15 เม.ย. 2023 เวลา 09:40 • คริปโทเคอร์เรนซี

🎯 อัพเดท Sentiment Cycle และราคา Ethereum​ เรามาไกลแล้วหรือแค่พึ่งออกตัว? 🚀

💎 เมื่อเช้าวันที่ 13 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา Ethereum ได้ผ่าน Shanghai Upgrade มาได้อย่างราบรื่นและไม่ได้มีการเทขายจาก ETH จำนวนมหาศาลที่ถูกปลดล็อคแต่กลับเป็นตัวช่วยส่งให้ราคาของมันกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ $2,000 ได้อยู่ในปัจจุบัน
💎 โดยก่อนหน้านี้ทาง Insight เคยนำเสนอชาร์ต Sentiment Cycle ที่ว่าด้วยวัฎจักรความรู้สึกของตลาดจากหนังสือ The Nature of Risk ของ Justin Mamis มากันไปแล้วในช่วงตอนที่ราคาของ ETH อยู่บริเวณ $1,300 ซึ่งขณะนั้นได้คาดการณ์ว่าเรากำลังจะเข้าสู่ช่วง Aversion
👉 จากตอนนั้นเวลาก็ผ่านมาเกือบ 8 เดือนแล้ว และดูเหมือน Ethereum จะสามารถฟื้นตัวออกจากช่วงดังกล่าวและพุ่งทะลุแนวต้านเข้าสู่ขั้น Denial ในปัจจุบันได้ในที่สุด
💎 โพสนี้จึงอยากเทียบกราฟของ ETH และ Sentiment Cycle นี้แบบช็อตต่อช็อตกันอีกครั้ง โดยอาจจะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับราคาที่เกิดขึ้นจริงมากที่สุดโดยสามารถดูได้จากกราฟในรูปได้เลย
✅ และความหมายของช่วงต่าง ๆ ทั้ง 8 ขั้นนั้นขอยกมาจากโพสเก่าเพื่อนำมาอธิบายอีกครั้ง 👇
🔹 Returning Confidence - ราคาพุ่งขึ้นมาซักพักและเริ่มดึงดูดความมั่นใจของนักลงทุนรายย่อยให้กลับเข้ามาสู่ตลาด ราคามีความผันผวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ขึ้นอย่างเดียวอีกต่อไป
🔹 Buying the Dip - ตลาดเกิดการ Pull Back ครั้งใหญ่ มีความรุนแรงมากกว่าครั้งก่อนหน้ามาก แต่เพราะตลาดยังคงอยู่ในขาขึ้น ประกอบกับสื่อกระแสหลักยังคงเชียร์ข่าวดีต่อเนื่อง นักลงทุนจึงยังไม่กลัวและกล้าที่จะเสี่ยงด้วยการเข้าช้อนซื้อ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2021 ที่ Ethereum ร่วงลงมาแตะ $1.8k
🔹 Enthusiasm - ราคาฟื้นตัวขึ้นมาได้ดังที่ทุกคนคาด ข้อมูลทุกอย่างยังชี้ว่ามันจะไปต่อได้อีกไกล นักลงทุนที่ไม่กล้าซื้อตอน Pull Back ครั้งก่อนก็กระโดดเข้ามาร่วมเล่น ดังเช่นตอนที่ราคาของ ETH ฟื้นตัวกลับขึ้นไปทำ ATH ใหม่อีกครั้งในปลายปี 2021 ที่ระดับเกือบ $5k จนก่อให้เกิด Distribution การเปลี่ยนมือจาก Smart Money ไปยัง Stupid Money ขึ้นที่จุดสูงสุดของตลาด
🔹 Disbelief - แม้จะมีความรู้สึกไม่ค่อยดีต่อตลาดเพิ่มมากขึ้น แต่คนส่วนใหญ่ยังคงติดภาพจำของตลาดขาขึ้นอยู่ เริ่มจะมีสัญญาณเตือนอ่อน ๆ (Subtle Warning) ออกมา แต่มีเพียงคนที่เฝ้าระมัดระวังเท่านั้นที่จะเห็นมัน และจะตามมาด้วยสัญญาณเตือนอย่างแน่ชัด (Overt Warning) เช่นการที่ Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่าเส้น 600DMA เป็นต้น
🔹 Panic - ในช่วงนี้มันมักจะมีจุดเปลี่ยนที่สำคัญ เช่นการล่มสลายของ LUNA ส่งผลให้ตลาดร่วงลงทะลุแนวรับสำคัญต่าง ๆ อย่างเช่นเส้น 200WMA สื่อกระแสหลักเริ่มตีข่าวว่า Bitcoin, Etheruem และคริปโตกำลังจะตาย ทุกครั้งที่ราคาเริ่มฟื้นตัวจะถูกเทขายใส่ ทำให้ราคาโงหัวไม่ขึ้นและดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง
🔹 Discouragement - ราคาลงมาถึงก้นเหว คนส่วนใหญ่ยอมแพ้และเทขายไปหมดแล้ว เหล่าหมีและ Short Sellers ออกมาเสียงดังกว่าที่เคย ไม่มีข่าวดีให้เห็นแม้แต่น้อย ทุกคนคิดว่ามันจบแล้วและคงไม่มีวันฟื้นกลับมาได้อีก
🔹 Wall of Worry - เริ่มเกิดการ Bottoming เพราะคนที่ต้องการขายต่างได้ขายไปหมดแล้ว แม้จะยังไม่มีข่าวดีเข้ามาแต่เหล่า Smart Money ค่อย ๆ ทยอยกลับเข้ามาซื้ออีกครั้ง ราคาจึงค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ ขณะที่สาย Short เริ่มทำการ Buy Back ช่วยพยุงราคาขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไปชนแนวต้าน
🔹 Aversion และ Denial - มีนักลงทุนบางส่วนที่ซื้อได้ในราคาที่ต่ำเริ่มเทขายทำกำไรอีกครั้งที่แนวต้านประกอบกับเหตุการณ์อย่าง Shanghai Upgrade ที่สร้าง FUD ให้แก่ราคาส่งผลให้ราคาร่วงลงมาบ้างแต่ก็ยังไม่กลับไปทำ Low ใหม่เพราะขาดแรงเทขายจากรายย่อยที่ได้ออกจากตลาดไปหมดแล้ว Smart Money เริ่มกลับมาซื้อเมื่อเห็นสัญญาณของความแข็งแกร่งจนสุดท้ายความมั่นใจตลาดจะกลับมาและกลับไปสู่เฟส Returning Confidence ในที่สุด
📌 เมื่อดูกราฟแล้วคิดว่ามันเป็นยังไงบ้าง? ทฤษฎี Sentiment Cycle นี้เข้ากับเหตุการณ์ราคาของ Ethereum มั้ย เข้ามาดู พูดคุย อัพเดทข่าวสารตลาดโลก เศรษฐกิจ และคริปโตกันได้ที่กลุ่ม Open Chat 🤗​ Insight On-Chain :
💎 สนับสนุนเพจได้ที่ 👇
สมัคร Bitget พร้อมลดค่า Fee 20% : https://partner.bitget.com/bg/insightonchain
ซื้อ Hardware Wallet ของ Trezor : https://affil.trezor.io/SHAU
โฆษณา