[ด.ดล Blog] TikTok,Shein and Temu จากความพ่ายแพ้สู่ยุคใหม่ของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีจีนในอเมริกา เรียกได้ว่าเป็นการฉีกหน้าแพลตฟอร์มเจ้าบ้านทีละเล็กละน้อย สำหรับแพลตฟอร์มจากจีนที่ดาหน้ากันบุกเข้าไปยึดหัวหาดในสมรภูมิออน

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

18 เม.ย. 2023 เวลา 00:09 • ธุรกิจ

TikTok,Shein and Temu จากความพ่ายแพ้สู่ยุคใหม่ของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีจีนในอเมริกา

เรียกได้ว่าเป็นการฉีกหน้าแพลตฟอร์มเจ้าบ้านทีละเล็กละน้อย สำหรับแพลตฟอร์มจากจีนที่ดาหน้ากันบุกเข้าไปยึดหัวหาดในสมรภูมิออนไลน์ของประเทศอเมริกา ที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยทำได้สำเร็จมาก่อน

ความคิดเดิม ๆ ของแพลตฟอร์มจีนก็คือ พวกเขาแค่เติบโตภายในประเทศก็สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล ไม่จำเป็นต้องไปเติบโตที่ต่างประเทศแต่อย่างใด หลาย ๆ แพลตฟอร์มก่อนหน้านี้ก็มีความพยายามที่จะ Go Inter แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ

แต่การแจ้งเกิดของ TikTok มันทำให้ความคิดทุกอย่างนั้นเปลี่ยนไป ด้วยการแข่งขันภายในประเทศจีนเองที่ค่อนข้างดุเดือดมาก ๆ ตลาดก็เริ่มอิ่มตัว หลาย ๆ แพลตฟอร์มจึงเริ่มที่จะหันไปลุยในตลาดขนาดยักษ์อย่างในอเมริกากันบ้าง

Temu เรียกได้ว่าเปิดมาท้าชน Amazon เพราะพวกเขาขายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องสำอางไปจนถึงของใช้ในบ้านและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วน Shein ที่ลุยในตลาด Fast Fasion ด้วยราคาย่อมเยาว์เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย และระบบเบื้องหลังที่มีความอัจฉริยะ ทำให้โดนใจชาวอเมริกันไปเต็ม ๆ

Temu ที่มียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น 45% และฐานผู้ใช้งานรายวันเพิ่มขึ้น 20% ในวันที่มีการโปรโมตอย่างยิ่งใหญ่ผ่านโฆษณาในช่วง Super Bowl ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ปัญหาเรื่องการสอดแนมของข้อมูล

ก่อนหน้านี้ประเด็นใหญ่ก็เป็นเรื่องของ TikTok ที่โดนเล่นงานอย่างหนักจากทางรัฐสภาสหรัฐ เรียกได้ว่ารุมทึ้งจากทั้งพรรคเดโมแครต และรีพับรีกันเลยทีเดียว แถมยังถูกแบนจากอุปกรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ

TikTok ที่โดนไล่บี้อย่างหนักจากรัฐบาลสหรัฐฯ (CR:CNBC)

ล่าสุดอีกสองแพลตฟอร์มอย่าง Shein และ Temu กำลังเป็นเป้าหมายล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากรายงานอย่างเป็นทางการที่ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านข้อมูลและการดำเนินธุรกิจของพวกเขาในสหรัฐฯ

คณะกรรมาธิการทบทวนด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงสหรัฐฯ-จีน (USCC) ได้เผยแพร่รายงานเมื่อวันศุกร์ โดยกล่าวหาว่าแอพยอดนิยมทั้งสองและแพลตฟอร์มอื่น ๆ ของจีน มีความเสี่ยงด้านข้อมูล รวมถึงการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

โดยรายงานของ USCC นั้นได้มุ่งเน้นไปที่ Shein เป็นหลัก ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มสินค้า fast fashion ที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีน และปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์

โดยแอพของ Shein เองก็ได้มีการขอให้ผู้ใช้แบ่งปันข้อมูลและกิจกรรมของพวกเขาจากแอปอื่น ๆ รวมถึงในเครือข่ายโซเชียลมีเดียเพื่อแลกกับส่วนลดและดีลพิเศษสำหรับการซื้อผลิตภัณฑ์ของ Shein

ปัญหายังมีมากกว่านั้น เพราะ Shein ได้มีการใช้แหล่งผลิตเสื้อผ้าในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน และมีปัญหาในเรื่องการบังคับใช้แรงงาน รวมถึงการลอกเลียนการออกแบบของแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ

ส่วน Temu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ของ PDD Holding ซึ่งก็คือ Pinduoduo ที่ได้รับความนิยมในประเทศจีน ซึ่งเพิ่งถูกแบนจาก Google Play เมื่อเดือนที่ผ่านมา หลังมีการร้องเรียนเกี่ยวกับการฝังมัลแวร์ที่จะเข้าถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน

รัฐไม่ชอบ แต่ผู้บริโภคกลับชอบใจ

แม้จะมีปัญหาในเรื่องภาครัฐ แต่ผู้บริโภคชาวอเมริกันเองกลับไม่สนใจ เพราะมันเป็นทางเลือกใหม่ และเบื่อกับเรื่องเก่า ๆ ที่เกิดขึ้นจากแพลตฟอร์มของอเมริกาเอง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาข้อมูลหลุด Cambridge Analytica ของ Facebook หรือการผูกขาดและไร้ซึ่งการพัฒนานวัตกรรมใหม่ของ Amazon

วัยรุ่นอเมริกันเริ่มหมดความเลื่อมใสใน facebook (CR:Getty Image)

ความนิยมของ Temu ซึ่งดึงดูดผู้บริโภคสหรัฐฯ ให้หันมาซื้อสินค้าที่ผลิตในจีน เช่น ถุงมือกันหนาวราคา 4.09 ดอลลาร์ หรือในแพลตฟอร์มอย่าง Shein ที่สามารถซื้อกางเกงเลกกิ้งในราคาเพียงแค่ 5.5 ดอลลาร์ เหมือนเป็นการตีแสกหน้าแพลตฟอร์มอเมริกาอย่าง Amazon อย่างเห็นได้ชัด

เอาจริง ๆ ใน Amazon มันก็เต็มไปด้วยสินค้าจีนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่การได้ซื้อจากผู้ผลิตโดยตรงนั้น ยังไงมันก็คุ้มกว่ามาก รวมถึงลูกเล่นต่างๆ ที่ทางแพลตฟอร์มจากจีนถนัดอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่เป็นจุดเด่นที่มีเหนือตลาด ecommerce อันจืดชืดของแพลตฟอร์มอย่าง Amazon โดยสิ้นเชิง

หรือ TikTok เองที่ถูกใจคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าตีเข้าไปยังกล่องดวงใจของประชาชนชาวอเมริกัน เพราะ การแย่งส่วนแบ่งคนกลุ่มนี้ได้มากเท่าไหร่ ก็จะผลักดันคนกลุ่มอื่น ๆ เข้ามาในแพลตฟอร์มได้มากยิ่งขึ้น

แน่นอนว่า TikTok, Shein และ Temu จะไม่ใช่แพลตฟอร์มทางด้านเทคโนโลยีรายสุดท้ายที่จะเชื่อมต่อลูกค้าในสหรัฐฯโดยตรงกับโรงงานในจีน เพราะอีกไม่นานเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าหรือสินค้าอื่น ๆ อีกมากมายที่ผลิตในจีน กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อจะเข้ามาลุยและยึดครองตลาดอเมริกาหลังเห็นความสำเร็จของรุ่นพี่อย่าง TikTok,Temu และ Shein ที่ทำได้สำเร็จมาแล้วนั่นเองครับผม