17 เม.ย. 2023 เวลา 10:49 • หนังสือ

10 หนังสือที่ช่วยฮีลใจ เเละมอบพลังบวกให้กับผู้อ่าน

สวัสดีครับ โฮ่งเอง (หมาหนังสือ) วันนี้โฮ่งจะมาเเนะนำ 10 หนังสือที่ช่วยฮีลใจ เเละมอบพลังบวกให้กับผู้อ่าน ในช่วงวันหยุดยาว (เทศกาลสงกรานต์) ซึ่งโฮ่งเชื่อได้เลยว่า มีบางคนที่ไม่ได้ออกไปเล่นน้ำสงกรานต์ เเต่จะใช้เวลาหยุดยาวนี้ ไปกับการอยู่กับตัวเอง เพื่อพักผ่อน พักฟื้นร่างกายเเละจิตใจนั้นเอง โฮ่งหวังว่าหนังสือทั้ง 10 เล่มจะช่วยเยียวยาจิตใจของผู้อ่าน ไม่มากก็น้อย เเละนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การดำเนินชีวิตของเราดีกว่าเดิม
เเม้ในวันที่เราเผชิญกับปัญหา เราจะสามารถผ่านมันไปให้ได้ เเละสุดท้ายเราทุกคนย่อมมีคุณค่าในตัวเองเสมอ โปรดรักตัวเอง ใจดีกับตัวเองให้มากๆ เเละเชื่อเถอะว่า ในวันที่ใครมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเรา อย่างน้อยมีตัวเราเองนั้นเเหละที่จะมองเห็นคุณค่าในตัวเราเอง
เล่มที่ 1 ยังไม่ทันเข้างาน ก็อยากกลับบ้านแล้ว
โฮ่งเชื่อว่า หลายๆ คนเคยรู้สึก "เหนื่อยจัง ไม่ไปทำงานก็ไม่ได้ จะลาออกก็ไม่ได้", "เช้านี้ก็เหมือนเดิม ไม่อยากตื่นมาทำงานเลย", "เมื่อไรถึงจะรู้สึกมั่นคงนะ", "งานที่เหมาะกับฉันมีอยู่จริงด้วยเหรอ" ถ้าเคยรู้สึกเเบบนี้ โฮ่งบอกได้เลยว่าหนังสือเล่มนี้ช่วยฮีลใจผู้อ่านได้ครับ เนื้อหาในเล่มนี้จะมาไขอย่างหมดเปลือก ให้ผู้อ่านได้เห็นเส้นทางชีวิตที่หลากหลาย วิเคราะห์ เส้นทางชีวิตที่เหมาะสม และระบายสิ่งที่อึดอัดใจอย่างเต็มที่
เล่มที่ 2 ชีวิตฉันแบกอะไรไว้มากเกินไปหรือเปล่านะ (Repacking Your Bags)
“ชีวิตฉันแบกอะไรไว้มากเกินไปหรือเปล่า” เป็นคำถามที่โฮ่งเองเชื่อว่าหลายๆ คน เคยถามตัวเอง หนังสือเล่มนี้ไม่มีคำตอบ มันจะมีก็แต่คำถามมากมายซึ่งถ้าตอบตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมา ก็จะสามารถมีชีวิตที่ดีได้อย่างแท้จริง ได้เวลาที่ผู้อ่านต้องลองสำรวจชีวิตที่ผ่านมา โละเรื่องสัพเพเหระ ปลดเปลื้องสัมภาระที่ไม่จำเป็น แล้วจัดกระเป๋าใหม่ให้ชีวิต เเละจะได้พบชีวิตที่ดีขึ้นกันเถอะ
เล่มที่ 3 เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด
หนังสือเล่มนี้ได้รับการยอมรับจากหลายๆ คน ที่อ่านหนังสือเล่มนี้ไปเเล้ว ว่า “เป็นหนังสือที่อยากให้คนอายุยังน้อย หรือช่วงวัยทำงานได้อ่าน” โดยหนังสือเล่มนี้เขียนโดย คิมรันโด ที่ปรึกษาวัยรุ่นแห่งสาธารณรัฐเกาหลีใต้ คิมรันโด เขียนหนังสือเล่มนี้
เพราะต้องการให้ลูกชายซึ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่นอ่าน เขาเล่าเหตุการณ์ที่พบเจอกับ ลูกศิษย์หลากหลายประเภทในมหาวิทยาลัย ช่วยชี้แนวทางวัยรุ่นเกี่ยวกับเรื่อง การเรียน การเก็บเงิน การหางานทำที่มีความสุขและสามารถมีเงินเก็บได้เป็น กอบเป็นกำ ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อเด็กอยู่ในช่วงวัยใกล้เรียนจบ กำลังจะเข้าสู่วัยทำงาน มักจะมีความกังวลเรื่องเหล่านี้มากเป็นพิเศษ
เล่มที่ 4 เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ (INTO THE MAGIC SHOP)
หนังสือเล่มนี้ช่วยโฮ่งช่วงที่ดิ่งจากปัญหาหน้าที่การงานได้อย่างมาก เเละช่วยเปิดทางให้โฮ่งได้เข้ามาสู่วงการอ่านหนังสือ (ซื้อหนังสือมาดอง) เพราะฉะนั้น โฮ่งรักหนังสือเล่มนี้มากๆ เลยครับ หนังสือเล่มนี้จะพูดถึง จิม หรือศาสตราจารย์เจมส์ อาร์. โดตี ประสาทศัลยแพทย์มือหนึ่งจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
เมื่อครั้งเป็นเด็กชายวัย 12 ปี ซึ่งได้เจอปัญหาของครอบครัวที่ผุพัง พ่อติดเหล้า แม่เป็นโรคซึมเศร้าและอัมพาต ในวันหนึ่งที่ชีวิตมืดแปดด้าน เด็กชายจิมในวัย 12 ปี เดินเข้าไปในร้านขายของมายากลแห่งหนึ่งเพื่อซึ้อปลอกนิ้วพลาสติก แต่กลับได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งนามว่า "รูธ" ผู้สอนเทคนิคให้เขาก้าวข้ามความเจ็บปวด และใช้พลังของสมองและหัวใจเปลี่ยนชีวิตให้พบสิ่งมหัศจรรย์ จนจิมได้กลายมาเป็นศาสตราจารย์และแพทย์ที่มีชื่อเสียง ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เมื่อสมองและหัวใจสอดประสาน ปาฏิหาริย์ใดก็เป็นจริงได้
เล่มที่ 5 ป่านนี้เขานั่งกินไอติมสบายใจเฉิบไปแล้ว
เชื่อไหมว่าหนังสือเล่มเล็กเล่มนี้ โฮ่งพกไว้ในกระเป๋าทุกวันอยู่ช่วงหนึ่ง หนังสือเล่มนี้ช่วยโฮ่งมากๆ ในการเล่นโซเชียล หรือตอนมีปัญหากับคนบางคน โดยที่ไม่จำเป็นต้องอ่านบทนี้เสร็จเเล้ว ถึงจะอ่านบทต่อไปได้ เเต่หนังสือเล่มนี้ไม่… สามารถอ่านบทไหน หัวข้อไหนก็ได้ เพราะเล่มนี้เหมือนหนังสือหน้าเหลือง หรือหนังสือสารบัญเเก้ปัญหาชีวิตฉบับเล่มเล็กก็ว่าได้ โดยมีการ์ตูน 4 ช่อง ประกอบเนื้อหาด้วยหละ
เล่มที่ 6 แด่วัย 30 ผู้คิดมาก
Imposter Syndrome หรืออาการคิดว่าตัวเองไม่เก่งทั้งกังวลและหวาดกลัวทางข้างหน้า โฮ่งคิดว่าหลายๆ คนต้องได้เจอเเน่นอน คิมอึนจู เธอไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกาทั้งที่ยังพูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้และกว่าจะสื่อสารความคิดตัวเองได้ดีก็ต้องใช้เวลาถึงสิบปี แต่ตอนนี้เธอคือหัวหน้าฝ่ายออกแบบ User Experience บริษัท Google
ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังมีช่วงที่เผชิญกับภาวะ Imposter Syndrome แต่เธอก็ผ่านมันมาได้และก้าวต่อไปอย่างมั่นใจในวัย 40 เธอจึงเขียนหนังสือเล่มนี้โดยกลั่นกรองจากประสบการณ์จริง ทั้งเรื่องทักษะการทำงาน ทักษะการใช้ชีวิต และเทคนิคการเรียนภาษา ให้ผู้ที่อยู่ในวัย 30 ที่ใกล้จะตระหนักรู้อะไรบางอย่างได้ แต่ก็ยังต้องสั่งสมประสบการณ์อีกมากมายที่อาจหวั่นไหว มีคำถามมากมาย ให้หลุดจากหล่มแห่งความกังวลและหวาดกลัวด้วยคำแนะนำที่อิงประสบการณ์จริง และเปี่ยมด้วยพลังบวก
เล่มที่ 7 เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น (ATOMIC HABITS)
เป็นหนังสือที่โฮ่งอยากให้ทุกคนได้อ่านจริงๆ เล่มนี้สามารถเปลี่ยนชีวิตโฮ่งได้อย่างมาก ATOMIC HABITS เป็นหนังสือขายดีระดับโลกที่มียอดขายหลายล้านเล่ม แปลไปแล้วกว่า 40 ภาษา การันตีความดีงามโดย "New York Times Bestseller" นี่คือหนังสือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนิสัย โดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์มาอ้างอิงว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่เล็กมากๆ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ขึ้นได้อย่างไร
ซึ่งหลักการนี้สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกเรื่อง เช่น การทำงาน การเงิน ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล สุขภาพ ความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าเป้าหมายของเราคืออะไรก็ตาม หนังสือเล่มนี้จะช่วยเปลี่ยนแปลงนิสัยและคงนิสัยดีๆ ไว้ได้นานเท่านาน (หากผู้อ่านพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองแต่ไม่สำเร็จสักที หนังสือเล่มนี้ช่วยผู้อ่านได้ ด้วยการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเพียงวันละ 1% ไม่ว่าเป้าหมายในชีวิตของผู้อ่านคืออะไร ผู้อ่านทำสำเร็จได้อย่างแน่นอน!)
เล่มที่ 8 ค้นพบสิ่งมีค่าที่ชื่อว่าตัวเอง
เล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านเพลินมาก เหมือนครูเงาะเป็นเพื่อนคุยกับเราจริงๆ เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ผสานจากหลากหลายศาสตร์ที่เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน
อาทิ หลักการทางวิทยาศาสตร์ พฤติกรรมศาสตร์ ทฤษฎีด้านจิตวิทยา ข้อมูลทางสถิติ งานวิจัย ไปถึงสัจธรรมคำสอนตามหลักพุทธศาสนา มีทั้งแนวคิด (Mindset) ตัวอย่างสถานการณ์และบทเรียนจากชีวิตจริง (Case Study) ตลอดจนแบบฝึกหัด (Exercise) ที่ลงมือทำเพื่อพัฒนาตนเองได้เลยในขณะที่อ่าน ให้ผู้อ่านรักตัวเอง (Self Love) + เข้าใจคนอื่น (Empathy) มีจุดยืนที่มั่นคงแต่พร้อม ยืดหยุ่นได้ สร้างความสัมพันธ์ที่ราบรื่นและมีคุณภาพแบบไม่ต้องฝืน โดยเเบ่งเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนอดีต ส่วนสร้างปัจจุบัน เเละส่วนอนาคต
เล่มที่ 9 ซ่อมแซมสุขที่สึกหรอ (Emotional First Aid)
ถ้าผู้อ่านเคยเจอ การถูกปฏิเสธ, มีความเหงา, การสูญเสียและเหตุการณ์สะเทือนใจ, มีความรู้สึกผิด, มีความรู้สึกผิด เเละอื่นๆ หนังสือเล่มนี้เหมาะกับผู้อ่านเเน่นอน หนังสือเล่มนี้ คือชุดปฐมพยาบาลทางอารมณ์เบื้องต้น เพื่อบรรเทาอาการแตกสลาย และป้องกันใจอักเสบลุกลาม หนังสือเล่มนี้ถ่ายทอดจากประสบการณ์ของนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาวะทางจิต และประกอบด้วยงานวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ซึ่งศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างจริง โดยนำเสนอเรื่องราวของบาดแผลทางอารมณ์ในหลากหลายรูปแบบที่สร้างความเจ็บปวดและกัดเซาะตัวตนของเรา
เล่มที่ 10 แด่ผู้แหลกสลาย (REASONS TO STAY ALIVE)
เมื่อคุณต้องเผชิญกับโรคซึมเศร้า ความรู้สึกเมื่อคุณต้องเผชิญกับโรคซึมเศร้า, กลัวความสุขจนหัวหดแม้จะต้องการความสุขเหนือสิ่งอื่นใด, ไม่ได้รู้สึกอยากตาย แต่แค่ไม่อยากมีชีวิตอยู่, ไม่เชื่อว่าความเจ็บปวดจะจางหาย และมีแสงสว่างรออยู่ที่ปลายอุโมงค์
แมตต์ เฮก นักเขียนวรรณกรรมชื่อดังชาวอังกฤษ เคยทนทุกข์ทรมาน จากปีศาจล่องหนตัวร้ายที่ชื่อว่า 'โรคซึมเศร้า' เขาเก็บเกี่ยวส่วนเสี้ยวแห่งคืนวัน ที่ต่อกรกับโรคนี้ นับแต่สัญญาณเตือนในวัยเยาว์ ชั่วขณะที่ชีวิตอยู่ห่างความตาย เพียงย่างก้าว สู่โมงยามที่หยัดยืนและผลิบาน พร้อมก้าวข้ามความเจ็บปวด และกลับไป 'มีชีวิต' อย่างแท้จริง โฮ่งเชื่อว่าหนังสือเล่มนี้ นอกจากคนที่ต้องเผชิญกับโรคซึมเศร้า หนังสือเล่มนี้สามารถช่วยคนที่พบเจอกับสิ่งร้ายๆ ในชีวิตด้วย เเละผู้คนทั่วไปที่ได้เจอปัญหาของชีวิต
#หมาหนังสือ #หนังสือควรอ่าน #Mindset #หนังสือที่ช่วยฮีลใจ #การพัฒนาตนเอง #แรงบันดาลใจ #หนังสือที่ช่วยฮีลใจเเละมอบพลังบวกให้กับผู้อ่าน
โฆษณา