ออกกำลังกาย แค่ไหนจึงจะพอดี
ถ้าถามผู้เชี่ยวชาญ ว่าเราควรจะออกกำลังกายบ่อยแค่ไหน และ ยาวนานเพียงใดในแต่ละครั้ง เราอาจจะงงและสับสนกับคำตอบพอสมควร
ไม่มีใครได้ชัดเจน แต่ละสำนักก็มีคำแนะนำที่แตกต่างกันไป ต่างคนต่างมองจากมุมของตัวเอง สุดท้ายผลวิจัยก็จบลงด้วยข้อเสนอแนะที่ไม่เหมือนกัน
มีสำนักอเมริกันแห่งหนึ่งบอกว่า การออกกำลังกายครั้งละ 20 นาที โดยไม่จำเป็นต้องให้ถี่เกินไป เช่น วันเว้นวัน ก็มีผลดีเท่ากับการออกกำลังเป็นชั่วโมงๆ อย่างที่บางคนทำอยู่
ซึ่งพอมีผลวิจัยออกมาอย่างนี้ ก็มีเสียงเฮจากคนทำงานที่ไม่สามารถออกกำลังกายได้ทุกวันหรือทำครั้งละนานๆเป็นชั่วโมง
ต่อมาไม่นานก็มีผลวิจัยจากสำนักตะวันตกอีกแห่งหนึ่งว่า ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง เพื่อรักษาน้ำหนักให้เท่าเดิม
ถ้าคุณเป็นคนที่ออกกำลังกายอยู่ประจำ (แต่ไม่สามารถทำได้ยาวนานถึงครั้งละ 1 ชั่วโมง) เพราะต้องการรักษาสุขภาพ ด้วยการขยับร่างกายไปมาตามคำแนะนำของหมอหรือเทรนเนอร์หรือผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย ก็เกิดคำถามแน่นอนว่า
"ตกลงจะเอายังไงกันแน่"
แน่นอนว่า ชาวบ้านธรรมดาอย่างเราควรจะทำตัวอย่างไร
คำตอบที่ทำให้เราสบายใจที่สุดได้ในระดับหนึ่ง คือ ไม่ต้องไปสนใจผลการศึกษาที่ฟังดูเหมือนจะขัดแย้งกัน ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวนั่นก็คือ......
Active ใช่แล้ว ขอให้แอ๊คทีฟ เอาไว้เป็นใช้ได้ สุขภาพของท่านก็จะไม่มีปัญหาแต่ประการใด
เคลื่อนไหวและขยับร่างกายไปมา หรือให้เข้าใจง่ายๆเลย อย่าอยู่เฉยๆ นานๆ เช่น นั่งแช่อยู่หน้าทีวีทั้งวัน หรือเผลอไม่ได้ที่จะนั่งอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งเป็นระยะเวลานานๆ อย่านั่งอยู่หน้าจอคอม การเคลื่อนไหวที่น้อยเกินไป
สำหรับเด็กหรือเยาวชน ควรจะออกกำลังกายวันละหนึ่งชั่วโมงทุกวัน ส่วนผู้ใหญ่ก็ควรออกกำลังกายสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมงครึ่งเป็นอย่างน้อย ควรจะออกกำลังกายที่มีความหนักอยู่ในระดับปานกลาง คือ ไม่หนักเกินไปและไม่เบาเกินไป
การออกกำลังกายที่แนะนำที่ง่ายที่สุดคือ การเดินเร็ว หรือไม่ก็เป็นการออกกำลังกายสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง 15 นาที่ ในลักษณะคึกคัก เช่น การกระโดดเชือก
ถ้าเป็นการออกกำลังกายระดับปานกลางก็ใช้เวลายาวนานหน่อย ถ้าออกกำลังเข้มข้นก็ให้ใช้เวลาแบบสั้นๆ ความเข้มข้นช่วยชดเชยระยะเวลาได้
จะว่าไปแล้ว ความจริงเป็นเรื่องของสามัญสำนึก ผู้เชี่ยวชาญอาจจะเป็นไกด์ในช่วงแรกๆ เพราะในตอนที่ร่างกายของเราเริ่มปรับตัวและชินตามการออกกำลังกาย เราจะสามารถรู้ระยะเวลาในการออกกำลังกายแบบ น้อย ปานกลาง มาก อยู่ที่ตัวเราเองว่า
ถ้าออกแรงมาก ก็ไม่ควรหักโหมทำนานเกินไป ถ้าออกปานกลาง ก็ทำให้นานขึ้นหน่อย ถ้าไม่ออกแรงเลย มันจะทำให้เสียเวลาไม่เกิดประโยชน์แต่ประการใด
ถามว่า ทำไมผลวิจัยต่างกันมาก ระหว่าง 20 นาทีกับ 1 ชั่วโมง คำตอบคือ การสำรวจจากประชากร 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนหนุ่มวัยฉกรรจ์ กับ กลุ่มผู้หญิงอายุวัยกลางคน แน่นอนครับว่า สภาพร่างกายและการตอบสนองต่อการออกกำลังกายไม่เหมือนกัน
ประเภทการออกกำลังกาย ที่ให้คนทั้ง2กลุ่มทำก็ต่างกันสำหรับชายหนุ่มนั้น เขาให้ขี่จักรยานด้วยความเร็วสูงสลับกับให้พักในเวลาเท่ากันจนครบ 20 นาที นั่นแปลว่าเร่ง 10 นาที พัก 10 นาที
การออกกำลังกายอย่างนี้ไม่ค่อยสะดวกสำหรับคนส่วนใหญ่เพราะ หนัก แรง อาจจะได้รับบาดเจ็บ
แต่อาจจะเหมาะกับ หนุ่มสาวที่ฟิตจัดที่ต้องการท้าทายจังหวะการเต้นของหัวใจเท่านั้น สำหรับคนทั่วไปอย่างเราๆนั้น ควรออกกำลังกายระดับปานกลางให้ได้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง และทำด้วยความสุข ความสะดวก และสบาย โดยไม่รู้สึกรับแรงกดดันหรือรู้สึกเครียดหรือเกร็งเป็นดีที่สุด
สรุปครับ ไม่ต้องไปอ่านผลวิจัยศึกษาสำนักไหนก็แล้วแต่ ฟังดูขัดแย้ง (เขาก็บอกว่าไม่ได้ขัดไม่ได้แย้ง เพียงแค่เน้นย้ำเรื่องความเข้มและระยะเวลาที่แตกต่างกัน) แต่ขอให้ทำสม่ำเสมอและต่อเนื่องอย่างมีความสุขก็พอละครับ
ถ้าคุณบอกว่า หาเวลาออกกำลังกายไม่ได้
คุณก็ต้องหาเวลาไว้เจ็บป่วยเท่านั้นเอง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
