20 เม.ย. 2023 เวลา 11:56 • หุ้น & เศรษฐกิจ

รู้จัก “Ft” ตัวที่ทำให้ค่าไฟแพง

ช่วงนี้มีข่าวเรื่องค่าไฟที่แพงขึ้นอยู่เต็มโซเชียล รวมถึงการขึ้นค่า Ft หรือ ค่าไฟฟ้าผันแปร ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
2
การขึ้นค่า Ft จะทำให้ค่าไฟฟ้าต่อหน่วยที่เราใช้นั้นปรับสูงขึ้น แม้เราจะใช้ไฟเท่าเดิม
วันนี้ เรามาดูกันว่าค่า Ft มีที่มาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ปกติแล้วต้นทุนในการผลิตไฟฟ้านั้น ถูกคิดมาจากปัจจัยหลายอย่าง ตั้งแต่
- ค่าก่อสร้างโรงไฟฟ้า
- งานระบบสายส่ง
- ระบบจำหน่าย
- การบำรุงดูแลรักษา
- ค่าเชื้อเพลิง
- ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และอื่น ๆ อีกมากมาย
แต่ถ้าเรามองดูให้ดี ต้นทุนบางอย่างนั้น ก็ไม่สามารถที่จะคิดในรูปแบบต้นทุนคงที่ได้
ที่เห็นได้ชัดเลย ก็คือ ต้นทุนค่าเชื้อเพลิง และค่าเงิน ที่มีการปรับเปลี่ยนตามราคาตลาดโลกอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้น การเหมาคิดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าให้คงที่นั้น อาจก่อให้เกิดการเสียผลประโยชน์ต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในแต่ละสถานการณ์
ยกตัวอย่างเช่น หากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงปรับขึ้นสูงมากเกินไป ก็อาจจะทำให้ผู้ผลิตขาดทุนได้
ในทางกลับกัน หากราคาเชื้อเพลิงลดลงไปมากในช่วงเวลาหนึ่ง ประชาชนทั่วไป ก็อาจจะต้องเสียค่าไฟฟ้าเกินความเป็นจริงไปมากเช่นกัน
ค่า Ft หรือ “ค่าไฟฟ้าผันแปร” จึงเกิดขึ้นมา เพื่อให้สะท้อนความเป็นจริงของต้นทุนผันแปรในแต่ละช่วงเวลา
โดยจะมีการพิจารณาทุก ๆ 4 เดือน และสามารถที่จะปรับตัวเลขนี้ให้ “เป็นบวกหรือลบก็ได้” ตามความเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลานั้น ๆ ขึ้นอยู่กับ ต้นทุนสำคัญ ได้แก่
1
- ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า
- ต้นทุนค่ารับซื้อไฟฟ้าจากเอกชน
- ต้นทุนนโยบายภาครัฐ
ส่วนแรก “ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า”
ในช่วงที่ผ่านมา ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะเชื้อเพลิงฟอสซิลนั้น ปรับตัวสูงขึ้นมากทุกตัว
โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ ที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าของประเทศนั้น มีการปรับสูงขึ้นมากกว่าเท่าตัว นับตั้งแต่สถานการณ์โรคระบาด และความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ได้เริ่มขึ้น
เรื่องนี้ถูกสะท้อนไปยังราคาต้นทุนค่าผลิตไฟฟ้าหน้าโรงงาน จากในปี 2564 อยู่ที่ 2.73 บาทต่อหน่วย กลายมาเป็น 3.71 บาทต่อหน่วย ในปี 2565
เรื่องต่อมาคือ
“ต้นทุนค่ารับซื้อไฟฟ้าจากเอกชน”
2
ตั้งแต่ปี 2537 เป็นต้นมา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนรายใหญ่เป็นครั้งแรก เพื่อให้เกิดการแข่งขันทางพลังงานมากขึ้น
ซึ่งเอกชนก็จะขายให้กับ กฟผ. ซึ่งเป็นผู้รับซื้อไฟฟ้า ตามสัญญาที่ตกลงกันไว้
และ กฟผ. ก็จะต้องจ่ายเงินค่ารับซื้อไฟฟ้าพร้อมกับค่าความพร้อมจ่าย
และอีกต้นทุนหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้
นั่นคือ “ต้นทุนนโยบายภาครัฐ”
ต้นทุนที่ว่านี้ ก็เช่น การให้เงินส่วนเพิ่ม หรือที่เรียกกันว่า “ค่า Adder” กับโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่ใช้เชื้อเพลิงจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อสร้างแรงจูงใจในการผลิต
นอกจากนี้ ยังมีเงินที่ต้องหักเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อนำไปพัฒนาระบบไฟฟ้าของประเทศ และส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้น
อ่านมาถึงตรงนี้ เราคงเห็นแล้วว่า ค่า Ft เป็นค่าต้นทุนผันแปร ที่ปรับขึ้นลงได้ตามต้นทุนการผลิตไฟฟ้าในแต่ละช่วงเวลา เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากที่สุดในช่วงเวลานั้น ๆ
ซึ่งในปัจจุบัน ค่า Ft สำหรับบ้านที่อยู่อาศัย ก็พุ่งไปถึง 98.27 สตางค์ต่อหน่วยแล้ว เรียกได้ว่าสูงสุดในรอบ 20 ปีเลยทีเดียว
1
แต่ก็คงต้องบอกว่า แม้จะมีการปรับค่า Ft ขึ้นแล้วนั้น ทาง กฟผ. เอง ก็ยังคงแบกรับภาระต้นทุนจากการตรึงราคาค่า Ft เพื่อลดภาระของประชาชนในช่วงที่ผ่านมา เป็นเงินมากกว่าแสนล้านบาท
หมายความว่า หาก กฟผ. ไม่ได้แบกรับต้นทุนเอาไว้
ค่าไฟฟ้าในบิลทั้งหมดที่ผ่านมา
จะมีราคาสูงกว่านี้ เข้าไปอีก..
1
รู้หรือไม่ว่า กฟผ. ได้ทำกรณีศึกษาไว้ว่า หาก กฟผ. ไม่แบกรับต้นทุนเอาไว้ ค่า Ft ที่จะเรียกเก็บจากเราจะอยู่ที่ 293.60 สตางค์ต่อหน่วย และจะทำให้ค่าไฟฟ้า สูงถึง 6.35 บาทต่อหน่วย เลยทีเดียว..
เปิดบัญชีหุ้นกับ Finansia ที่มีชื่อเสียงในการจัดสรรหุ้น IPO ให้กับลูกค้า หากเราอยากลงทุนซื้อหุ้น ร่วมเป็นเจ้าของกิจการในตลาดหุ้นไทย เราสามารถเปิดบัญชี Finansia ง่าย ๆ อนุมัติไวภายใน 8 นาที คลิกได้ที่ลิงก์ bit.ly/FinansiaxLongtunman
โฆษณา