หัวปลาช่องนนทรี เริ่มจากหม้อไฟ 3 หม้อ วันนี้รายได้ หลักร้อยล้าน
หัวปลาช่องนนทรี ในวันนี้ คือร้านอาหารที่มีชื่อเสียงมากร้านหนึ่งในไทย
แต่รู้ไหมว่า ร้านนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจาก ร้านขายหัวปลาหม้อไฟที่เป็นเพิงเล็ก ๆ ในย่านพระราม 3
ทุกวันนี้ หัวปลาช่องนนทรี มีหลายสาขาทั้งในกรุงเทพมหานคร รวมถึงในต่างจังหวัด
และกลายเป็นร้านอาหารที่มีรายได้ หลักร้อยล้านบาท
เส้นทางของ หัวปลาช่องนนทรี เป็นอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปที่มาของแบรนด์นี้ให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดจากไอเดียของ คุณกฤชและคุณแป๋ว ลิมป์รัตนกาญจน์
ทั้งสองเป็นสามีภรรยาที่ก่อนหน้าจะมาทำธุรกิจร้านอาหารนั้น เคยทำธุรกิจเกี่ยวกับประตูเหล็กมาก่อน
แต่คุณแป๋วมองว่า รายได้จากการทำประตูเหล็กนั้น เอาแน่เอานอนไม่ได้
บางช่วงมีลูกค้าสั่งทำมาก ก็มีรายได้มาก บางช่วงไม่มีลูกค้าเลย รายได้ของครอบครัวก็แทบจะหายไปเลย
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณแป๋วจึงบอกกับคุณกฤชว่า น่าจะทำธุรกิจที่มีรายได้มั่นคงมากกว่านี้ ซึ่งการขายอาหารคือ สิ่งที่คุณแป๋วมองไว้
เพราะสมัยก่อนนั้นบริเวณช่องนนทรีที่ทั้งสองคนอาศัยอยู่ ตอนค่ำ ๆ มักหาของกินยาก การไปเปิดร้านขายอาหารน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี
ทั้งคู่เลยตัดสินใจเปิดร้านอาหารเป็นเพิงเล็ก ๆ ขายหัวปลาหม้อไฟ กับอาหารทะเลตามสั่งเล็ก ๆ ริมถนนพระราม 3 ในปี 2526
โดยตอนแรกนั้นภายในร้านมีเพียงแค่หม้อไฟ 3 หม้อ มีโต๊ะ 2 ตัว และเก้าอี้ 4 ตัว
จากที่เป็นเพียงร้านอาหารเล็ก ๆ เมื่อเริ่มมีลูกค้ารู้จักมากขึ้น ทั้งคู่ก็เริ่มขยับขยายร้านให้กว้างขึ้น มีการเพิ่มเมนูอาหารให้มีความหลากหลาย
โดยปัจจุบัน หัวปลาช่องนนทรี มี 9 สาขา ทั้งที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด คือในโคราช
และจากเดิมที่เป็นการเปิดสาขารูปแบบสแตนด์อะโลน ก็เริ่มมีการขยายสาขาเข้าไปเปิดตามห้างสรรพสินค้า เช่น สาขาใน MEGA บางนา และในเทอร์มินอล 21 โคราช
อีกบริการหนึ่งที่หัวปลาช่องนนทรีนำมาใช้ คือกลยุทธ์การเข้าหาลูกค้า นอกเหนือจากการรอลูกค้าให้มาทานที่ร้านคือ บริการภายใต้ชื่อว่า “HUG Catering”
โดยเป็นการรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ครบวงจรทุกรูปแบบ
มีเมนูให้เลือกมากมาย เช่น อาหารชุดโต๊ะจีน, โต๊ะไทย, โต๊ะนานาชาติ, บุฟเฟต์, ซุ้มอาหาร, ข้าวกล่อง, อาหารว่าง และคอฟฟีเบรก
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ การพยายามชูจุดเด่นให้กับอาหารของร้าน ซึ่งเป็นจุดขายที่ดึงดูดให้ลูกค้ามาทานอาหารที่ร้าน
อย่างกรณีของร้านหัวปลาช่องนนทรี เมนูชูโรงก็หนีไม่พ้น “หัวปลาหม้อไฟ” ที่ทางร้านพยายามสร้างความจดจำให้ลูกค้าตลอดเวลาว่า เป็นเมนูเด็ด ด้วยการนำเสนอผ่านสื่อต่าง ๆ
พูดง่าย ๆ คือ ถ้าจะทานหัวปลาหม้อไฟ ก็ต้องนึกถึงหัวปลาช่องนนทรี
ถ้าลองมาดู ผลประกอบการของ บริษัท หัวปลาช่องนนทรี จำกัด
ปี 2562 รายได้ 342 ล้านบาท กำไร 7.3 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 145 ล้านบาท ขาดทุน 15.5 ล้านบาท
ถ้าเทียบรายได้และกำไร ของปี 2564 กับปี 2562 ก็จะเห็นว่าวิกฤติโรคระบาดในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยงของบริษัท ไปเต็ม ๆ
แต่ถ้าดูรายได้ที่ทำได้ถึงหลักร้อยล้านบาทแล้ว
จากร้านอาหารเพิงเล็ก ๆ ที่มีแค่หม้อไฟ 3 หม้อในวันแรก
กลายมาเป็นอาณาจักรหัวปลาช่องนนทรีในวันนี้ ก็ถือว่าไม่ธรรมดา เลยทีเดียว..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ที่มาของชื่อ หัวปลาช่องนนทรี ทั้งคุณกฤช และคุณแป๋ว ไม่ได้เป็นคนตั้งชื่อนี้ แต่เป็นลูกค้าที่ตั้งให้
เพราะสมัยก่อน ทั้งคู่มักได้ยินลูกค้าพูดกันว่า
มากินหัวปลาแถวช่องนนทรีกัน ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจเอาคำพูดนี้ มาตั้งเป็นชื่อร้าน..
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
