16 เม.ย. 2023 เวลา 14:37 • ไลฟ์สไตล์

วัยมือเปียก เราเข้าใจอะไรผิดไหม กับการรดน้ำดำหัว

ถึงเวลาก็มาเอง....
หมอ.... มาที่โอพีดีด้วยค่ะ....
มีอะไร มีเคสเหรอ...
หมอมาเถอะ....
จ้าาาาา......
หมอมานั่งตรงนี้.... หัวหน้าพยาบาลบอก....
มองปราดไปด้วยสายตา....
ไม่นั่งได้มั้ย .... เดี๋ยวจะเป็นคนรดให้
ไม่ได้ค่ะ หมอนั่งตรงนี้....
นั่งก็ได้ แต่เอาป้าตุ๋ย (พี่ผู้ช่วยพยาบาล อาวุโสมากแล้ว)มาด้วย มานั่งข้างๆหมอ หมอจะรดป้าตุ๋ยด้วย
ก็เรียงกันไปค่ะ หมอสามคน พี่ผู้ช่วยพยาบาลหนึ่งคน หัวหน้าพยาบาลเค้าอ่อนกว่าเรา เค้าก็ไม่ยอมมานั่ง....
บรรยากาศสดชื่นดี ได้มีโอกาสขอโทษกัน และอวยพรกันและกัน
เหมิดดดดด.... แนวสิเว้าสิเถียง ปากบ่ออก...
อายุมันก็ได้แล้วนะ.... มองไปหน้าใสๆ รุ่นลูกได้แล้วทั้งนั้น
ยอมนั่งสงบเสงี่ยม เป็นทั้งผู้รด และผู้ถูกรด...
วันสงกรานต์ 13-15 เมษายน แต่ละวันความหมายแตกต่าง
วันที่ 13 เมษายน คือวันมหาสงกรานต์ เป็นวันส่งท้ายปีเก่า เป็นวันสรงน้ำพระ
วันที่ 14 เมษายน คือวันเนา หรือวันกลาง
วันที่ 15 เมษายน คือวันเถลิงศก หรือวันขึ้นปีใหม่
การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่
เป็นประเพณีโบราณจากทางภาคเหนือของไทยค่ะ จะทำในวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ คือวันที่ 15 เมษายน คือวันเถลิงศก (วันฉลองขึ้นปีใหม่) เพียงวันเดียว ไม่ใช่จะเลือกทำวันใดก็ได้ แต่ปัจจุบันอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามความสะดวก
การรดน้ำดำหัว เป็นการแสดงความระลึกถึงคุณความดีของผู้ใหญ่จากผู้น้อย เป็นการขอขมาลาโทษที่อาจมีการล่วงเกินผู้หลักผู้ใหญ่ อีกทั้งเป็นการขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตัวเองในโอกาสสเริ่มต้นใหม่ ....
การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่.... คือเราไปขอโทษท่านที่เคยล่วงเกินท่านไว้ และขอพรจากท่านเพื่อความเป็นสิริมงคลของตน .... แค่ได้ขอโทษผู้มีพระคุณ ก็เท่ากับเอาสิ่งไม่ดีออกจากชีวิตแล้วค่ะ
แต่ แต่ แต่....
คนยุคนี้มักเข้าใจผิดคิดว่า
การไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่คือเราไปกราบให้พรท่าน
จริงๆแล้วไม่ใช่
ก็พยายามแก้ที่ตัวเอง เวลารดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เราจะขอโทษท่านที่อาจจะเผลอล่วงเกิน และขอพรจากท่าน
สมัยก่อน การรดน้ำดำหัว จะมีการเตรียมผ้าใหม่สำหรับผู้หลักผู้ใหญ่ 1สำรับ คือผ้านุ่ง และผ้าห่มแล้วก็เป็นการเอาน้ำตักรดตัวท่านจริงๆ อาบน้ำ สระผม (ดำหัว) ให้ผู้หลักผู้ใหญ่ด้วยน้ำส้มป่อย หรือน้ำมะกรูด....
ส้มป่อย มะกรูดใช้ในพีธีมงคล ของขลังนะ คนไทยเชื่อว่าเอาไว้ล้างสิ่งอัปมงคลออกจากตัว
ส่วนการละเล่นเพื่อความสนุกสนาน ที่นิยมในงานสงกรานต์ก็คือการสาดน้ำของหนุ่มสาว ที่จริงเป็นช่วงเวลาที่คนหนุ่มสาวยุคก่อน ได้มีโอกาสพบปะ เกี่ยวพาราสีกัน
ไปจนถึงการขนทรายเข้าวัด การก่อเจดีย์ทราย อันนี้ตามความเชื่อคือแต่ละครั้งที่เราเดินเข้สไปในวัดเวลาเดินออกมาก็จะมีดินมีทรายติดเท้าออกมาด้วย เราเลยต้องขนกลับเข้าไปคืนทุกๆปีในช่วงสงกรานต์....
สงกรานต์ไม่ใช่ สงครามสาดน้ำ....
เรามีดีกว่าเล่นน้ำเยอะค่ะ.... เขียนพอกรุบกริบให้เด็กๆพอได้อ่าน....
โฆษณา