16 เม.ย. 2023 เวลา 09:32 • ไลฟ์สไตล์

สงครามสาดน้ำ

”สงกรานต์” ในไทย
ภาพผู้ชายอายุอานามก็ไม่น้อยแล้วอาจจะประมาณ 50 ปีกว่า ๆ มีหนวดเครา ค่อย ๆ ประคองขันพลาสติกที่มีน้ำอยู่ ในมือ เดินมาข้าง ๆ รถ
สายตามุ่งมั่นจับจ้องไปที่เป้าหมาย คือ กลุ่มวัยรุ่นนั่งอยู่ท้ายรถกะบะ
พอได้จังหวะคุณลุงก็สาดน้ำออกไปเต็มเหนี่ยว ซึ่งได้ผล กลุ่มเด็กวัยรุ่นต่างร้องฮือฮาเมื่อโดนน้ำเย็นกระทบผิวกาย คุณลุงยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ
ฉันมองบรรยากาศนี้แล้วอมยิ้มในฐานะผู้สังเกตการณ์ในรถ จู่ ๆ มีผู้หญิงสาวคนหนึ่งเคาะกระจกรถ เธอยกมือไหว้ฉัน ในมือมีกระป๋องแป้งเด็กแคร์ ตามสัญชาตญานฉันหมุนกระจกรถลง เพราะคิดว่าเป็นคนรู้จักกัน แต่ฉันทำพลาด เธอคนนี้ทำภาษามืออยากจะทาแป้งให้ฉัน ดูเธอสุภาพอ่อนน้อม ฉันเลยพยักหน้า แล้วเธอค่อย ๆ ยื่นมือมาบรรจงปะแป้งที่ใบหน้าฉันอย่างนุ่มนวล
หลังโควิดผ่านไปสามปีที่ประเทศไทยงดประเพณีเล่นน้ำสงกรานต์ ปีนี้กลับมาเป็นปีแรก ซี่งเมื่อวานเป็นวันสุดท้าย ฉันถือโอกาสขึ้นออกไปสัมผัสบรรยากาศกับหลานๆ วัยรุ่น
รถกะบะท้ายรถเต็มไปด้วยวัยรุ่นอัดกันแน่น เพราะมีเพื่อนของเพื่อนของหลาน ต่างก็อยากขึ้นรถน้ำ รถคลานไปตามถนนอย่างช้า ๆ
บรรยากาศสองข้างถนน ผู้คนคราคร่ำเหมือนเกิดสงคราม ท้องถนนกลายเป็นสนามรบ แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายรับ ตั้งค่ายริมถนนพร้อมอาวุธครบมือทั้งน้ำเป็นถัง ๆ ปืนฉีดน้ำ สายยาง แอบคอยดักซุ่มโจมตี
อีกฝ่ายเป็นฝ่ายจู่โจม มาในรูปรถถัง(กะบะ) ที่บรรทุกนักรบมาเต็มคันรบพร้อมอาวุธครบมือเช่นกัน เมื่อรถค่อย ๆ เคลื่อนตัวมาใกล้ ฝ่ายที่รอดักซุ่มโจมตี พอได้ระยะแล้วก็ลงมือสาดน้ำใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็ว ฝ่ายรถถัง(กะบะ) ก็จะยิงสวนกลับ ทั้งสองฝ่ายต่างต่อสู้รบกันอย่างดุเดือด ไม่นานสงครามก็ยุติลง ไม่มีใครแพ้ชนะ แต่ทั้งสองฝ่ายหน้าตาอิ่มเอม ปลื้มปิติกับผลงานตัวเอง รถขับอ้อมวนเวียนอยู่ในตัวเมืองเหมือนเต่าคลาน ได้ยินเสียงร้องวี้ดว้ายสนุกสนานท่ามกลางเสียงเพลงจากลำโพงที่เปิดกันเสียงดังกระหึ่ม
เทศกาลเล่นน้ำเกิดขึ้นมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงเดือนเมษายนของประเทศไทย ซึ่งการเล่นน้ำมีวัตถุประสงค์ลดอุณหภูมิความร้อนจากสภาพอากาศ การได้ออกมาพบกันของวัยรุ่นในสมัยโบราณ และการทำความเคารพผู้ใหญ่ในรูปแบบของการรดน้ำดำหัว ทำให้ครอบครัวได้พบปะพร้อมหน้ากัน
แม้รูปแบบประเพณีในปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยแต่วัตถุประสงค์นั้นยังคงอยู่เช่นเดิม
ฉันเพิ่งเห็นข่าวเทศกาลดนตรี Songkran Music Festival S2O งานสงกรานต์ระดับชาติของไทย กลายเป็นงานระดับโลกไปแล้วในสายตาของคนต่างชาติ ในงานนี้ต่างชาติตีตั๋วเข้ามาชมกว่า 50 %
งานสงกรานต์ประเทศไทย อาจเรียกได้อย่างเต็มปากว่าเป็น soft power ของไทย เพราะสามารถเชื่อมความสัมพันธ์ของผู้คนไม่ว่าจะเป็นภายในครอบครัว หรือ คนในสังคม ให้กลับมาสร้างกิจกรรมร่วมกัน ผ่อนคลายความเครียดจากภาระหน้าที่ปีละครั้ง มีโอกาสส่งยิ้มให้กันและกันแม้เป็นคนแปลกหน้าโดยไม่เคอะเขิน สร้างสังคมให้อบอุ่นมีกำลังใจ ซึ่งหาไม่มีที่ไหนอีกแล้วนอกจาก “ไทยแลนด์โอนลี่”
อ้อยคราฟต์ไดอารี่
บทความที่ 9/30
โฆษณา