Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
AMPiVERTヅ
•
ติดตาม
16 เม.ย. 2023 เวลา 07:11 • หนังสือ
รีวิว 13 สิ่งที่คนเข้มแข็งเขาไม่ทำกัน #AMPReviews
วันนี้จะมารีวิว และสรุปแนวคิดจากหนังสือ ตามมุมมองและสไตล์ของตัวเอง
หนังสือรวมหลักที่จะฉุดเราขึ้นเมื่อพบอุปสรรคทางอารมณ์และจิตใจ
แต่ละคนมีระดับความเข้มแข็งทางจิตใจที่ต่างกัน แต่เราสามารถพัฒนาความสามารถนี้ได้ ซึ่งหมายถึงความสามารถในการปรับอารมณ์ จัดการความคิดและการกระทำเชิงบวกในแต่ละสถานการณ์ที่เจอ
ปัจจัยที่มีผลกับการพัฒนาความเข้มแข็งทางจิตใจ ได้แก่ พันธุกรรม บุคลิกลักษณะ และประสบการณ์
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความเข้มแข็งทางจิตใจ ที่น่าสนใจ นี่คือข้อเท็จจริงบางส่วนเกี่ยวกับความเข้มแข็งทางจิตใจ
> การมีจิตใจเข้มแข็งไม่ได้แปลว่าคุณต้องพึ่งพาตัวเองเพียงอย่างเดียว
> การมีจิตใจเข้มแข็งไม่ใช่การคิดบวก (แต่คือการคิดอย่างสมจริงและสมเหตุสมผล)
> การพัฒนาความเข้มแข็งทางจิตใจไม่ใช่การไล่ตามความสุข แต่มันคือการเลือกตัดสินใจ ที่จะช่วยให้คุณบรรลุศักยภาพสูงสุดของตัวเอง
13 ข้อนี้คือสิ่งที่จะช่วยคุณหาวิธีในการรับมือกับความท้าทายของชีวิตที่ดีกว่า เพื่อให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็น
1.
ไม่เสียเวลามาสงสารตัวเอง
2.
ไม่ยอมเสียอำนาจของตัวเองไป
3.
ไม่หลบเลี่ยงความเปลี่ยนแปลง
4.
ไม่ใส่ใจในสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
5.
ไม่ห่วงว่าต้องทำให้ทุกคนพอใจ
6.
ไม่กลัวที่จะรับความเสี่ยงที่ประเมินแล้ว
7.
ไม่ยึดติดอยู่กับอดีต
8.
ไม่ทำพลาดแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก
9.
ไม่ขุ่นเคืองในความสำเร็จของผู้อื่น
10.
ไม่ยอมแพ้หลังจากความล้มเหลวครั้งแรก
11.
ไม่กลัวการอยู่คนเดียว
12.
ไม่รู้สึกว่าโลกติดค้างอะไรพวกเขา
13.
ไม่คาดหวังผลลัพธ์ทันที
ไม่เสียเวลามาสงสารตัวเอง
●
การจมอยู่กับความคิด คุณจะยิ่งรู้สึกแย่ลง จนพาไปสู่ความสงสารตัวเอง
●
มองหาสิ่งดีเล็กน้อยเพื่อเรียนรู้ที่จะเพิ่มความรู้สึกขอบคุณ เช่น การจดบันทึกสิ่งที่คุณขอบคุณวันละหนึ่งอย่าง, พูดถึงสิ่งที่รู้สึกขอบคุณ
●
การเลิกสงสารตัวเองจะทำให้คุณแกร่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่อารมณ์บวกมากขึ้น และช่วยพัฒนาการเข้าสังคม
●
สำรวจความจริง ไม่คิดลบ เลือกที่จะแก้ไขปัญหาอย่างกระตือรือล้น และฝึกมีความรู้สึกขอบคุณทุกวัน
ไม่ยอมเสียอำนาจของตัวเองไป
●
การมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาควบคุมกายและใจของเรา ไม่ทำให้เรามีสุขภาพจิตที่แข็งแรง
●
ถ้าคุณไม่ชอบวิธีที่ใครบางคนปฏิบัติต่อคุณ แต่คุณไม่ลุกขึ้นสู้เพื่อตัวเอง ก็ถือว่าคุณได้มอบอำนาจให้คนคนนั้นอยู่เหนือคุณ
●
ปัญหาจากการมอบอำนาจให้คนอื่นไป คือ คุณปล่อยให้ผู้อื่นเป็นผู้กำหนดความรู้สึกของคุณ คุณกลายเป็นคนอ่อนไหวต่อคำวิจารณ์ และหากคุณยอมให้เขามาล่วงล้ำชีวิตของคุณ คุณจะรู้สึกไม่พอใจเขามากขึ้นเรื่อยๆ
●
เรียกอำนาจกลับคืนด้วยการรู้คุณค่าในตัวเอง คุณจะเรียนรู้ว่าคุณสามารถทนต่อการสะท้อนกลับได้ ที่สำคัญคือคุณต้องมีสติ
ไม่หลบเลี่ยงความเปลี่ยนแปลง
●
ความกังวลที่จะเปลี่ยนแปลง เช่น คุณไม่อยากออกจากคอมฟอร์ตโซน
●
การเปลี่ยนแปลงมีหลายประเภท ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงนิสัย การลองทำอะไรใหม่ๆ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม อารมณ์ หรือการรับรู้
●
5 ขั้นสู่การเปลี่ยนแปลง : ก่อนการไตร่ตรอง, การไตร่ตรอง (คำนึงข้อดีข้อเสียในการสร้างความเปลี่ยนแปลง), การเตรียมการ (เช่น จัดตารางออกกำลังกาย), การลงมือทำ (ปฏิบัติตามตาราง) และการทำต่อเนื่อง
●
อย่าเชื่อมโยงความเปลี่ยนแปลงเข้ากับความลำบาก เช่น อยากสุขภาพดี ก็อย่าเอาแต่คิดว่าทำให้ไม่ได้กินของอร่อย
ไม่ใส่ใจในสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
●
สูญเสียพลังและเวลาไปกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
●
คุณสามารถจัดงานเลี้ยงที่ดีได้ แต่ไม่สามารถควบคุมได้ว่าคนในงานจะสนุกหรือไม่
●
คุณสามารถขายสินค้าที่ดีเลิศ แต่ไม่สามารถบังคับให้ใครมาซื้อได้
●
ใส่ใจเฉพาะสิ่งที่คุณควบคุมได้
●
แทนที่จะสูญเสียพลังไปกับการป้องกันพายุ ให้ใส่ใจว่าคุณสามารถเตรียมพร้อมสำหรับมันได้อย่างไร
ไม่ห่วงว่าต้องทำให้ทุกคนพอใจ
●
คนเรามักกลัวการไม่ได้รับการถูกยอมรับ หรือสูญเสียความสัมพันธ์
●
การเอาใจผู้อื่นมักทำให้ลืมคุณค่าของตัวเอง โดยลืมที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องแต่พยายามเพียงแค่ให้ผู้อื่นมีความสุข
●
กำหนดว่าใครคือคนที่คุณอยากเอาใจ ประเมินโดยใช้ความรู้สึกว่าการเอาใจนั้นเป็นการเสียเวลาหรือไม่ เกิดแล้วทำให้คุณถูกชักจูงได้ง่าย หรือการไม่เอาใจแล้วคนอื่นจะรู้สึกไม่พึงพอใจบ้างก็ไม่เป็นไร
●
ฝึกเป็นคนเชื่อมั่นในความคิดของตนเอง
●
ยอมรับว่าคุณไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้จะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น
ไม่กลัวที่จะรับความเสี่ยงที่ประเมินแล้ว
●
ลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
●
อย่าให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล
●
ยอมรับความเสี่ยงที่ถูกประเมินแล้ว
●
ใช้เวลาในการประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ และเรียนรู้จากทุกความเสี่ยง
ไม่ยึดติดอยู่กับอดีต
●
คุณเป็นทุกข์กับความผิดหวังครั้งใหญ่ในอดีต และบางครั้งก็หวังจะกลับไปแก้ไข
●
การใคร่ครวญถึงอดีตไม่ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลง แต่ทำให้เสียเวลากับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว และขัดขวางความสามารถในการเป็นตัวของตัวเองในแบบที่ดีที่สุดได้
●
การอยู่กับอดีตนำไปสู่โรคซึมเศร้าได้ (สุขภาพใจ) และไม่ดีต่อสุขภาพกายของคุณ
●
เปลี่ยนวิธีคิด หากคุณมักคิดเรื่องลบที่เคยผ่านมา ให้คิดถึงเรื่องที่สนใจหรือเป็นประโยชน์กับคุณแทน โดยใช้ข้อเท็จจริงไม่ใช่อารมณ์
●
การติดอยู่กับอดีตจะขัดขวางไม่ให้คุณสนุกไปกับปัจจุบันได้
ไม่ทำพลาดแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก
●
การทำพลาดซ้ำนอกจากปัญหาจะไม่ได้รับการแก้ไขแล้วยังทำให้คุณไม่ถึงเป้าหมาย
●
ศึกษาความผิดพลาด เก็บความรู้สึกเชิงลบไปก่อนแล้วเรียนรู้จากมัน (ไม่แก้ตัวแต่หาคำตอบกับปัญหา)
●
วางแผน และฝึกฝนวินัยในตนเอง โดยจำเป้าหมายและกำหนดข้อจำกัดให้กับตัวเอง เพิ่มแรงจูงใจให้ก้าวไปข้างหน้า
●
การเรียนรู้จากความผิดพลาดจำเป็นต้องรู้จักตัวเองและถ่อมตน
ไม่ขุ่นเคืองในความสำเร็จของผู้อื่น
●
อธิบายง่ายๆ คือ ไม่อิจฉาตาร้อน ไม่เปรียบเทียบความร่ำรวย สถานะ รูปลักษณ์ของตัวเองกับผู้อื่น หรืออายเมื่อต้องอยู่กับคนที่ประสบความสำเร็จ
●
ก้าวไม่ใส่ใจกับหนทางการประสบความสำเร็จของตัวเองโดยไม่ขุ่นเคืองในความเจริญรุ่งเรืองของคนอื่นจะดีกว่า
●
หยุดเน้นจุดอ่อนของตัวเอง ไม่ดูหมิ่นความสำเร็จของคนอื่น หยุดพยายามค้นหาว่าความยุติธรรมคืออะไร
●
เมื่อคุณสามารถชื่นชมในความสำเร็จของผู้อื่นได้ คุณจะได้รับแรงจูงใจ แรงบันดาลใจ
●
ใส่ใจในจุดแข็งของตัวเอง และร่วมมือแทนที่จะแข่งขันกับทุกคน
ไม่ยอมแพ้หลังจากความล้มเหลวครั้งแรก
●
แค่ล้มเหลงครั้งหนึ่งไม่ได้หมายความว่าจะล้มเหลวอีกครั้ง
●
ความอดทนเป็นตัวทำนายความสำเร็จได้ดีกว่าไอคิว
●
มองความล้มเหลวเป็นโอกาสในการเรียนรู้ และมุ่งมั่นที่จะลองอีกครั้งเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
●
ใส่ใจกับการพัฒนาความเชี่ยวชาญของตัวเองแทนที่จะมัวโอ้อวดมัน
ไม่กลัวการอยู่คนเดียว
●
ความเข้มแข็งทางใจต้องการให้คุณเอาตัวเองออกจากความยุ่งเหยิงของชีวิตประจำวันเพื่อไปจดจ่อกับการเจริญเติบโต
●
การใช้เวลาอยู่คนเดียวจุดประกายความคิดสร้างสรรค์
●
การอยู่คนเดียวอาจทำให้เราเข้าใจในผู้อื่นมากขึ้น
●
เอาใจใส่ความรู้สึกของตัวเอง หลีกห่างจากเทคโนโลยีแล้วเพิ่มเวลาแห่งความสงบให้มากขึ้นในชีวิตประจำวัน
●
เรียนรู้การทำสมาธิ
ไม่รู้สึกว่าโลกติดค้างอะไรพวกเขา
●
แทนที่จะมีความสุขกับทุกสิ่งที่คุณมี และทุกอย่างที่คุณมีอิสระจะทำ คุณจะจดจ่ออยู่กับทุกสิ่งที่คุณไม่มี และไม่สามารถทำได้ คุณมีแนวโน้มที่จะพลาดหลายสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตไป
●
ใส่ใจกับการให้ ไม่ใช่การรับ
●
ใส่ใจในความพยายามของคุณ ไม่ใช่ความสำคัญของคุณ
●
รับรู้ข้อบกพร่องและจุดอ่อนของตัวเอง
ไม่คาดหวังผลลัพธ์ทันที
●
อยากลดน้ำหนัก 10 กิโล ภายในวันเดียว (ควรสร้างความคาดหวังที่สมเหตุสมผล)
●
นำไปสู่อารมณ์เชิงลบและความไม่สบายใจ และอาจทำลายเป้าหมายของคุณ
●
มีความอดทน นึกถึงผลลัพธ์และการฉลองความสำเร็จ
●
อย่ามองหาทางลัดจนหลีกเลี่ยงสิ่งจำเป็นในการไปสู่เป้าหมาย
#สรุปในสรุป เป็นหนังสือที่ให้แง่คิดและดึงสติ ช่วยให้เข้าใจความจริงของชีวิต ความรู้สึกทางอารมณ์ อาจนำมาใช้ไม่ได้ในทุกสถานการณ์ในไทย แต่สามารถนำมาปรับปรุงวิธีคิด ช่วยให้เราอยู่กับความเป็นเหตุเป็นผล
หนังสือเหมาะมากสำหรับคนที่กำลังมีปัญหาหรือกำลังมีความรู้สึกแย่ๆ ถ้าได้อ่านและมองโลกได้เข้าใจ น่าจะช่วยให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ผ่านมา หวังว่าจะทำให้ทุกคนมีพลังบวกได้มากกว่าเดิม
#AMPiVERT #BookReview #รีวิวหนังสือ
หนังสือ
รีวิวหนังสือ
พัฒนาตัวเอง
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย