19 เม.ย. 2023 เวลา 11:15 • การตลาด

แบรนด์เก่าเล่าเรื่อง:Pepsi รสชาติของคนรุ่นใหม่กับตำนานความซ่าที่ไม่มีวันเปลี่ยน

Pepsi ก่อตั้งบริษัทครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1893 โดยเภสัชกร คาเลบ แบรดแฮม เมืองนิวเบิร์น รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา เดิมใช้ชื่อว่า "แบรดส์ ดริงค์" (Brad's Drink) มีส่วนผสมของน้ำ น้ำตาล คาราเมล น้ำมันหอมระเหยกลิ่นมะนาว ลูกจันทน์ และสารแต่งกลิ่น แต่เดิมผลิตขึ้นเพื่อรักษาอาการปวดท้อง
ต่อมาในปี ค.ศ. 1898 บริษัทได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ในชื่อ "เป๊ปซี่-โคล่า" ในปี ค.ศ. 1903 มีการจำหน่ายและทำการขายผลิตภันฑ์ของเป๊ปซี่ ต่อมาในปี ค.ศ. 1905 ได้มีการปรับเปลี่ยนโลโก้เป็นครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1920 Pepsi เริ่มแข่งขันกับคู่แข่งหลักอย่าง Coca-Cola
ต่อมาในปี ค.ศ. 1923 บริษัทเกิดวิกฤตและจำเป็นต้องขายทรัพย์สินให้แก่บริษัท คราเวน โฮลดิ้ง คอร์เปอเรชั่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งตรงกับ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1939 Pepsi ออกบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบกระป๋องและใช้โฆษณาเป็นครั้งแรก เพื่อปรับแบรนด์ใหม่ให้ไล่ทันคู่แข่ง
ค.ศ. 1950 Pepsi ออกผลิตภัณฑ์น้ำอัดลมแบบไดเอท เจาะกลุ่มผู้หญิงที่ระวังเรื่องน้ำหนักตัว ต่อมาในปี ค.ศ. 1980 Pepsi บริษัทได้ไมเคิล แจ็คสัน เป็นพรีเซ็นเตอร์ กับแคมเปญ "The Choice of a New Generation" ยิ่งทำให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น และ ปี ค.ศ. 1994 Pepsi เปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำดื่มขวดแรกชื่อ Aquafina
ในปี ค.ศ. 2008 Pepsi ตัดสินใจเปลี่ยนโลโก้อีกครั้งเพื่อให้มีความทันสมัยและคล่องแคล่วขึ้น Pepsi นับเป็นแบรนด์ที่ยืนหนึ่งในเรื่องของการพัฒนาผลิตภัณฑ์และคิดค้นนวัตกรรมใหม่อย่างสม่ำเสมอ
สำหรับประเทศไทย Pepsi เข้ามาทำธุรกิจตั้งแต่ปี ค.ศ. 1953 โดยมีบริษัท เสริมสุข เป็นผู้ดำเนินการจัดจำหน่าย ต่อมาในปี ค.ศ. 2016 บริษัท เสริมสุข ได้ยกเลิกการดำเนินธุรกิจและสร้างแบรนด์ขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชื่อว่า Est Cola
ไม่กี่ปีต่อมา บริษัท PepsiCo จับมือบริษัท Suntory จัดตั้งบริษัทร่วมทุน และใช้ชื่อว่า Suntory PepsiCo Beverage Thailand เพื่อทำธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์แบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิต การจัดจำหน่าย กระจายสินค้า รวมไปถึงการทำการตลาด ปัจจุบันแม้เวลาจะผ่านมานานเท่าไร Pepsi ยังคงทำการตลาดด้วยการใช้ผู้บริโภคเป็นกลยุทธ์หลัก ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคยุคไหนๆก็สามารถเข้าถึงแคมเปญและรสชาติที่หลากหลายได้
การเปลี่ยนโลโก้ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น มีที่มาจากการทดสอบภาพจำของผู้บริโภคในกลุ่ม Gen Z พบว่า พบว่าคล้ายกับโลโก้ที่เคยเปิดตัวในปี ค.ศ. 1987 ซึ่งสื่อให้เห็นถึงความมั่นใจ ความร่วมสมัย มีชีวิตชีวา ผสมความคลาสสิก ที่เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับแบรนด์มาอย่างยาวนาน ปัจจุบันบริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นในคุณภาพ นวัตกรรม และราคาเข้าถึงได้
ติดตามข่าวสารจาก ALL Retail Business Center ได้ที่
Twitter :
#Panyapiwat #PIM #ALLRetail #ALLRetailbyPIM #Retail #ModernTrade #ธุรกิจค้าปลีก #ธุรกิจค้าส่ง #ค้าปลีก #ค้าส่ง #โชห่วย #การตลาด
โฆษณา