จับสาวยัดถังน้ำหอพัก กิน-ดื่ม-อาบ-อ้วก!
.
วันที่ 18 กรกฎาคม 2551 หลังจากคนในหอพักแห่งหนึ่งในจ.ปทุมธานี ต่างรู้สึกแปลกใจ เมื่อน้ำที่อาบ และใช้แปรงฟัน มีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง แถมยังเป็นฟองอย่างน่าประหลาดใจ ผู้เช่าทุกคนต่างบ่นกับเจ้าของหอมาหลายวันแล้ว ในที่สุดทางเจ้าหน้าที่จึงขึ้นไปตรวจสอบ ที่แทงค์น้ำชั้นดาดฟ้า เมื่อเปิดออกมา ภาพสุดสยองก็ปรากฎขึ้น แต่ก็ให้ตอบคำถามได้ว่า ทำไมน้ำในหอถึงมีกลิ่นแบบนี้
.
นั่นก็เพราะภายในแทงค์แห่งนี้ มีร่างของหญิงสาวบวมอืดกว่า 3 วัน นอนไร้ลมหายใจอยู่ในนั้น ศพนี้นี่เอง ที่ทำให้น้ำซึ่งใช้ในหอพักเหม็นอย่างชวนอ้วก กลายเป็นความสยดสยองที่ขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์ทุกฉบับทันที นี่คือเรื่องราวตำนานฆ่าศพยัดถังน้ำนี่เอง
.
หลังเกิดเหตุ ตำรวจเข้าตรวจสอบหอพักอื้อฉาวแห่งนี้ทันที นักสืบมือดีถูกส่งระดมกำลังเพื่อไขคดีและไล่ล่าฆาตกรสุดโหดมาให้ได้ สิ่งแรกคือตำรวจต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าหญิงสาวที่ถูกพบในถังน้ำนี้เป็นใคร เพื่อจะได้เปิดประตูต่อจิ๊กซอว์เบาะแสไปเรื่องอื่นให้ได้ หรือไม่งั้นก็ย้อนกลับไปไขว่าคนร้ายคือใคร เพื่อจะได้รู้ชื่อผู้ตาย และทางการก็เลือกวิธีสืบสวนอย่างหลังนี้เอง
.
นักสืบมือพระกาฬถูกส่งระดมเข้าสอบปากคำคนในหอพักทั้งหมด โดยพยานทั้งหมดเมื่อทราบข่าวก็แทบจะอ้วกแตก เข่าทรุด เพราะมารู้ว่าน้ำที่ใช้อาบ ใช้แปรงฟัน และคงมีบางคนใช้ดื่ม มาจากการบ่มอาบร่างศพหลายวันแล้ว ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่พบว่ามีคนในหอพักแห่งนี้พาหญิงสาวปริศนาเข้ามาในห้องเลขที่ 31 ชั้น 4 จากปากคำพยานนำไปสู่การขยายวงสืบสวนเพิ่มขึ้นอีก
.
เมื่อตรวจสอบในห้องพักเลขที่ 31 เจ้าหน้าที่ก็พบหลักฐานมากมาย โดยจากการผ่าพิสูจน์ศพพบว่า หญิงสาวเสียชีวิตจากการถูกรัดคอจนตาย ตำรวจใช้เวลาค้นห้อง สืบเบาะแสอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางคนเช่าหอพักที่ขอย้ายออกกันเป็นจำนวมาก เพราะไม่อาจทนความสยดสยอง และยิ่งนึกถึงน้ำที่อาบมาหลายวัน ก็ขนลุกไปตามๆ กันแล้วด้วย
.
ระหว่างนั้นทางเจ้าของหอพัก ได้ยอมขาดทุนเปิดไฟชั้น 3 และชั้น 4 ไว้ตลอดเวลา เปลี่ยนถังน้ำใหม่ เปลี่ยนระบบเดินน้ำใหม่ และนิมนต์พระมาสวดอุทิศส่วนกุศลเพื่อปัดเป่าสิ่งเลวร้ายออกไป แต่นั่นก็ยังไม่อาจทานกระแสขอคืนห้องได้ แม้หอแห่งนี้จะมีค่าเช่าเพียงเดือนละ 1,600 บาท แถมห้องก็ไม่ได้ดูแคบอะไร แต่เพราะเรื่องสุดสยองปนความกลัว ทำให้ผู้เช่าไม่อาจฝืนทนอยู่ได้อีกต่อไปแล้ว
.
ผู้เช่ารายหนึ่งเผยว่า แม้ตนจะเป็นผู้ชายที่มีความอดทน แต่การมารู้ทีหลังว่า น้ำที่ใช้อาบนั้น มีศพนอนแช่ในถัง แค่นี้ก็ขยะแขยงแล้ว จนต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น พร้อมกับใช้ยาฆ่าเชื้อมาทำความสะอาดร่างกาย เพราะรับไม่ได้ และไม่รู้ว่าจะมีเชื้อโรคอะไรหรือไม่
.
เขาย้ำว่าให้ตายยังไงก็ไม่ขอกลับไปเด็ดขาด
.
อย่างไรก็ดีชีวิตอาจไม่มีทางเลือกได้ง่ายนัก หอพักดังกล่าวเป็นศูนย์รวมของคนทำงานโรงงาน เมื่อราคาที่ถูกพอให้พวกเขาใช้ซุกหัวนอนได้ แม้จะกลัวแต่ก็ต้องอยู่ ดังเช่นหญิงสาวคนหนึ่งที่ยังคงปักหลักพักกับเพื่อน แม้จะขยะแขยงน้ำบ้าง แต่เพราะภาวะเศรษฐกิจลำเค็ญ การจะหาหอถูกๆ แบบนี้อยู่ คงยากแล้ว อีกทั้งเธอพักชั้น 1 เพื่อนพักชั้น 2 ที่เกิดเหตุอยู่ชั้น 4 แม้จะหวั่นใจ แต่ก็น่าจะผ่านไปได้
.
ระหว่างที่เจ้าของหอ นำน้ำมาให้ผู้เช่าใช้ฟรี ระหว่างที่คนเช่าย้ายออก และคนอยากย้ายออก แต่ไม่มีหนทางไป จำต้องอยู่ นักสืบก็ไล่ล่าไขคดี พวกเขาพบตัวเจ้าของห้องเกิดเหตุ ก่อนจะไล่ล่าบี้ตามครอบครัว จนในที่สุด 3 วันหลังพบศพ ทางการก็จับกุมนายอริยธัช โกมลเกษรักษ์ได้ และเมื่อสอบปากคำจึงรู้ว่าหญิงสาวที่เสียชีวิตนั้นชื่อ ราตรี หมั่นดี สาวคาราโอเกะ จากจ.พระนครศรีอยุธยานี่เอง
.
นายอริยธัชให้การว่า ตัวเองไปเที่ยวคาราโอเกะที่อยุธยา และต้องตาถูกใจกับผู้ตาย จึงพากลับห้อง มีสัมพันธ์ร่วมรัก และเสพยาบ้าด้วยกัน 1 เม็ด เช้ามาผู้ต้องหาไปเข้าห้องน้ำก่อนออกมา พบยาบ้าหายไป 20 เม็ด จึงคาดคั้นกับหญิงสาว หาว่าขโมยไป แม้อีกฝ่ายจะปฏิเสธ แต่เขาก็ไม่ฟัง ลงมือทำร้ายและเอาเสื้อรัดคอจนอีกฝ่ายตาย
.
หลังจากพบว่าได้ฆ่าคนไป เขาก็หนีไปบ้านเพื่อน 1 คืน ก่อนจะกลับมาหอพักแห่งนี้ โดยแวะซื้อถุงดำ ก่อนห่อร่างราตรี พาขึ้นไปชั้นดาดฟ้า ยัดเข้าถังน้ำ ก่อนจะกลับมาพักที่ห้องปกติ จนมีคนพบศพ จึงได้หลบหนีไปอยู่กับเพื่อน และถูกตำรวจจับกุมได้ที่อยุธยาในที่สุด
.
ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทำแผน ท่ามกลางการคุ้มกันอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการรุมประชาทัณฑ์ ก่อนส่งตัวเข้าคุก ปิดคดีได้สำเร็จ แต่แม้จะผ่านไปแล้วเกือบ 10 กว่าปี คดีนี้ก็ยังเป็นที่สนใจและจดจำในความผะอืดผะอมให้กับประชาชนและสังคมอย่างมาก จนถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ถูกเล่าขานตำนานถังน้ำสยอง เป็นอีกคดีที่อยู่ในความทรงจำขนลุกของประเทศไทยจนถึงวันนี้
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
