18 เม.ย. 2023 เวลา 10:10 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Air (2023) – การเดิมพันสร้างตำนานผ่านรองเท้า

หลายต่อหลายครั้ง ที่การสรรสร้างสิ่งใหม่มักไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การจะเพิ่ม หรือเสริมคุณค่าลงไปในตัวมัน ก็เป็นอีกเรื่องที่ยากขึ้นไปอีกระดับ เราจึงได้เห็นการสร้างแบรนด์ลงไปในเครื่องอุปโภคบริโภค หลายสินค้าที่ดูธรรมดา กลับกลายเป็นของมีค่าและมีระดับ เฉกเช่น รองเท้า ที่ถูกผลิตเพื่อห่อหุ้มเท้าและใช้ในการเคลื่อนไหว ก็ถูกแต่งแต้มสี และสร้างคุณค่าเรื่องราวลงไปในนั้น
ซึ่งหากจะพูดถึงรองเท้าขึ้นชื่อสุดในวงการรองเท้าบาส มันก็คือ “Air Jordan” ซึ่งเรื่องราวของการสร้างรองเท้าไลน์นี้ ก็กลับกลายมาเป็นผลงานการกำกับล่าสุดของ เบน แอฟเฟล็ค อย่าง Air
Air เล่าเรื่องราวของบริษัทรองเท้าอย่าง ไนกี้ ในช่วงปี 1984 ที่บริษัทอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อรอมร่อ ที่แผนกบาสเก็ตบอลของบริษัทอาจถูกยุบ และไม่อาจมาพร้อมแผนการที่ดีพอจะทำให้ผลประกอบการอยู่ในระดับที่พึงพอใจได้ ซันนี่ วัคเคโร หัวหน้าฝ่ายเฟ้นหานักกีฬาบาสเก็ตบอลหน้าใหม่ จึงมาพร้อมแผนที่อาจจะฉุดไนกี้ให้กลายเป็นผู้นำในตลาดรองเท้า ด้วยการดึงสตาร์บาสหน้าใหม่อย่าง ไมเคิล จอร์แดน มาเซ็นสัญญา พร้อมเข็นรองเท้าแบรนด์ใหม่ที่ผลิตและออกแบบมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ ภายใต้แบรนด์ “Air Jordan”
ส่วนตัวไม่ได้เป็นแฟนรองเท้าขนาดนั้น แต่ก็พอได้ยินชื่อไลน์รองเท้าของแบรนด์นี้อยู่บ้าง เรื่องราวของหนัง จึงขับเน้นไปที่วีรกรรมเดิมพันครั้งใหญ่ของ ซันนี่ วัคเคโร ในการวางแผนกลยุทธ์การตลาด และการวางแผน เพื่อโน้มน้าวให้บุคลากรภายในบริษัทไนกี้ นั่นรวมถึง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ร็อบ สตราสเซอร์, ประธานไนกี้อย่าง ฟิล ไนท์ หรือกระทั่ง พ่อและแม่ รวมถึงเจ้าตัวไมเคิล จอร์แดน เชื่อมั่นในแผนพลิกแบรนด์ดิ้งอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้
เป็นโจทย์สำคัญ ว่าตัวหนังจะเล่าการพลิกฟื้นแบรนด์อันดับสามให้กลายมาเป็นที่นิยม ให้ออกมาสนุกในสายตาคนดูได้อย่างไร เนื้อหาของหนังจึงเป็นการค่อย ๆ กะเทาะจุดอ่อนของแบรนด์ไนกี้ ณ ช่วงเวลานั้น พลางให้เห็นสายตาอันเฉียบขาดและแหลมคมของซันนี วัคเคโร ที่เห็นซึ่งพรสวรรค์อันล้นเหลือ และเดินหมากอย่างห้าวหาญ ด้วยการจะทุ่มเงินว่าจ้าง นักบาสดาวรุ่งอย่าง “ไมเคิล จอร์แดน” เพียงคนเดียว แทนที่จะใช้เงินก้อนเดียวกันนี้ หว่านนักบาสดาวรุ่งถึงสองหรือสามคน
แต่กระนั้นเอง ซันนี ก็ต้องหาทางวางหมากในการหว่านล้อมให้ครอบครัวจอร์แดนสนใจไนกี้ และวางข้อเสนอที่สูงพอจะเอาชนะใจพวกเขา จากข้อเสนอในฟากของคอนเวิร์สและอะดิดาสให้จงได้
แม้เนื้อหาจะเดาได้ (แหงล่ะ) แต่ด้วยลูกเล่นของตัวบท ที่จัดวางบทสนทนาที่เข้มข้น พอจะทำให้เราได้เข้าไปนั่ง ท่ามกลางแวดวงนักการตลาด ด้วยประโยคสนทนาที่ทำให้เราได้เข้าใจระบบความคิด ของขั้นตอนการประชาสัมพันธ์แบรนด์ ด้วยกลยุทธ์ Air Jordan ที่จะยกระดับและคุณค่าของทั้งตัวไมเคิล จอร์แดน และไลน์รองเท้าไปพร้อม ๆ กัน อีกทั้งยังวางจังหวะมุกให้เหล่าตัวละครได้อย่างชาญฉลาด ก็เป็นการสร้างมิติและเสริมเสน่ห์ให้กับเหล่าตัวละคร จนเราสามารถติดตามไปได้จนจบ
นอกเหนือจากทีมนักแสดง ที่ฉายแววได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งในรายของแมตต์ เดม่อน และโดยเฉพาะ ไวโอล่า เดวิส การกำกับของเบน แอฟเฟล็ค ก็เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ทั้งการดุลด้วยองค์ประกอบของการเล่าเรื่องราวที่ลื่นไหล น่าติดตาม อีกทั้งยังเสริมให้เห็นบรรยากาศของยุคสมัยนั้นได้อย่างเห็นภาพ ผ่านการจัดวางมอนทาจและงานสร้าง หรือการคัดเลือกเพลงมาใช้ในแต่ละช่วง ก็เสริมบรรยากาศของเรื่องให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
หากมองเพียงครู่เดียว Air อาจจะเป็นเพียงหนังประชาสัมพันธ์รองเท้าไนกี้ไปโดยปริยาย หากแต่นัยยะเรื่องราวทั้งหมด มันกลับพูดถึงเรื่องราวที่อเมริกันชนมักจะชื่นชอบ นั่นคือ การเดิมพันแห่งชีวิตของซันนี วัคเคโร ฉากแรกตอนเปิดเรื่องที่อาจดูไม่เกี่ยวข้องเลยด้วยซ้ำ หากแต่มันช่วยเสริมบุคลิกของเขาและเนื้อหาของหนังได้อย่างดี คือการเดินทางไปเล่นพนันในลาสเวกัส
และใช่ การวางแผนสร้างไลน์รองเท้าเพื่อ ไมเคิล จอร์แดน โดยเฉพาะ คือการเดิมพันอันใหญ่หลวงของซันนี และการเดิมพันเช่นนี้ มันก็เป็นเรื่องปกติของแต่ละแคมเปญของการวางแผนการตลาดจากแบรนด์ที่มีในตลาด ว่าด้วยโจทย์อันยิ่งใหญ่ว่า “ฉันจะเอาชนะใจคนด้วยของชิ้นนี้อย่างไร?”
สายตาของซันนี ที่ไม่เพียงแต่จะเห็นพรสวรรค์ของจอร์แดน แต่เขาพร้อมจะทุ่มหมดหน้าตัก เพื่อดึงตัวเจ้าหนูคนนี้กลายเป็นหน้าตาของแบรนด์ ที่ผู้คนอเมริกาพร้อมจะหลงรักและเทใจ พร้อมทั้งมอบคุณค่าบางอย่างลงในตัวรองเท้า ดั่งคำพูดยอดฮิตในเรื่องที่ว่า “รองเท้าจะเป็นรองเท้า จนกว่าจะมีคนสวมมัน” และจากกลยุทธ์ทั้งหมดทั้งมวล จึงไม่แปลกใจที่ผลลัพธ์ลงเอยจะเป็นเช่นนั้น
หากแต่สิ่งที่ทำให้ Air อยู่เหนือกว่าเรื่องราวที่ว่าด้วยนายทุนผิวขาวพยายามหว่านล้อมข้อเสนอ เพียงเพื่อนำเอาชื่อเสียงและตัวตนของคนดำมาสร้างผลประโยชน์นั้น คือการทำให้คนดำเหล่านั้น ยังคงมีสิทธิและเสียงเพื่อรักษาผลประโยชน์ไว้ได้อย่างเอกอุ จากที่เห็นจากการยื่นข้อเสนอเสริมของเดอโรลิส แม่ของไมเคิล จอร์แดน ในช่วงท้าย ที่ไม่เพียงแต่จะนำระบบนายทุนมาเปิดเปลือยผ่านถ้อยคำสนทนาทางโทรศัพท์ แต่มันก็ช่วยทำให้เราเห็นถึงการต่อสู้ทางผิวสีได้อย่างแยบยลอีกด้วย
สรุปแล้ว Air คือหนังชีวประวัติที่นำเอาเรื่องราวการสร้างแบรนด์ “Air Jordan” ที่มาพร้อมกลเม็ดและกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดูน่าเบื่อ มาขัดเกลาและเล่าให้กลายเป็นการเดิมพันแห่งชีวิต ตามวิถีอเมริกันชนที่ดูสนุก จากบทหนังที่เต็มไปด้วยลูกเล่นและความเข้มข้นจากบทสนทนาที่ชาญฉลาด พลางด้วยทีมนักแสดงแบกรับแบกสู้ และการกำกับของเบน แอฟเฟล็ค ที่ช่วยเสริมกลิ่นอายและบรรยากาศฉากหลังยุคนั้่นได้ชัดเจนขึ้น
แถมด้วยเนื้อหาลงท้าย มันยังเป็นการสร้างเสริมแรงบันดาลใจในการผลักดันคุณค่าภายในตัว และวิพากษ์วิถีนายทุนได้น่าคบคิดอีกด้วย
4 / 5
Air (2023)
Directed by Ben Affleck
Written by Alex Convery

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา