ดูจะย้อนแย้งกับความก้าวหน้าทางด้านอื่นเสียเหลือเกิน
ข้อจำกัดของปัญหาที่เกิดขึ้น ถูกมองว่ามีอยู่สองสามเรื่อง
อย่างแรก คนนิวซีแลนด์นิยมรถมือสองจากญี่ปุ่นเพราะราคาถูก
และกฎหมายของที่นี่ก็บังคับให้รถยนต์ขับชิดซ้าย รถญี่ปุ่นจึงเหมาะสมที่สุด
คนนิวซีแลนด์นิยมขับรถไปไหนมาไหนมากกว่าการใช้รถสาธารณะ เพราะระบบการขนส่งสาธารณะไม่สะดวก
ค่าเฉลี่ยของการระยะทางการวิ่งของรถยนต์แต่ละคันจึงสูงถึง 8,000 กม. ต่อปีเลยทีเดียว
ด้วยความที่นิวซีแลนด์ไม่มีการผลิตรถยนต์ในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์แบบสันดาปหรือรถยนต์ไฟฟ้า
การพึ่งพาการนำเข้าหลักจึงต้องมาจากรถยนต์มือสองของญี่ปุ่น
และในเมื่อนิวซีแลนด์พึ่งพารถยนต์เก่าจากญี่ปุ่นเป็นหลัก
เมื่อเราหันไปดูตลาดรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น ที่ในแต่ละปีมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบในประเทศเพียงแค่ 2% เท่านั้นเอง
ดังนั้นจึงเดาได้ไม่ยาก ว่าตลาดรถมือสองของญี่ปุ่น ที่จะถูกส่งมาขายในนิวซีแลนด์ จึงหนีไม่พ้นรถยนต์เครื่องสันดาปแบบเดิมไปอีกเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปีเป็นอย่างต่ำ
นั่นหมายความว่า คงเป็นเรื่องยากที่รถยนต์ในนิวซีแลนด์จะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
เพื่อช่วยลดตัวเลขการปล่อยมลพิษให้ได้ตามที่รัฐบาลต้องการในเวลาอันใกล้
ดูแล้วการแก้ไขเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
ทั้งการวางโครงสร้างพื้นฐานเรื่องการขนส่งสาธารณะใหม่ ในประเทศที่ภูมิประเทศสลับซับซ้อน
หรือแม้แต่การทดลองนำรถไฟฟ้าราคาไม่สูงเข้ามาแข่งขันกับตลาดรถยนต์มือสองเดิม ที่ผู้คนคุ้นเคยมากกว่า
References;
ติดตามอ่านบทความได้ที่
- 99
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
