17 เม.ย. 2023 เวลา 14:05 • หนังสือ

พื้นที่ปลอดภัย

"เวลามันผ่านไปเร็วนะ"
หล่อนพูดประโยคนี้ด้วยท่าที และสีหน้าที่เรียบเฉย...
ฉันฟังแล้วก็เข้าใจได้ทันทีว่าหล่อนต้องการจะสื่ออะไร แต่ด้วยความเป็นฉันทึ่ถือตัวเป็นอาจิณ ก็ต้องแสร้งแกล้งทำ ประดิษฐ์สีหน้าแววตาทำท่าทีเหมือนรู้สึก ฉงน สงสัย หน่อยแหละ
ฉันนิ่งเงียบ...หล่อนเองก็ยังคงท่าทีเรียบเฉยอยู่
ขึนปล่อยให้ความเงียบครอบงำอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ (ฉันคิดในใจ)
"ถ้าเวลามันผ่านไปอย่างช้า ๆ
เป็นไปได้หรือไม่...หากอยากย้อนเวลา
มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด?
หรือต่อให้เวลาผ่านไปเร็วหรือช้า ก็ค่าเท่ากัน...
ดอกทานตะวันจะกลับมาเบ่งบานอีกครั้งไหม..."
(ฉันพูด)
แล้วก็ตามคาด หลังจากนั่งเงียบไปพักใหญ่ ฉันก็นั่งบ่นพึมพำ เพ้อเจ้อตามประสามนุษย์ชายวัย 25 ที่ป่วยจิต....
ฉันพูดไปอย่างนั้นแหละ แค่พูดให้ทุกอย่างมันได้ระบาย ล่องลอยออกไป ไม่อยากจะจับต้อง
ไม่ได้คาดหวังให้หล่อนหยิบเอาคำพูดที่ล่องลอยของฉันเอามาใส่ใจ...เลยด้วยซ้ำ
"เวลามันผ่านไปเร็ว รู้ตัวอีกทีก็อายุเท่านี้แล้ว เราอาจต้องเจอกับความผิดหวัง ความเครียดบ้างแต่ก็ต้องปลง ความสุขผ่านไปเร็ว ความทุกข์ก็ผ่านไปเร็วเหมือนกัน รักตัวเองให้มาก ๆ ไม่ต้องย้อนเวลาไปไหน ทำทุก ๆ วันให้ดีที่สุดก็พอแล้ว เป็นกำลังใจให้เสมอ 🤍"
หล่อนตอบ....ไม่สิ เรียกว่าปลอบประโลมสินะ....
"บางทีความทุกข์เศร้าก็ช่างทานทนอยู่นะ...
ไม่ผุพังตามกาลเวลาเลย..."(ใช่...และนี่คือสิ่งที่ฉันพูดตอบ...) ฮ่ายยย ช่วยด่าฉันหน่อยแล้วกัน โทษฐานคิดลบ...ไม่รักษาน้ำใจ
"ต้องให้เวลาสำหรับดอกทานตะวันที่จะกลับมาเบ่งบานและแข็งแกร่งกว่าเดิม 🌻"
(หล่อนยังคงกรอกพูดปลอบประโลมฉัน...ไร้ท่าทีเบื่อหน่ายโกรธเคือง...)
ฉันนิ่งเงียบด้วยความรู้สำนึกในความโง่เขลา...ฉันไม่ได้พูดหรือขอโทษใด ๆ แต่ฉัน"กอด"
โฆษณา