สะพานผุด จ.ลพบุรี...ความงดงามของสะพานที่อาจจะอ้างว้างที่สุดในโลก
หมุนเข็มนาฬิกาย้อนกลับไป 30 กว่าปีก่อน เมื่อครั้งที่ยังไม่มีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
พื้นที่ที่ปัจจุบันจมอยู่ใต้ผืนน้ำอันสงบนิ่ง เคยมีชีวิตชีวาและถูกใช้สอยเหมือนกับแผ่นดินทั่วไป
มีสิ่งปลูกสร้าง มีถนนหนทาง และมี ‘สะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก’ ที่เชื่อมโยงผู้คนสองฝั่งเข้าด้วยกัน
จนกระทั่งในเดือนพฤศจิกายนปี พ.ศ.2542 ที่น้ำกว่าเจ็ดร้อยล้านลูกบาศก์เมตรเข้ามาแทนที่ แผ่นดินที่เคยเต็มไปด้วยการสัญจร จึงจมอยู่ในน้ำนับตั้งแต่นั้น
รอวันถูกลืม
ยี่สิบกว่าปีผ่านไป น้ำอาจจะลบหลายสิ่งออกจากความทรงจำ แต่มันไม่อาจจะทำแบบนั้นกับสะพานคอนกรีตเก่าๆ ที่ปัจจุบันถูกเรียกขานด้วยชื่อ “สะพานผุด”
เพราะในทุกฤดูร้อนของทุกปี สะพานแห่งนี้จะโผล่ขึ้นมายืนตระหง่านกลางผืนน้ำอีกครั้ง
ด้วยลักษณะที่ดูคล้ายฉากในหนังโลกาวินาศ ที่นี่จึงโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นของจังหวัดลพบุรี ที่ใครเห็นก็ต้องตื่นตะลึง
โดยเฉพาะเมื่อใช้โดรนบินขึ้นไปเก็บภาพมุมสูง ที่จะทำให้เราได้เห็นสะพานผุดยืนอยู่กลางน้ำอย่างเดียวดาย ราวกับว่ามันเป็นสะพานที่อ้างว้างที่สุดในโลก
ยิ่งดูยิ่งเหงา แต่ก็เป็นความเหงา ที่ยิ่งมอง ยิ่งงดงาม
สะพานผุด เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี
[ต่อเนื่องจากวันเดย์ทริปลพบุรีครั้งก่อน…]
หลังจากเต็มอิ่มกับบรรยากาศน่ารักๆ ที่ทุ่งหญ้าบ้านท่าฤทธิ์ เราก็ขับรถต่อมาอีก 10-15 นาที เพื่อมาที่อบต.มะนาวหวาน ซึ่งเป็นจุดนัดพบขึ้นเรือไปหาสะพานผุด
โดยมีน้าสมพงษ์กัปตันเรือของเรา รอต้อนรับด้วยรอยยิ้ม
(ใครสนใจสามารถโทรหาน้าสมพงษ์ได้นะครับ 086-026-8162 รับประกันความประทับใจ)
ขับรถจากทุ่งหญ้าบ้านท่าฤทธิ์ 10-15 นาทีมาจอดที่อบต.มะนาวหวาน
และนี่คือน้าสมพงษ์กัปตันของเรา
พอทักทายน้าสมพงษ์เสร็จ เราก็ขึ้นเรือและออกจากฝั่งตอนประมาณ 17:00 น. ซึ่งใช้เวลาราว 20 นาทีก็ไปถึงสะพานผุด
ไม่นานนักก็เริ่มเห็นสะพานผุด
เย่...ถึงแล้ว!
ต้องบอกตามตรงว่าเราสัมสัมผัสได้ถึงความอ้างว้างตั้งแต่แรกเห็น ในขณะเดียวกันมันก็ดูงดงามน่าค้นหา...
เดินเล่นเหงาๆ บนสะพานผุด
พอประมาณสัก 17:30 แสงเริ่มเป็นสีทอง ผมก็เลยตัดสินใจปล่อยโดรนทะยานขึ้นไปบนฟ้า
ซึ่งนั่นทำให้เราได้เห็นสะพานผุดในมุมมองที่งดงาม อลังการ และอ้างว้างยิ่งกว่าเดิม
ยิ่งแสงสวยขึ้นเท่าไหร่ สะพานผุดก็ยิ่งดูน่าค้นหามากขึ้นเท่านั้น
อดคิดไม่ได้ว่านี่อาจจะเป็นหนึ่งในสะพานที่อ้างว้างที่สุดในโลก
ไม่แปลกใจเลยที่หลายคนยกให้เป็น Unseen ลพบุรี
ผมบินวนถ่ายรูปราว 20-30 นาที แบตโดรนก็หมดพอดีครับ นั่นเท่ากับว่าได้เวลาเดินทางกลับ
น่าเสียดายที่เตรียมแบตมาน้อยไป เพราะหากรออีกนิด ก็จะได้เจอแสงสุดท้าย แต่ก็นะ...เท่าที่ได้เห็นก็ถือว่าตราตรึงใจมากแล้ว
วันนั้นเราก็นั่งเรือกลับไปที่ฝั่งราว 18:30 ครับ แล้วก็เดินทางต่ออีก 2-3 ชั่วโมงกลับถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ เป็นจบภารกิจลพบุรีวันเดย์ทริปโดยสมบูรณ์
บรรยากาศขณะบอกลาสะพานผุด
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับคนที่สนใจ
1.สะพานผุด อยู่ในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี
2.จะโผล่มาจากน้ำให้เห็นอย่างชัดเจนและสวยที่สุดในฤดูแล้ง ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน
3.ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือ 17:00 จนถึงพระอาทิตย์ตกดิน
4.สิ่งสำคัญคือ หากจะบันทึกภาพของสะพานผุดให้สมบูรณ์แบบที่สุด จำเป็นต้องมีโดรนไปด้วยนะครับ ไม่งั้นก็แทบจะไม่ต่างกับการไปเดินเล่นบนสะพานทั่วๆ ไปเลย
5.การไปที่สะพานผุดต้องนั่งเรือประมาณ 20 นาที
6.โดยมีเรือบริการนำเที่ยวด้วยอัตราบริการ 500 บาทต่อลำ (นั่งได้ 5 คน)
7.จุดนัดพบอยู่ที่ "อบต.มะนาวหวาน"
8.สนใจติดต่อ 086-026-8162 คุณน้าสมพงษ์
ใครกำลังมองหาพิกัดสวยๆ สำหรับฤดูร้อนนี้ อยากให้เก็บสะพานผุดไว้พิจารณา
เรื่องราวจากสะพานที่อาจจะเป็นหนึ่งในสะพานที่อ้างว้างที่สุดในโลก รวมถึงเรื่องราวในซีรีส์วันเดย์ทริปลพบุรี จบลงแล้วครับ
หวังว่าจะชอบ และมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
เช่นเคยครับ ขอบคุณจากใจที่อ่านมาจนบรรทัดสุดท้าย มันมีความหมายกับผมมากจริงๆ
แล้วเจอกันใหม่ในเรื่องราวจากการเดินทางในครั้งหน้า
วันนี้สวัสดีครับ
ด้วยรัก จากหมาก
ให้การเดินทางของผม
เป็นหนังสือเล่มโปรดของคุณ
The Walker
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
