18 เม.ย. 2023 เวลา 10:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

นักวิทยาศาสตร์ที่เอาตัวเองเป็นหนูทดลอง จนได้รางวัลโนเบล

โรคแผลในกระเพาะอาหารเคยเป็นหนึ่งในโรคที่มนุษย์พยายามค้นหาสาเหตุว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่กระเพาะของมนุษย์นั้นสามารถทนทานต่อกรดในกระเพาะได้อยู่แล้ว แต่ในบางคน ก็มีแผลเกิดขึ้นได้ และมีอันตรายจนอาจจะเป็นมะเร็งในกระเพาะ หรือกระเพาะทะลุ จนเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
คนสมัยนั้นจึงคิดว่า สาเหตุของโรคแผลในกระเพาะอาหารนั้นเกิดจากปัญหาต่าง ๆ เช่น ความเครียด การกินอาหารรสจัด หรือมีกรดในกระเพาะอาหารมากกินไป
ในขณะที่ Barry Marshall ยังเป็นแพทย์อยู่ที่ โรงพยาบาล Royal Perth เขาได้ทำงานร่วมกันกับ Robin Warren ในแผนกอายุรกรรม และค้นพบเชื้อแบคทีเรียแบบเกลียวในคนไข้ที่เป็นโรคกระเพาะ และตั้งสมมติฐานว่า แบคทีเรียอาจจะทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้
แต่เขาถูกแพทย์คนอื่นดูถูก และล้อเลียนว่าทฤษฎีของเขาไม่มีทางเป็นไปได้ กระเพาะที่มีกรดแรงขนาดนั้น แบคทีเรียจะอยู่รอดได้อย่างไร และกระเพาะที่ทนกรดได้จะพ่ายแพ้ต่อแบคทีเรียได้อย่างไร
ในปี 1982 เขาก็ดิ้นรนจนขอทุนวิจัยมาได้ 1 ปี และได้นำเชื้อในกระเพาะของคนไข้มาพยายามเพาะ แต่ก็ไม่เป็นผลใน 30 เคสแรก เพราะนักเทคนิคใช้ขั้นตอนการเพาะตามกระบวนการเพาะเชื้อในลำคอ ซึ่งใช้เวลาเพียง 2 วัน พอไม่เห็นว่าเชื้อเพาะขึ้น ก็โยนทิ้งไป
จะกระทั่งเคสที่ 31 นักเทคนิคยุ่งมาก จึงลืมทิ้งจานเพาะเชื้อจนข้ามสัปดาห์ พอกลับมาดูจึงเห็นว่าเชื้อเพาะขึ้น และในภายหลังก็ทราบว่าเชื้อนี้โตช้ากว่าเชื้อแบคทีเรียทั่วไป
หลังจากพบเชื้อดังกล่าว เขาจึงตีพิมพ์ผลงานวิจัยดังกล่าว ในปี 1983 แต่ก็ได้ Review Feedback ในทางลบ จนกลายเป็น Paper ยอดแย่ 10% ของ The Gastroenterological Society of Australia ในปีนั้นเลยทีเดียว เนื่องจากนักวิจัยคนอื่นไม่เชื่อในสิ่งที่เขาค้นพบ
ในปี 1984 เขาได้ลองเอาเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวป้อนให้หมู แต่หมูก็ไม่มีอาการดังกล่าว จนกระทั่งเขารู้สึกกระวนกระวายใจอยากที่จะทดลองกับมนุษย์โดยตรง แต่การแพทย์ในเวลานั้นห้ามการทดลองในลักษณะนี้ในมนุษย์ เขาจึงตัดสินใจที่จะทดลองกับตัวเองโดยการดื่มเชื้อเข้าไปเอง หลังจากที่ได้ทำการส่องกระเพาะเพื่อเก็บไว้เป็น Baseline
ภายในเวลาไม่กี่วัน เขาเริ่มมีอาการเริ่มต้นเหมือนกับคนเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร จนป่วย และอาเจียน และได้รับการส่องกล้อง ทำให้พบว่าเขามีแผลในกระเพาะอาหารจริง ๆ และพอทำ Biopsy ก็พบว่าเชื้อนี้ไปเติบโตในกระเพาะจริง ๆ และพอเขาใช้ยาปฏิชีวนะ เขาก็เริ่มดีขึ้น
เขาจึงได้ตีพิมพ์ผลงานของเขาในปี 1985 ก่อนที่จะกลายเป็นหนึ่งในงานวิจัยที่มีคนอ้างอิงมากที่สุดชิ้นหนึ่ง และเป็นงานที่เปลี่ยนแปลงมุมมองในทางการแพทย์มากที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว จนได้รับรางวัลโนเบล สาขาทางการแพทย์ ในปี 2005 ร่วมกันกับ Robin Warren จากการค้นพบนี้
โฆษณา