17 เม.ย. 2023 เวลา 12:48 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

'AI'อ่านใจคนได้ มาแล้ว

AI สร้างภาพโดยใช้เครื่องวิเคราะห์การสแกนสมองได้ เมื่อรวมกับ SD สร้างภาพความคิดของ”คน” ได้
⭐️งานอ่านใจคนของ AI
งานวิจัยร้อนๆ ของญี่ปุ่นมาแล้ว เป็นงานวิจัยที่ทำให้จุดชนวนข้อกังวลในสังคมญี่ปุ่นอย่างมาก
#Artificial Intelligence(AI)
คงไม่มีใครไม่รู้จัก AI หรือ เอไอ ยุคสมัยที่ก้าวล้ำแบบปัจจุบันนี้ส่งผลให้วิวัฒนาการเรื่องเอไอยิ่งคืบหน้าไปลิบ พวกเราต้องตามวิทยาการที่ก้าวหน้าล้ำยุคให้ทันกันนะคะ
#งานวิจัยร้อนๆ ชิ้นนี้ของญี่ปุ่น เกี่ยวกับอะไร
👉“ยู ทาคางิ” นักประสาทวิทยาวัย 34 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยโอซากาและทีมงานของเขา ใช้ Stable Diffusion (SD) หรือ”แบบจำลองเอไอในการเรียนรู้เชิงลึก” ที่พัฒนามาก่อนแล้วในเยอรมนี(ปี 2565) มาวิเคราะห์การสแกนสมองผู้ทดสอบ และได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นรูปภาพมากกว่า 10,000 รูป
น่าสนใจอย่างไร
งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า เจ้า”SD” หรือเอสดีสามารถสร้างรูปภาพที่มีความเสมือนจริงสูง จนคล้ายกับต้นฉบับอย่างน่าประหลาดใจ
รายละเอียดของงานวิจัย
“ทาคางิ” และ”นิชิโมโตะ”
เล่าว่าผู้ทำการทดสอบต้องนั่งอยู่ในเครื่องสแกน fMRI(functional MRI)นานกว่า 40 ชั่วโมง และต้องเสียค่าใช้จ่ายมากด้วยค่ะ
แต่ผลลัพธ์ก็สมกับการใช้เวลาอันยาวนานเพราะได้ภาพสแกนออกมาเป็นภาพความจำของผู้เข้าทดสอบมากมายหลายหมื่นภาพ
🔥นับเป็นการพัฒนาเอไอที่ก่อให้เกิดความกังวลว่า เทคโนโลยีนี้จะนำไปใช้ในอนาคตได้อย่างไร(น่าจะกังวลว่าจะควบคุมการใช้ เอไอ นี้กันอย่างไรน่ะ- ป้าพา)
🔥ซึ่งเกิดประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับความเสี่ยงจาก “เอไอ”
เราคงจำข่าว”จดหมายเปิดผนึก” เมื่อเดือนก่อนที่มีผู้นำด้านเทคโนโลยีหลายต่อหลายคน..ซึ่งแน่ล่ะ มี”อีลอน มัสก์” ผู้นำของ เทสลา และมี “สตีฟ วอซเนียก” ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอ๊ปเปิ้ลด้วย
🔥ผู้นำเทคโนโลยีเหล่านี้เรียกร้องให้หยุดพัฒนา”เอไอ”โดยอ้างว่า จะมีความเสี่ยงต่อสังคมและมนุษยชาติ
กลับมาที่ “ทาคางิ”
ทาคางิ กล่าวว่า เขารู้ดีว่า ความกลัวเทคโนโลยีล้ำๆ และเทคโนโลยี”อ่านใจคน”นี้
👉กำลังเป็นที่ถกเถียงกันในสังคม เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด โดยคนที่มีเจตนาร้ายหรือคนที่ไมได้รับอนุญาต
👉”สำหรับเราแล้ว ความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้ารัฐบาลหรือสถาบันใดมีเทคโนโลยีที่สามารถอ่านใจคนได้ จะเป็นปัญหาที่อ่อนไหวมาก”..
“เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องมีการหารือในระดับสูงเพื่อให้แน่ใจว่าสถานการณ์เลวร้ายจะไม่เกิดขึ้น”
ทาคางิ กล่าวไว้ค่ะ
🇯🇵การวิจัยของทาคางิและนิชิโมโตะ กำลังเป็น”เผือกร้อน” ถูกพูดถึงกันอย่างมากในสังคมที่ เรื่องของเทคโนโลยีกำลังตื่นตัวกับความก้าวหน้าของเอไอ อย่าง ChatGPT❕❕
*แต่ทาคางิ ย้ำว่า ความก้าวหน้าของเอไอในขณะนี้ ยังไม่ถึงขั้นอ่านใจคนได้อย่างแท้จริง เอไอสามารถสร้างได้เพียงรูปภาพที่คนเคยเห็นได้เท่านั้น
ทาคางิ ค่ะ
“น่าเสียดายที่หลายคนเข้าใจการวิจัยของเราผิดไป
เอไอนี้ไม่ใช่เครื่องมืออ่านใจคน เราไม่สามารถถอดรหัสจากจินตนาการหรือความฝันได้ เราคิดว่านี่เป็นการมองในแง่ดีเกินไป
แต่แน่นอนว่าในอนาคตอาจมีศักยภาพมากพอที่จะพัฒนาได้อีก”
ทาคางิ(คงเตรียมตัวทำวิจัยต่ออิ้ก)
🇯🇵 อ่านข่าวที่ทำให้เกิดกระแสถกเถียงกันอย่างกว้างขวางนี้แล้ว “กลัว”กันมั้ยคะ
- ถ้า AI “อ่านใจคน” ได้จริง จะน่ากลัวมั้ย
- จะเกิดปัญหาหรือเกิดสิ่งกระทบมากๆ ต่อโลกหรือไม่
- จะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดโดยผู้ไม่หวังดีหรือเปล่า
..
..
❔คุณผู้อ่านล่ะคะมีความคิดเห็นอย่างไร
- จะอยากเป็น”หนูทดลอง”หรือ บุคคลตัวอย่างที่เข้าร่วมงานวิจัยหรือไม่❔
- เผื่อเป็นหนึ่งใน”มนุษยชน คนแรก ๆ ที่หลอมร่างกายและสมองกับ AI .. เอ๊ย..มีส่วนในการพัฒนา หุ่นยนต์ ที่เมื้อนเหมือนคน เข้าไปทุกที
โน้ต
👉 “อัลเมตริก” เว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงนำเสนอบทความและงานวิจัย ระบุว่า รายละเอียดการวิจัยของทาคางิและนิชิโมโตะติดท็อป 1% แรกของการค้นหา จากผลการวิจัย 23 ล้านรายการในปัจจุบัน
👉ผลการศึกษายังได้รับการยอมรับให้เสนอในที่ประชุม Computer Vision and Pattern Recognition (CVPR) ที่จะจัดขึ้นในเดือน มิ.ย. 2566 ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยสร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้ถูกกฎหมายในสายประสาทวิทยา
อ้างอิง
ปล.
- ยังมีอุปสรรคต่อการอ่านใจคนอยู่ 2 อย่าง ในงานวิจัยของทาคางิ
1. เป็นเรื่องของเทคโนโลยีสแกนสมองและระบบเอไอ
คือเครื่องที่ต่อประสานประสาททั่วไป ยังขาดความเสถียรในการบันทึกข้อมูลต่อเนื่อง ❕เพราะธรรมชาติของเนื้อเยื่อประสาท มีความอ่อนไหวและซับซ้อนมาก
2. เป็นอุปสรรคของ “เอไอ”
ณ ปัจจุบันยังมีขีดจำกัด ต้องรอการพัฒนาต่อไป
#ป้าพาฝาก
AI ในการแะทย์ยังมีที่เดิ้นๆ อีกหลายสิ่ง ว่างๆ จะมาเล่าเพิ่ม
เช่น
- AI นับความร้ายกาจของเซลมะเร็ง(proliferation index)
- AI กับการวิเคราะห์ผลของการตรวจวัดด้วยเครื่องมือแพทย์..ภาพทางการแพทย์(ป้ากำลังลุยอยู่หนึ่งเรื่อง)
อยากฟังมั้ยคะ กดไลค์ด้วยยย
3
โฆษณา