“เวียงต้า”อวดของดีทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมน่าชมเพียบ
..........กิจกรรม “เปิดเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน One day Trip” ตำบลเวียงต้า อ.ลอง จ.แพร่ สุดเจ๋ง มีธรรชาติสร้างสรรค์มากมาย เป็นสิ่งมหัศจรรย์ และภาพวาดฝาผนัง รวมถึงวัดวาอารามต่างๆ สมเป็นเวียงในอดีต
..........ตามที่ จังหวัดแพร่ และ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ นำโดย สิบเอกหญิงกรวรรณ สุ่มมาตย์ วัฒนธรรมจังหวัดแพร่ จัดกิจกรรม “ONE DAY TRIP เส้นทางท่องเที่ยวชุมชน “ยลวิถี ถิ่นเมืองลอง” วันนี้(19 เม.ย.66) หัวหน้าส่วนราชการ นักท่องเที่ยว และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ กิจกรรม “เปิดเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน One day trip ตำบลเวียงต้า” อ.ลอง จ.แพร่ โดยคณะทั้งหมด พร้อมกัน ณ ศาลเจ้าพ่อผาลาย ประตูสู่เวียงต้า สักการะสิ่งศักดิ์ที่ชาวตำบลเวียงต้านับถือ เดินทางมายัง ลานหอคำ วัดต้าม่อน
..........จากนั้นเวลา 09.30 น. เป็นพิธีกิจกรรมเปิดเส้นทางท่องเที่ยว One Day Trip ตำบลเวียงต้า ณ วัดต้าม่อน โดยมี นายประภาส โพธิตา นายกเทศมนตรีตำบลเวียงต้า กล่าวต้อนรับคณะท่องเที่ยว นายมานพ พุทธวงค์ ขนส่งจังหวัดแพร่ กล่าวเปิดงาน และมีหัวหน้าส่วนราชการ อาทิ นายประเสริฐ ฉลอม รอง ผอ.รพ.แพร่ นายฐิติพงศ์ วงศ์เสน หัวหน้าสำนักงานสาขาวิทยบริการจังหวัดแพร่ ตัวแทนสาธารณสุขจังหวัดแพร่ สาธารณสุขอำเภอลอง คณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง และชาวบ้าน ต.เวียง เข้าร่วมกิจกรรม
.........จากนั้นคณะทั้งหมด ได้เดินทางไปเที่ยวของของดี ต.เวียงต้า ประกอบด้วย เที่ยวถ้ำผาบ่องและถ้ำเสรีไทย อดีตศูนย์บัญชาการ ขบวนการเสรีไทย สมัยสงครามโลกครั้ง ที่ 2 ซึ้ง ถ้ำเสรีไทย เป็นถํ้าที่ขบวนการเสรีไทยภาคเหนือ เลือกใช้เป็นที่ตั้งกองบัญชาการหน่วยรบในภาคเหนือของฝ่ายสัมพันธมิตร เพื่อต่อต้านการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในพุทธศักราช 2484-2488 โดยตำแหน่งของถํ้าเสรีไทยอยู่บนเขาผาบ่อง เทือกเขาผีปันนํ้า
ลักษณะของถํ้าเป็นโพรงลึกเข้าไปในภูเขา มีความกว้างประมาณ 5 เมตรความสูงประมาณ 4 เมตร มีความลึกเข้าไปข้างในยาวมาก มีถํ้าแยกเป็นหลายทาง บางแห่งมีธารนํ้าไหลเย็นมาก มีหินงอกหินย้อยเปล่งแสงระยิบระยับงามตา ภายในถํ้ามีความมืดมาก ตำแหน่งของปากถํ้าอยู่บนหน้าผาสูงประมาณ 15 เมตร สามารถมองเห็นข้าศึกได้ในระยะไกล มีภูเขาเป็นป้อมปราการล้อมรอบ สามารถป้องกันการโจมตีของข้าศึกฝ่ายตรงข้ามข้ามได้เป็นอย่างดี และบนยอดดอยสูงสามารถส่งสัญญาณจากสถานีวิทยุติดต่อกับหน่วยบัญชาการในสถานที่ต่างๆ ได้อย่างชัดเจน
จากนั้น สักการะ พระเจ้าแสนทอง ณ วัดต้าแป้น สักการะ สิ่งศักดิ์ที่ชาวตำบลเวียงต้านับถือ พร้อมชมวิวบนเขา 360 องศา ต่อมาเที่ยว ถ้ำแอร์ ห้องแอร์ธรรมชาติ บริเวณหน้าถ้ำมีลมพัดเย็นตลอด แล้วชม เหล็กบ่อต้า แหล่งผลิตเหล็กโบราณของชาวเวียงต้า
บ่อเหล็กเมืองต้า ในอดีตเมืองต้ามีทรัพยากรเหล็กที่สำคัญอยู่ที่วัดหัวฝาย หมู่ที่ 7 เมืองต้าเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ตั้งอยู่บนแนวสายแร่เหล็ก ทำให้เมืองต้าสามารถเกิดขึ้นเป็นบ้านเมืองได้ด้วยการมีทรัพยากรเหล็กเป็นสิ่งดึงดูดมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ลัวะ จนถึงการเข้ามาของคนล้านนา
เมืองต้าต้องเกณฑ์ชาวเมืองทำส่วยเหล็กต้าส่งเป็นเครื่องบรรณาการถวายเจ้าผู้ครองนครลำปางที่หอคำในช่วงเดือน 7 เหนือ เป็นประจำทุกปี เริ่มจากเมื่อขุดเหล็กนำมาถลุงจนได้เนื้อเหล็กแล้วจะคัดเอาเฉพาะเหล็กเนื้อดีมาหลอมอีกครั้งและ นำมาหล่อเป็นก้อนกลมขนาดเท่าผลส้มเกลี้ยง มีประเพณีเลี้ยงผีบ่อต้า ในเดือน 5 ของทุกๆปี
..........จากนั้นคณะทั้งหมดเดินทางไปสักการะ หลวงพ่ออินต๊ะจักร อุปคุปโต พระเจ้าทันใจ พระเจ้าแสนแซ่ ณ วัดต้าเวียง วัดแห่ง แรกของชาวเวียงต้า วัดคู่บ้านคู่เมืองชาวตำบลเวียงต้านับถือ ซึ่ง วัดเวียงต้า มีสถานะเป็นวัดหลวงเมืองต้า ได้รับการบูรณะเมื่อ พุทธศักราช 2426 และครั้งสำคัญอีกครั้งในปีพุทธศักราช 2440 โดยการนำของครูบาศรีบุตร
เป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าแสนแส้ และมีพระธาตุต้าเวียงซึ่งเป็น ศิลปะรัฐฉาน และในวันพญาวัน จะมีพิธีสรงนํ้าพระธาตุและพระเจ้าแสนแส้ เป็นประจำ ในวัดประกอบด้วยโบราณวัตถุที่สำคัญ ได้แก่ พระเจ้าแสนแส้ และพระไม้แกะสลัก จำนวนหนึ่ง
..........ต่อมานำคณะสักการะ วัดต้าม่อน ชมแหล่งกำเนิดจิตรกรรมเวียงต้า ชมภาพนางสีเวย แม่หญิงคนงาม แห่งตำนานเมืองแพร่ที่ได้รับฉายาว่าเป็นโมนาลิซ่าเมืองไทย ซึ่ง วัดต้าม่อน วิหารวัดต้าม่อนหลังเก่าถูกผาติกรรม ไปจัดแสดงอยู่ที่อุทยานศิลปวัฒนธรรมไร่แม่ฟ้าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พุทธศักราช 2531 ปัจจุบันได้สร้างหลังใหม่มาแทนหลังเดิม
เป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าแสนหวาย และสร้างภาพจิตรกรรมฝาผนังให้เหมือนกับวิหารวัดต้าม่อนหลังเก่า ได้แก่ ภาพวาดด้วยสีฝุ่นแบบโบราณ เขียนภาพตามนิทานชาดก 2 เรื่อง คือ “เจ้ากํ่ากาดำ” และ “เจ้าแสงเมืองหลง, ภาพสามบุคคลซึ่งไม่สามารถระบุตัวตนได้แน่ชัด ได้แก่ นายน้อยสิทธิสอน พ่อเฒ่าแสนภิรมย์ และนางสีเวย
..........จากนั้นชมแหล่งน้ำทรัพย์บ้านต้าม่อน(คำชะโนดเวียงต้า) ชมกิจกรรมสาธิตภูมิปัญญาหรือผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม ชมการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม และร่วมรับประทานอาหารเย็น โดยได้รับการต้อนรับจากชาว ต.เวียงต้าอย่างอบอุ่น ซึ่งการเดินทางดังกล่าว ทำให้ทราบถึงวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชาว ต.เวียงต้า เป็นความมีเสน่ห์ และน่าท่องเที่ยว โดยสามารถเที่ยวได้ภายในวัยเดียว จึงเชิญชวนทุกท่านมาเที่ยวชม ของดีเวียงต้า ตามรอย “ยลวิถี ถิ่นเมืองลอง” ได้เลย
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
