13 พ.ค. 2023 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์

Emilio Pujol โฆษกกีตาร์คลาสสิกแห่งศตวรรษที่ 20

ณ ยุคสมัยที่กีตาร์ยังไม่ได้ถูกยอมรับในระดับสากล มีความพยายามจากเหล่านักกีตาร์หลายยุคสมัยที่ต้องการผลักดันให้กีตาร์กลายเป็นเครื่องดนตรีบรรเลงเพลงคลาสสิก โดยหนึ่งในผู้มีส่วนขับเคลื่อนอุดมการณ์นี้คืออดีตลูกศิษย์ของฟรานซิสโก ทาร์เรกา ผู้อุทิศตนให้กับการศึกษาประวัติศาสตร์กีตาร์ และหนึ่งในผู้นำการสอนกีตาร์ในแบบวิชาการ ทั้งหมดคือเรื่องราวของ ‘เอมิลิโอ ปูโยล’ (Emilio Pujol, 1886-1980)
ปูโยลเกิดและเติบโตในกรานาเดลลา (Granadella) หมู่บ้านเล็กๆที่ห่างออกไปจากเมืองเลย์ดา (Lleida) ประเทศสเปน ปูโยลเริ่มฝึกร้องเพลงในวงดนตรีประจำหมู่บ้าน และต่อยอดสู่การเข้าเรียนในโรงเรียนดนตรีประจำเขต เมื่ออายุ 11 ปี ปูโยลเริ่มฝึกเล่นบันดูเรีย (Bandurria) เครื่องสายที่มีลักษณะคล้ายกับแมนโดลิน (Mandolin) จนได้รับเลือกเข้าร่วมแสดงดนตรีในนิทรรศการปารีส ปูโยลเริ่มมีเป้าหมายชัดเจนเกี่ยวกับเส้นทางอาชีพ นั่นคือการเป็นนักกีตาร์
‘ฟรานซิสโก ทาร์เรกา’ พบพาน และ ลาจาก
ปี 1901 ปูโยลเดินทางมายังโรงเรียนดนตรีบาเซโลนาเพื่อร่ำเรียนกับฟรานซิสโก ทาร์เรกา (Francisco Tárrega, 1852-1909) ปูโยลรักและเคารพอาจารย์ผู้นี้เป็นอย่างมาก เขามักเรียกทาร์เรกาเป็นภาษาคาตาลันว่า แมสเตอร์ (mestre) หรือ มาเอสโตร (Maestro) ซึ่งแปลว่า ปรมาจารย์ด้านดนตรี
ปูโยลยังอธิบายตารางการเรียนประจำวันไว้อย่างละเอียด โดยช่วงเช้า พวกเขาเริ่มวอร์มนิ้วด้วยเทคนิค อเพจิโอ (Arpeggios), บาร์คอร์ด (Bars), สเลอ (Slur) และทริล (Trill) / ช่วงกลางวัน พักและทานข้าว แต่ข้อมูลในชีวประวัติกล่าวว่าปูโยลจะซ้อมระหว่างช่วงพักกลางวันด้วยเช่นกัน / ช่วงบ่าย เน้นไปที่การตีความบทเพลง และให้หนึ่งในลูกศิษย์ออกมาแสดงเพื่อให้คนในห้องได้วิพากษ์วิจารณ์
ปูโยลเรียนกับทาร์เรกาอยู่ 7 ปี ก่อนจะแยกย้ายไปในปี 1907 โดยเป็นเรื่องน่าเศร้าที่หลังจากนั้นทาร์เรกาต้องประสบกับโรคอัมพาตและเสียชีวิตไปในปี 1909 การจากไปของอาจารย์ผู้เคารพรัก สร้างความเศร้าเสียใจให้ปูโยลอย่างมาก มิกาเอล โลเบต (Miguel Llobet, 1878-1938) หนึ่งในลูกศิษย์ของทาร์เรกา ถึงกับเขียนจดหมายถึงปูโยลด้วยความเป็นห่วง
ทัวร์คอนเสิร์ต และการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์
เมื่อสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุดลง (ปี 1914-1918) ปูโยลรับคำสั่งจากโลเบตซึ่งนำพาเขาไปสู่การทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกในอเมริกาใต้ ซึ่งในระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ต ปูโยลได้อุทิศเวลาให้กับการวิจัยเกี่ยวกับเหล่าเครื่องสายโบราณที่เปรียบเสมือนบรรพบุรุษของกีตาร์
ปูโยลทำการทรานสคริป (Transcribe) หรือการแปลงโน้ตจากเครื่องดนตรีหนึ่งมายังเครื่องดนตรีหนึ่ง โดยเฉพาะงานเพลงสำหรับเครื่องสายอย่างวิฮูเอลา (Vihuela) ปี 1936 ปูโยลได้เป็นผู้ค้นพบวิฮูเอลาตัวดั้งเดิมที่หลงเหลือจากยุคโบราณในพิพิธภัณฑ์ปารีส ต่อมาช่างทำกีตาร์ชาวสเปน มิเกล ซิมพลิซิโอ (Miguel Simplicio) ได้สร้างวิฮูเอลาซึ่งถอดแบบมาจากตัวต้นฉบับ และส่งมอบให้กับปูโยลสำหรับการขึ้นแสดงในคอนเสิร์ตของเขา
ระหว่างปี 1941 ถึง 1946 ปูโยลเผยแพร่หนังสือโน้ตเพลงสำหรับวิฮูเอลา เล่มแรกเป็นงานประพันธ์ของหลุยส์ เดอ นาร์วาซ (Luis de Narváez, 1526-1549) หลังจากนั้นได้รวมเล่มอีกสองครั้งในปี 1949 และ 1963 โดยเป็นงานของอลอนโซ มูดาร์รา (Alonso Mudarra, 1510-1580) และเอนริเกซ เดอ วัลเดอร์ราบาโน (Enriquez de Valderrábano, 1500-1557) โดยงานสุดท้ายก่อนปูโยลจะเสียชีวิต เขาได้รื้อฟื้นหนังสือเล่มยิ่งใหญ่ที่จะกลายเป็นคัมภีร์ของผู้ศึกษาวิฮูเอลานั่นคือ Orphenica Lyra (1554)
ผู้นำการสอนกีตาร์คลาสสิกในสถาบัน
ปูโยลเริ่มจัดคลาสเรียนกีตาร์ในโรงเรียนดนตรีที่ลิสบอนช่วงปี 1946 ถึง 1969 และสอนในระดับปริญญาโทในปี 1953 จากการทาบทามของอังเดรส เซโกเวีย (Andrés Segovia, 1893-1987) และในปี 1965 ปูโยลกลับมายังสเปนเพื่อเปิดคอร์สเรียนกีตาร์ ลูท และวิฮูเอลา ในเมืองบ้านเกิดของตัวเอง ซึ่งมีนักเรียนและอาจารย์จากทั่วโลกสนใจเข้าร่วม
เหล่านี้คือคุณูปการที่ปูโยลสร้างขึ้น การเป็นผู้รื้อฟื้นเครื่องสายบรรพบุรุษของกีตาร์อย่าง ลูท วิฮูเอลา และอื่นๆ งานเรียบเรียงโน้ตเพลงเหล่านี้ทำให้นักกีตาร์ในยุคหลังได้เห็นความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์ ขณะเดียวกันยังทำให้กีตาร์มีความน่าสนใจมากขึ้น
ส่วนในฐานะอาจารย์ ปูโยลมีส่วนผลักดันกีตาร์สู่การเป็นเครื่องดนตรีบรรเลงเพลงคลาสสิกที่มีความจริงจังและซับซ้อน ซึ่งได้เปลี่ยนมุมมองของผู้คนและนำพากีตาร์เข้าสู่การสอนแบบวิชาการ และเป็นที่มาของการเรียนกีตาร์คลาสสิกในระดับอุดมศึกษาและสถาบันสอนดนตรีในปัจจุบัน ทำให้ปูโยลถูกขนานนามว่าเป็น ‘โฆษกแห่งกีตาร์คลาสสิก’ และ ‘ผู้นำการสอนกีตาร์คลาสสิกในศตวรรษที่ 20’
Writer : Literary Boy
สนใจเรียนกีตาร์ : https://www.facebook.com/ptnoteguitar
โฆษณา