18 เม.ย. 2023 เวลา 08:22 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

5 สัญญาเตือน ระบบ HVAC ผิดปกติ

ด้วยอุณหภูมิความร้อนที่ระอุไปทั่วเอเชียนในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลต่อระบบ HVAC หรือระบบปรับอากาศในทุกขนาด ตั้งแต่ที่อยู่อาศัย ไปจนถึงอุตสาหกรรม ถึงแม้จะเป็นระบบ HVAC ที่มีการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน หรือซ่อมแซมในปีที่ผ่านมาแล้วก็ตาม
"การบำรุงรักษา Chiller" : http://www.advance-cool.com/maintenance/
ฤดูร้อนอย่างเต็มตัว ไปจนถึงก่อนเจอมรสุมหน้าฝนนี้ 𝗔𝗖𝗧 : 𝗔𝗱𝘃𝗮𝗻𝗰𝗲 𝗖𝗼𝗼𝗹 𝗧𝗲𝗰𝗵𝗻𝗼𝗹𝗼𝗴𝘆 อยากเชิญชวนทุกท่าน ร่วมตรวจสอบระบบของคุณไปด้วยกัน เพื่อรักษาความต้องการของระบบ และเข้าใจถึงสัญญาณเตือนผิดปกติในการทำงานของระบบ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาใหญ่ที่จะเจอในอนาคต
และนี่คือ 5 สัญญาณเตือนของระบบ HVAC ที่ผิดปกติ
1. เสียงประหลาด (𝗦𝘁𝗿𝗮𝗻𝗴𝗲 𝘀𝗼𝘂𝗻𝗱𝘀)
เมื่ออุปกรณ์ HVAC ทำงานย่อมมีเสียงที่เราได้ยินชินหูเป็นปกติ เช่นเสียงลม แต่เสียงมักจะไม่ดังหรือแปลกไปจากเดิม หากคุณเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆ แสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติ เช่น
• เสียงหวีดร้อง เสียงสั่น เสียงบดหรือเสียงดัง ที่มีสาเหตุอาจเกิดจากส่วนประกอบทางกลที่หลวมหรือหัก เช่น สายพานขาดหรือสกรูหลวม
• เสียงฟู่ เหมือนเสียงผิวปาก บ่งบอกถึงการรั่วไหลในท่อของคุณซึ่งนำไปสู่รั่วไหลของอากาศ
2. กลิ่นประหลาด (𝗦𝘁𝗿𝗮𝗻𝗴𝗲 𝘀𝗺𝗲𝗹𝗹𝘀)
ปกติแล้วอุปกรณ์ HVAC จะไม่มีกลิ่นใดๆ ยกเว้นกลิ่นที่คุ้นชินในอุตสาหกรรม หรืออาคารของคุณ แต่ถ้าคุณได้รับกลิ่นแปลกๆ ต่อไปนี้ นั่นหมายความว่าระบบ HVAC ของคุณเกิดความปกติขึ้นแล้ว
• กลิ่นไข่เน่า/กำมะถัน ที่เป็นสัญญาณของการรั่วไหลของก๊าซธรรมชาติ ซึ่งต้องรีบแก้ไขโดยด่วน เนื่องจากการรั่วของก๊าซธรรมชาติส่งผลอันตรายได้ถึงชีวิต และทรัพย์สินเป็นวงกว้าง
• กลิ่นไหม้ของอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นสัญญาณว่าอุปกรณ์ไฟฟ้ามีความร้อนสูงเกินไปซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
• กลิ่นอับ อาจเกิดจากเชื้อราหรือความชื้นสะสมในท่อแอร์ ที่มีสาเหตุมาจากท่ออุดตัน หรือ ความชื้นจะสะสม ที่ทำให้เกิดเชื้อราและโรคราน้ำค้างได้
3. อุณหภูมิไม่สม่ำเสมอ (𝗜𝗻𝗰𝗼𝗻𝘀𝗶𝘀𝘁𝗲𝗻𝘁 𝘁𝗲𝗺𝗽𝗲𝗿𝗮𝘁𝘂𝗿𝗲𝘀)
หากระบบ HVAC ไม่สามารถรักษาอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ นี่อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความผันผวนของพลังงาน หรือการไหลเวียนของอากาศที่ลดลงซึ่งเกิดจากปัญหาต่างๆ กัน เช่น
• การรั่วไหลของท่อลม ทำให้การไหลของอากาศแปรปรวน
• การรั่วไหลของสารทำความเย็น
• การทำงานของตัวกรองไม่ดี จะนำไปสู่การสะสมของสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละออง
• รอบการทำงานสั้น เช่นการหยุดและสตาร์ทมากเกินไปจะเพิ่มการสึกหรอให้กับคอมเพรสเซอร์ และอาจทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานล้มเหลวได้
• อุปกรณ์รับภาระมากเกินไป เนื่องจากระบบ HVAC มีขนาดไม่เพียงพอที่จะส่งมอบอุณหภูมิที่จำเป็นในสภาวะที่ร้อนจัด ซึ่งจะส่งผลทำให้การไหลเวียนของอากาศต่ำ
4. ไม่สามารถให้ค่าตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ได้ (𝗦𝗲𝘁 𝘁𝗲𝗺𝗽𝗲𝗿𝗮𝘁𝘂𝗿𝗲 𝗰𝗮𝗻𝗻𝗼𝘁 𝗯𝗲 𝗿𝗲𝗮𝗰𝗵𝗲𝗱)
หากอุปกรณ์ของคุณไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้ในอุณหภูมิตามที่กำหนด สาเหตุจะคล้ายคลึงกันกับปัญหาที่ทำให้อุณหภูมิไม่สม่ำเสมอ ข้างต้น แต่จะมีเพิ่มเติมบางกรณี เช่น
• เทอร์โมสตัทไม่ถูกต้อง : เทอร์โมสตัทอัจฉริยะ (Smart thermostats) ในอาคารผิดพลาด หรือถูกยกเลิกโปรแกรม
5. ค่าพลังงานที่สูงขึ้น (𝗛𝗶𝗴𝗵𝗲𝗿 𝗲𝗻𝗲𝗿𝗴𝘆 𝗯𝗶𝗹𝗹)
หากค่าพลังงานของคุณสูงขึ้นในอัตราที่ไม่สอดคล้องกับสภาพอากาศ อาจหมายความว่าอุปกรณ์ในระบบของคุณ ทำงานไม่มีประสิทธิภาพตามที่ออกแบบไว้ โดยมีสาเหตุเกิดจาก :
5.1 มีการจัดการระบบ HVAC หรือการออกแบบระบบที่ไม่เหมาะสม :
• ระบบน้ำ (Water Side) :
- การฟุ้งกระจายของน้ำ หรือการไหลของน้ำ ในการแลกเปลี่ยนต่างๆ
- มีขนาด/จำนวน ของ Chiller หรือ Boiler ที่ไม่ได้รับการจัดการตามจำนวนที่เหมาะสม
- การจัดลำดับหน่วยอุปกรณ์ไม่ถูกต้อง
- ขาดการบำรุงรักษาอุปกรณ์ หรือสารทำความเย็นในวงจรเนื่องจากมีการรั่วไหล
• ระบบอากาศ (Air Side) :
- ขาดการบำรุงรักษา AHU /rooftop exchanger
- การจัดการการไหลของอากาศที่ไม่เหมาะสม
- การกระจายลมไม่เหมาะสม
• ด้านการจัดการอาคาร:
- ไม่มีระบบ BMS
- มีระบบ BMS ที่ไม่ได้รับการบำรุงรักษา
- ระบบ BMS ไม่ได้รับการอัปเกรด หากมีการเปลี่ยนแปลงระบบโครงสร้างอาคาร
5.2 อุปกรณ์รับภาระมากเกินไป : ความต้องการความเย็น หรือการทำความร้อน ที่เพิ่มขึ้นซึ่งเกิดจากจำนวนผู้เข้าพักในอาคารที่มากขึ้น สภาพที่ร้อนจัด หรือเกิดกิจกรรมที่ใหญ่ขึ้น ล้วนส่งผลให้ต้องการความจุของระบบเพิ่มเติม
และนี่ก็คือ 5 สัญญาณเบื้องต้น ที่คุณจะสามารถทราบได้ทันทีหากระบบการทำความร้อน, การระบายอากาศ, และการปรับอากาศ (HVAC) ของคุณเริ่มมีปัญหา และอาจเป็นอันตราย หรือสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ได้
หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีใครดูแล เช่น อุปกรณ์ในระบบเสียหาย ไฟฟ้าลัดวงจร ผลเสียต่อสุขภาพบุคลากร และคุณภาพอากาศของอาคาร
• ปัญหา HVAC ที่คุณไม่ควรมองข้าม
ปัญหาระบบ HVAC ทั่วไปหลายอย่างสามารถหลีกเลี่ยงได้ หากระบบของคุณได้รับการบริการตามการบำรุงรักษาตามปกติที่แนะนำของผู้ผลิต หรือผู้ออกแบบ
แต่ในช่วงที่อุณหภูมิพุ่งสูง หรือแปรปรวน ปัญหาเหล่านี้อาจยังคงเกิดขึ้น เมื่อคุณสังเกตเห็นสัญญาณของความผิดพลาดของระบบข้างต้นที่กล่าวมา ให้รีบติดต่อช่างระบบ HVAC มืออาชีพ หรือผู้ดูแล ออกแบบระบบของคุณทันที เพื่อกู้คืนการทำงานตามปกติ
หากอุปกรณ์ของคุณรับภาระหนักเกินไปเนื่องจากอุณหภูมิในฤดูร้อน 𝗔𝗱𝘃𝗮𝗻𝗰𝗲 𝗖𝗼𝗼𝗹 𝗧𝗲𝗰𝗵𝗻𝗼𝗹𝗼𝗴𝘆 พร้อมดูแลช่วยเหลือ ด้วยกลุ่มอุปกรณ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย และบริการโซลูชั่นที่รวดเร็ว เชื่อถือได้ คุ้มค่าเพื่อให้การ ออกแบบ ติดตั้ง ซ่อมแซมระบบของคุณทำงานได้อย่างราบรื่น เหมาะกับความต้องการเฉพาะของคุณ
Line id : @advancecool หรือคลิก https://lin.ee/Uv6td2a
#HVAC #Chiller #ระบบHVAC #ชิลเลอร์ #ระบบปรับอากาศ #ติดตั้งระบบปรับอากาศ #ออกแบบระบบHVAC
โฆษณา