ชีวิต Transit 1 วัน ณ อาบูดาบี (Abu Dhabi)
*เดินทางไปเมื่อวันที่ 15/09/2022 นะคะ
ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ณ ปัจจุบัน*
ตั้งใจจะเดินทางจากไทยไปเที่ยวจอร์เจีย แต่ตอนจะกดซื้อตัวพบว่าตั๋วบินลงอิสตันบูล ต่อเครื่องไปทบิลิซีแพงขึ้นเหลือเกิน ก็เลยลองมาหาลู่ทางอื่น
สุดท้ายจบที่ตัดสินใจบินสามต่อค่ะ จากไทยลงมุมไบ แล้วจากมุมไบแวะทรานสิทที่อาบูดาบี 1 วัน 2 คืนค่อยบินต่อไปทบิลิซี
สำหรับการขอวีซ่าทรานสิทที่อาบูดาบี เราเคยเขียนรีวิวลงเอาไว้ให้แล้วนะคะ ตามลิงค์ได้เลย
![[ไดอารี่ออกเดินทาง] รีวิว การขอวีซ่า Transit ลง Abu Dhabi บทความนี้ตั้งใจมาเขียนเพราะพบว่าหาข้อมูลได้น้อยมาก หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เที่ยวโดยวางแผนเองทุกขั้นตอน และเพื่อที่จะได้ไม่มีใครหลงพลาดเสียเงินเยอะเท่าเราอ](https://t1.blockdit.com/photos/2023/04/643bc6c5de64e1040538f1c7_800x0xcover_HtmM7DZC.jpg)
เราบินถึงสนามบินอาบูดาบีตอนมืดเลยค่ะ เวลาเดิมก็มืดอยู่แล้วคือห้าทุ่มครึ่ง แต่เจอเครื่องดีเลย์ไปอีก ก็เลยถึงจริงเกือบเที่ยงคืนครึ่ง และที่จริงตอนแรกก่อนไปเราเครียดมากกับเรื่องเอกสาร กลัวโดนถามเยอะ กลัวโดนปฏิเสธห้ามเข้าขึ้นมา แต่อาจเพราะตั้งแต่บินจากไทย เจ้าหน้าที่เขาจะเช็คเอกสารให้ล่วงหน้าแล้วว่าเรามีครบ ไปถึงไม่โดนตม. ปฏิเสธแน่ ดังนั้นตอนที่ผ่านตม. อาบูดาบีเลยผ่านฉลุย ชิลมากค่ะ
เนื่องจากเครื่องถึงมืดมาก เราเลยจองรถรับส่งกับทาง Booking.com เอาไว้ล่วงหน้า เพราะว่าจองกับบุ้คกิ้งเป็นประจำอยู่แล้ว ได้ส่วนลดเยอะ พอจองโรงแรมเสร็จ บุ้คกิ้งก็จะเสนอว่าจองรถรับส่งสนามบิน-โรงแรมด้วยไหม แต่ขอแอบแนะนำว่าไม่ต้องรีบจอง รอจองหนึ่งวันก่อนหน้าก็ได้ค่ะ บางทีมันจะลดราคาให้อีก
รับกระเป๋าเสร็จออกมา คนขับรถก็ชูป้ายชื่อยืนรออยู่แล้ว ก็ขึ้นรถแล้วตรงถึงโรงแรมสบายๆ เลยค่ะ
โรงแรมที่เราเลือกจองคือ Ramada Abu Dhabi Corniche ได้เป็นห้อง Deluxe King Room พร้อมวิวทะเล ในราคา 2 คืน 2,710 บาทเท่านั้น (เป็นห้องที่ได้อัพเกรดเพราะจองผ่าน Booking + ตอนนั้นมีสิทธิ Genius level 2 ค่ะ)
ห้องกว้าง มีโซนห้องทำงานแยกกับห้องนอน ห้องอาบน้ำก็กว้างมาก ประทับใจสุดๆ
เช้ามา เราไม่ได้จองมื้อเช้าไว้กับทางโรงแรม เลยออกไปเดินหาอะไรกินกันเองค่ะ
เปิดกูเกิลแมปจิ้มดูร้านอาหารรอบๆ หาจากรีวิวที่ดูน่าสนใจ สุดท้ายจบที่ร้านชื่อ Saiway เป็นร้านอาหารเลบานอน
เสิร์ฟพร้อมขนมปัง และมีปิดท้ายด้วยของหวาน
เราสั่งชุดรวมเนื้อไป อยากบอกว่าอร่อยมากกก โดยเฉพาะเนื้อแกะ คือถ้าได้กลับไปกินอีกครั้งหน้าจะสั่งแต่เนื้อแกะเป็นหลักเลยค่ะ เนื้อนุ่มลื่นคอมาก ถูกใจสุดๆ
กินอาหารเสร็จเราก็เตรียมเที่ยว โดยที่การเที่ยวของเราจะนั่งรถเมล์เที่ยวเป็นหลัก
การเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางของอาบูดาบีจะต้องมีบัตรชื่อ Hafilat ค่ะ
บัตรนี้ใช้ร่วมกันไม่ได้ มากันกี่คนก็ต้องซื้อทุกคนนะคะ
ตอนแรกก็หาข้อมูลมาว่าสามารถซื้อบัตรนี้จากสนามบินได้เลย แต่เนื่องจากเราถึงดึก อยากรีบเข้าโรงแรม + ดูมาแล้วว่าแถวโรงแรมมีตู้จำหน่ายบัตร เราก็เลยไม่ได้ซื้อก่อนค่ะ
(ไม่ใช่ทุกตู้จะจำหน่ายบัตรนะคะ บางตู้แค่ให้เติมเงินเท่านั้น ต้องเช็คหาก่อนนะคะ)
ความซวยคือตู้ที่เราซื้อ ช่องรับธนบัตรดันเสียรับแต่เหรียญเท่านั้น เลยต้องตระเวนขอแลกเหรียญตามร้านแถวนั้นไปทั่วเลยค่ะ แนะนำว่าถ้าจำเป็นต้องแลกเหรียญ มองหาร้านที่เขามีขายน้ำค่ะ ปกติจะแก้วละ 1 เหรียญพอดี เขาจะมีเหรียญให้แลกเยอะ
โอเค จบปัญหากับบัตรเดินทาง ถึงเวลาเริ่มเที่ยวจริงๆ สักที
ที่แรกเราตรงไป Sheikh Zayed Grand Mosque ก่อนเลยค่ะ แต่เราถ่ายมัสยิดแค่จากไกลๆ ที่จุดโดมห้างเท่านั้น
เพราะว่าช่วงที่มา การจะเข้าสถานที่ปิดต้องมีผล PCR ค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าจะมาตรวจที่สนามบินอาบูดาบี แต่แผนทุกอย่างรวนหมดก็เลยอดเข้า ที่จริงก็แอบเสียดายมากค่ะ
อากาศของอาบูดาบีในช่วงกันยายนร้อนแห้งมากๆ เราไม่เคยเจอความร้อนแบบนี้มาก่อน เรียกว่าไม่สู้จริงๆ พอออกจากมัสยิด เราก็เลยเลือกนั่งรถบัสสาย 40 สายนี้จะวนรอบนอกหน่อยค่ะ พอให้เห็นชายหาดและทะเล
จากนั้นเราก็ไปหลบร้อนที่ Marina mall ค่ะ
ที่จริงไม่ได้ตั้งใจว่าจะแวะห้างนาน แต่เห็นอากาศแล้วก็กลายเป็นเที่ยวในห้างแทนเพื่อรอช่วงเย็นอุณหภูมิลดลง เราแวะกินมื้อเที่ยงและขนมหวานที่ร้าน La Brioche อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ
มองเวลา ลองออกไปข้างนอก โอเค สู้อากาศไหวแล้ว เราเดินเลียบอ่าวจากห้างเพื่อไปเที่ยวที่ Heritage Village หมู่บ้านพื้นเมืองจำลองความเป็นอยู่ของชาวเบดูอินค่ะ
หมู่บ้านแห่งนี้ค่าเข้าฟรี แต่ดูเวลาเปิด-ปิด ก่อนมานะคะ ไม่ได้เปิดยาวทั้งวัน
มีเวลาไม่มากพอออกทะเลทราย ได้เหยียบทรายที่นี่นิดหน่อย ได้เจออูฐด้วย ก็โอเคค่ะ 😃
เสร็จจากหมู่บ้าน เราเดินย้อนกลับไปขึ้นรถบัสหน้าห้างเพื่อจะไปที่เที่ยวสุดท้ายของวัน พระราชวัง Emirates Palace ค่ะ
ระหว่างทางก็จะได้ภาพวิวของ Etihad Tower ด้วยค่ะ
มาทำอะไรที่พระราชวัง? นอกจากมาดูพระราชวัง (ซึ่งอันที่จริงเป็นโรงแรม) แล้ว เรามาเพื่อกินกาแฟทองคำของร้าน Le Cafe ดูด้วย
เมนูโรยเกล็ดทองคำมีกาแฟกับชาเขียว เลยสั่งทั้งคู่เลย
บอกตามตรงว่ารสชาติเฉยมาก 55555 กินเพื่อให้ได้กินจริงๆ
Abu Dhabi เป็นเมืองที่ถูกเพิ่มเข้ามาในทริปกะทันหันเพราะเลือกแวะทรานสิท
ซึ่งสร้างความเซอร์ไพรซ์หลายด้านให้เรา แต่โดยรวมที่ประทับใจมากที่สุดคือความสะอาดของบ้านเมือง ความหรูหรา ความยิ่งใหญ่
ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับมาในช่วงอากาศเย็นกว่านี้ค่ะ จะได้เที่ยวได้เต็มที่มากขึ้น สนุกมากขึ้น
ถ้าใครจะแวะมาสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากดูไบแล้วอย่าลืมลงมาถึงอาบูดาบีนะคะ ที่เที่ยวเยอะมากเลย และยังเหลืออีกหลายที่เลยที่เราไม่ได้แวะไปค่ะ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
