26 เม.ย. 2023 เวลา 00:00 • อสังหาริมทรัพย์

วิกฤติ ‘บ้านร้าง’ ในญี่ปุ่น เมื่อคนรุ่นใหม่เมินดูแล ‘มรดกรุ่นพ่อแม่’ อาจสูญเปล่า

ส่องวิธีแก้ปัญหาวิกฤติ “บ้านร้าง” หรือ “อะกิยะ” (Akiya) ของญี่ปุ่น ที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ หลังคนรุ่นใหม่ไม่สนใจบ้านมรดกของพ่อแม่ปล่อยเสื่อมโทรม ด้วยการให้เงินสนับสนุนและช่วยขายต่อ
1
จำนวนประชากรญี่ปุ่นลดลงอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ตามมาด้วยคืออสังหาริมทรัพย์จำนวนมากไม่มีผู้ครอบครอง ถูกทิ้งร้างไปตามกาลเวลา ตามข้อมูลการสำรวจที่อยู่อาศัยและที่ดินในปี 2561 ของรัฐบาลญี่ปุ่น พบว่า มีบ้านร้าง หรือ “อะกิยะ” (Akiya) ประมาณ 8.5 ล้านหลังทั่วประเทศ คิดเป็นประมาณ 14% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมดในประเทศ เมื่อรวมพื้นที่ของอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยในญี่ปุ่นแล้ว มีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่ของที่ดินบนเกาะคิวชูเสียอีก
แต่ในปัจจุบันมีมากกว่านั้น โดยสถาบันวิจัยโนมูระ ระบุว่า ตอนนี้มีอะกิยะมากกว่า 11 ล้านหลัง และคาดการณ์ว่าภายในปี 2576 สัดส่วนของบ้านร้างอาจเกิน 30% ของบ้านทั้งหมดในญี่ปุ่น
1
บ้านส่วนใหญ่ที่ถูกทิ้งร้างในญี่ปุ่น ถูกสร้างมาตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ชนบท เนื่องจากคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ย้ายไปทำงานในเมืองใหญ่ จึงไม่ต้องการรับมรดกอสังหาริมทรัพย์จากบรรพบุรุษ โดยมองว่า “เป็นภาระ” ทำให้บ้านเหล่านี้ถูกทิ้งร้าง หรือในบางครั้งคนรุ่นลูกก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับบ้านที่เป็นมรดกของพ่อแม่
🏡มาตรการรับมือ “อะกิยะ”
เมื่อกลายเป็นอะกิยะแล้ว มูลค่าของบ้านเหล่านี้ย่อมลดลงตามกาลเวลา จนกระทั่งไม่เหลือมูลค่า ราวกับว่าซื้อที่ดินแถมบ้านเก่า ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้คนไม่สนใจดูแลบ้านเข้าไปอีก ทั้งที่บ้านร้างเหล่านี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานแฝงอยู่ในตัวบ้านและที่ดิน ทำให้ภาคองค์กรท้องถิ่นออกมาตรการสำหรับการดูแลอะกิยะเหล่านี้
ทางการได้แก้ไขกฎหมายเมื่อเดือน เม.ย. 2564 อนุญาตให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถปรับขึ้นภาษีบ้านร้างเหล่านั้น หากเจ้าของบ้านไม่เพิกเฉยต่อคำขอของเทศบาลในการบำรุงรักษาหรือรื้อถอน โดยเริ่มจากเมืองเกียวโตที่มีอะกิยะมากถึง 15,000 หลัง ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของญี่ปุ่นที่มีกฎหมายดังกล่าว
3
นอกจากนี้ เทศบาลทั่วประเทศญี่ปุ่นได้ก่อตั้ง “ธนาคารอะกิยะ” (Akiya Bank) สำหรับรวบรวมบ้านร้างสำหรับขายหรือเช่าในราคาถูก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความพยายามของภาครัฐในการฟื้นฟูพื้นที่ชนบทของประเทศและกำจัดอะกิยะ โดยมักจะเป็นเว็บไซต์ง่าย ๆ และมีรูปถ่ายบ้านในหลายมุมมอง อีกทั้งเทศบาลบางแห่งยังได้ร่วมมือกับบริษัทเอกชนให้เข้ามาช่วยกันบริหารธนาคารอะกิยะ
1
🏡อะกิยะกลายเป็นทรัพย์สินทำกำไร
อสังหาริมทรัพย์ในชนบทของญี่ปุ่นถูกประเมินค่าต่ำไปมาก ทั้งที่สามารถสร้างมูลค่าและเป็นที่ต้องการของชาวต่างชาติ “อเล็กซ์ เคอร์” นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรมญี่ปุ่น ยอมรับว่า อะกิยะสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับเขา แม้ว่าจะต้องใช้เงินในการบำรุงรักษาราว 700,000 ดอลลาร์ (ราว 23.7 ล้านบาท) โดยเกือบครึ่งหนึ่งได้รับการช่วยเหลือจากรัฐ
ปัจจุบัน เคอร์เป็นเจ้าของ “โคมินกะ” บ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมถึง 40 หลัง และเปิดเป็นเกสต์เฮาส์ให้เช่าทั้งหมด และเขายังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และการฟื้นฟูชนบทให้กับเจ้าของบ้านที่อาจไม่รู้ว่าบ้านเหล่านี้มีความสำคัญในแง่ความงดงามของสถาปัตยกรรม ประกอบกับธรรมชาติรอบข้างที่งดงาม ยิ่งทำให้บ้านมีราคาสูง แต่กลับถูกทิ้งร้างทั่วญี่ปุ่น
2
อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่เห็นคุณค่าของบ้านเหล่านี้กลับเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่ซื้ออะกิยะแล้วนำมาปรับปรุงใหม่ให้สวยงามหรูหราและอยู่อาศัยได้จริง พร้อมนำมาขายให้กับชาวต่างชาติรุ่นใหม่ หรือเปิดให้เช่าเป็นที่พักผ่าน Airbnb
ชาวต่างกับชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ที่ไม่ได้ให้คุณค่ากับบ้านเก่า และมักจบลงด้วยการทุบทิ้งและขายที่ดิน ทำให้คนรุ่นเก่าเป็นห่วงว่าวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นจะสูญหายไปพร้อมกับบ้านที่ถูกทำลาย
1
อ่านต่อ:
โฆษณา