20 เม.ย. 2023 เวลา 04:14 • ท่องเที่ยว
อุบลราชธานี

EP3 : อุ้ยอ้าย ล่องริมโขงอีสาน

หยุด 4 วันสงกรานต์ พาอุ้ยอ้าย ล่องอีสาน จากรังสิต สู่ ศรีสะเกษ อุบล โขงเจียม มุกดาหาร นครพนม เน้นถนนเลียบฝั่งแม่น้ำโขงค่อยๆทวนน้ำขึ้นไป
โจทย์คืออยากรู้จักริมฝั่งน้ำโขงโซนนั้นให้มากขึ้น อัพเดทจากที่เคยไป / ไปดูบรรยากาศหาเสียงเลือกตั้ง / แล้วก็อยากรู้ว่าตัวเองรักการขับรถแมงกะไซต์แค่ไหน จะอดทนได้ขนาดไหน ในอากาศเดือนเมษา
บิดกุญแจสต๊าท ออกตอน 5 โมงเย็นวันที่ 13 เมษา เส้นมิตรภาพ ไปมืดโคราช รถไม่ติด จากนั้นวิ่งต่อสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ค่อยๆกระดึ๊บๆไป เพราะไม่เคยมา ช่วงไหนมืดมาก ก็อาศัยขับตามพี่ใหญ่รถทัวร์ ไปถึงกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตอนเที่ยงคืนพอดี นอนที่นี่ 1 คืน
เช้ามาแว้นต่อไปอีก 30 กิโล ผามออีแดง อุทยานฯเขาพระวิหาร ถนนดีชิบหาย ไหล่ทางกว้าง 2 เมตร สำรวจที่นี่เสร็จสายๆ ขับรถต่อไปอีก 100 โล ถึงอุบลฯ ไม่ได้ไปไหนมาก กินข้าวกับกาแฟ แล้วก็ทำงาน ขี้เกียจหลบน้ำ (ไว้จะมีอีกช่วงไม่ใช่เทศกาลนะ)
ผามออีแดง เขาพระวิหาร
หกโมงเช้าแว้นต่อจากเมืองอุบลฯ แวะเขื่อนปากมูล โขงเจียม ไปต่อที่ผาแต้ม ค่อยๆกระดึ๊บๆ เพราะอากาศร้อนมาก 40 องศาบวก ตัวดำปี๋ ต่อจากโขงเจียมไป อ.เขมราฐ อีก 100 โล สองข้างทางมีแต่ป่า ความร้อน และถนนขรุขระ ลาดยางที่เหมือนไม่ลาด แต่สถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก แนวแก่งหิน หาดริมน้ำโขง หาดทราย ทุ่งหิน เสาเฉลียง วัด ถ้ำ ผา น้ำตก จุดกางเตนท์ เพียบ มีที่ให้แวะตลอด ซึ่งไม่ใช่แนวผม 55
จากเขมราฐ มุ่งหน้ามุกดาหาร ไปทางชานุมาน อำนาจเจริญ อีกราว 60 โล เลียบแม่น้ำโขงไป ต่ออีก 50 โล ถึงเมืองมุกดาหาร จะเข้าไปทางตลาดอินโดจีน แต่แวะไม่ได้เลย เขาเล่นสงกรานต์กัน ทำได้แค่ขี่หลบๆ หาข้าวกิน เดินเล่นชมวิวไป ทันใดนั้นพายุฤดูร้อนก็มาตามนัด
ผาแต้ม
—--------
รีบขับหนีพายุสิจ๊ะ มุ่งหน้าไปนครพนม เป็นคนไม่ชอบวิ่งเส้นหลัก ชอบวิ่งเส้นชนบท เลียบแม่น้ำโขงเลยจ้า ทีนี้ก็แจ๊กพอตเลย
มุกดาหารริมโขงเขาเล่นสงกรานต์กันโหดร้ายมาก ไม่คิดว่าจะคึกคักขนาดนี้ เรากลายเป็นตัวประหลาด ขี่มอเตอร์ไซต์ลำเดียว สัมภาระเต็มลำ ฝ่าเข้ามาในถนนชนบท บนถนนและสองข้างทางเต็มไปด้วย ผู้คนและรถ สาดน้ำใส่กันอย่างโหดร้าย
… วิธีการคือผมจะชูมือบ้าง ก้มหัว 1 ครั้งบ้าง เป็นการขอ ส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจ ไม่สาด แต่ถ้ามีบางคนจะสาด ผมจะชี้ไปที่มือถือ เป็นสัญลักษณ์ว่า อย่าสาดไม่งั้นมือถือเปียกนะ สุดท้าย ก็รอดมาได้
วัยรุ่นส่วนใหญ่เข้าใจ ช่วยเหลือผมผู้หลงทางเข้าไปเต็มที่ พวกเขาคงงง อีนี่มาได้ยังไง เรื่องน้ำก็มีกระเด็นมาโดนบ้างแบบไม่ตั้งใจ เพราะคนเยอะจริง แต่การแต่งตัว และความน่ากลัวของผมมั้ง 55 เลยไม่มีใครสาด สุดท้ายก็รอดมาได้ ไม่มีแป้ง แต่รถมีแต่ขี้โคลนแดง เพราะวิ่งบนถนนที่มีน้ำเละๆ
เนี่ยแค่อุดส่าหนีมาทางชนบทเล็กๆ คิดว่าจะไม่มีทราฟฟิกแน่นๆ สุดท้ายก็พลาดบ้าง เป็นปกติของการเดินทาง
เช่นเดียวกันตลอดสองข้างทางที่มีด่านเล่นน้ำกันผมก็จะทำแบบนี้ ก็รอดมาได้หมด ด้วยความชิง respect พวกเขาก่อน ให้เขาเกรงใจไม่สาด 55
อุดหนุนกาแฟสดริมทาง มีเยอะมาก อร่อย ถูก
—----------
พอถึง อ.ธาตุพนม อีก 60 โล จะถึง จ.นครพนม หนีพายุฤดูร้อนไม่พ้นฮะ ฝนริมโขงลมแรงมาก เปียกทั้งตัว มอเตอร์ไซต์ยังเซ ป้ายหาเสียงล้มเกลื่อนตลอดทาง แต่มองแล้วว่า ถ้ากัดฟันขับอีกนิดจะพ้นฝน
แล้วก็พ้นจริงๆ สรุปตกแค่ในตัวอำเภอ จากหนาวฝนกลับเป็นร้อนอบอ้าวเฉย …เสื้อผ้าแห้งภายในเวลาอันรวดเร็ว 55
ค่อยๆกระดึบๆมาถึงนครพนมเย็น แวะสำรวจริมโขง หาไรกิน พักผ่อนไป พอมืดๆ ก็เข้ารร. แต่ก็แจ็กพอต รร.อยู่กลางเมือง จุดเล่นน้ำอีกแล้ว ใช้วิธีการเดิมค่อยๆขอทางเขาไป เฮ่อๆๆ เหนื่อย
โขงเจียม
—-------
เช้าวันต่อมากลับแล้ว ต้องรีบกลับไปทำงาน พอดูจีพีเอส โอ้โห กรุงเทพ นครพนมเจ็ดร้อยกว่าโลเลยหรอวะ กรุงเทพ-อุบล ยังแค่ 600 แถมไม่ใช่ทางตรงด้วย ไม่ใช่ทางหลัก ต้องวิ่งผ่านทางชนบท อำเภอต่ออำเภอ นี่แหละของชอบเลย
จากนครพนม เข้ามาสู่ อ.นาแก วิ่งเข้าภูพานน้อย ทะลุ อช.ภูผายล ออกมาถึงเส้น 12 ที่กาฬสินห์ แต่ไม่เข้าเมือง เป็นถนนใหญ่ ไร้สิ่งจูงใจใดๆ บ้านคนก็น้อย เป็นถนนใหม่ ขนาดขี่แมงกะไซต์ยังเกือบจะหลับในเอา ขับมาได้ 60 กว่าโล ไม่ไหว ลงข้างทางแน่ๆ พอเจอป้าย อ.โพนทอง ก็เลี้ยวซ้ายเลย วิ่งทางชนบทดีกว่า มีต้นไม้ใบหญ้าให้มอง
จากที่เลี้ยวมา ถึงโพนทองต่อเข้าร้อยเอ็ด 100 โล ค่อยยังชั่ว มีชุมชนให้มอง มีร้านกาแฟท้องถิ่นให้แวะ- สายๆถึงร้อยเอ็ด และพักหาของกินอีกตามเคย กาแฟแล้วที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้
จากร้อยเอ็ด ลงมาทางสารคาม วาปีปทุม พยัคภูมิพิสัย อีก 100 กิโล เริ่มเห็นรถหนาตาขึ้น เพราะเป็นวันที่ 16 เมษาคนเริ่มกลับ เริ่มเพลียแดด และง่วง ซัดกาแฟริมทางเข้าไปอีก พอนึกขึ้นได้ว่านี่ยังอยู่มหาสารคามอยู่เลย จะง่วงไม่ได้ ต้องกลับให้ถึงบ้าน
วิธีการคือเพิ่มความเร็วจากปกติขึ้น 20-30 % แล้วดูว่ายังง่วงอยู่ไหม
ปกติสมองจะตื่นกลัวแล้วระวังมากขึ้นจากความเร็วที่เพิ่มขึ้นทำให้เราหายง่วง และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ อาการหายง่วงหมดไป แถมไปเจอรถติดอีก ทีนี้หายง่วงเลย ขับเบรกๆ อยู่อย่างนั้น
ขับกลางคืน เรื่องใหญ่คือการกะน้ำมันให้ดี รอบนี้กะพลาด จนต้องไปเติมเชล ลิตรละเกือบ 50 บาท ฮ่าๆๆ
จากสารคาม เข้า อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ต่อด้วย อ.ประทาย โคราช มาประจบ เส้นมิตรภาพ เป็นอันจบทริป ไม่ต้องใช้สมองอีกแล้ว ใช้แรงอย่างเดียว
16 เมษาคือวันกลับ ต้องใช้สกิลสูงมากในการต่อสู้จราจรบนถนนมิตรภาพ โชคดีว่าฝึกสกิลนี้มาจาก ลาดพร้าว สุขุมวิท รามอินทรา งามวงศ์วาน มานานมาก จนรถติดที่มิตรภาพเราก็ผ่านมาได้ ถึงบ้านตอน 15.30 น. ทำเวลาได้ดีทีเดียว
ทั้งหมดคือ โทรศัพท์เครื่องที่ใช้เป็นจีพีเอส ไม่ค่อยดี สัญญานติดๆขาด ส่วนใหญ่ต้องจำเป็นอำเภอ จำเป็นถนน แล้วขับรถไปตามสัญชาตญาณให้มันต่อๆกัน 55
สุดท้ายขอบคุณแรงงานทุกคนที่ไม่ได้หยุดงานในวันเทศกาล ทำให้ข้าพเจ้ามีชีวิตรอดได้เรียนรู้ และขี่แมงกะไซต์ในวันหยุด
ขอบคุณคนที่คนที่เข้ามาสอบถามสารทุกข์สุดดิบกับคนแปลกหน้าคนนี้ มีคุณตาเจ้าของร้านชำแห่งหนึ่งน่าจะแถว อ.เขมราฐ ผมจอดซื้อน้ำเปล่า กินเสร็จเหลือก็เอามาเช็ดกระจกรถ ล้างแมลงที่ติดหน้าหมวก คุณตาคิดว่ารถมันร้อน ผมคงซื้อน้ำจะไปทำให้เครื่องมันหายร้อน คุณตาเดินมาเสนอจะเอาสายยางต่อน้ำมาฉีดให้ รถจะได้หายร้อน ล้างรถ น่ารักมาก
ร้อน หิวน้ำ ต้องจอดร้านข้างทาง สรุป น้ำไม่เย็น 555
โฆษณา